ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 256 ตัดความสัมพันธ์

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวอุ้มมู่นวลนวลงไปชั้นล่าง และเจอกับซือเฉิงยวี่ที่เดินเข้ามา

ซือเฉิงยวี่เหลือบมองมู่นวลนวลที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วยิ้ม:“ทำไม?จะรีบพานวลนวลไปไหน?ฉันจำได้ว่าตอนนี้นวลนวลเป็นผู้ต้องสงสัย”

โม่ถึงเซียวมองซือเฉิงยวี่ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น:“ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”

ซือเฉิงยวี่ถูกโม่ถิงเซียวมองด้วยสีหน้าท่าทางที่เย็นชาและไม่เป็นมิตร

ซือเฉิงยวี่ไม่ได้พูดอะไรอีก และโม่ถิงเซียวก็เดินผ่านเข้าไป

ซือเย่จอดรออยู่ที่หน้าประตู และเมื่อเห็นโม่ถิงเซียวอุ้มมู่นวลนวลเดินมาก็เปิดประตูให้เขา

โม่ถิงเซียวเข้าไปในรถและซือเย่ก็ขับรถออกไป

หลังจากกลับมาถึงที่คฤหาสน์ โม่ถิงเซียวก็อุ้มมู่นวลนวลขึ้นไปชั้นบน

ในขณะเดียวกันป้าหูก็เดินออกมาจากห้องครัว:“คุณชาย”

โม่ถิงเซียวรู้สึกแปลกใจ:“ป้าหู?”

ในวันส่งท้ายปีเก่าโม่ถิงเซียวและมู่นวลนวลกลับไปบ้านเก่า จึงให้ป้าหูและคนรับใช้คนอื่นๆพักร้อน

ป้าหูเดินเขามา และเห็นมู่นวลนวลที่อยู่ในอ้อมแขนของโม่ถิงเซียว จึงถามอย่างเป็นห่วง:“คุณชาย เกิดอะไรขึ้น?คุณหญิงไม่เป็นไรใช่ไหม?เมื่อเช้าฉันเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์เลยรีบกลับมา”

โม่ถิงเซียวพูดเบาๆ:“ไม่เป็นไร”

จากนั้นก็ค่อยๆเดินขึ้นไปชั้นบน

เดินไปได้สองก้าวเขาก็หยุด แล้วหันไปมองป้าหู:“สองสามวันนี้คงต้องรบกวนป้าหูแล้ว”

ป้าหูพูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า:“คุณชายอย่าพูดอย่างนั้น การดูแลคุณหญิงเป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”

โม่ถิงเซียววางมู่นวลนวลลงบนเตียงในห้องนอน เปิดเครื่องทำความร้อน และห่มผ้าให้เธอ เขายืนมองเธออยู่ที่ข้างเตียงสักพักก่อนที่จะจากไป

……

เมื่อมู่นวลนวลตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกปอดที่หลังคอนิดหน่อย

“คุณหญิง คุณตื่นแล้ว?”

เสียงของป้าหู?

มู่นวลนวลหันไปมองคนที่ยืนอยู่ที่ข้างเตียง เป็นป้าหูนี่เอง?

“ป้าหู?ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?” ขณะที่มู่นวลนวลพูดก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้น

ป้าหูรีบยื่นมือเข้ามาช่วยเธอ:“คุณชายมาส่งคุณ ตอนนี้อยู่ที่คฤหาสน์แล้ว”

หลังจากได้ยินอย่างนั้น มู่นวลนวลก็มองไปรอบๆ และพบว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนที่บ้านเก่า

“โม่ถิงเซียวมาส่งฉัน?แล้วเขาล่ะ?” มู่นวลนวลจับมือป้าหูแล้วถาม

ป้าหูพูดว่า:“หลังจากที่คุณชายมาส่งคุณแล้วก็ออกไป หายไปไหนฉันก็ไม่รู้”

มู่นวลนวลกัดฟันและพูดพึมพำ:“โม่ถิงเซียว ไอบ้า!”

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บ้านเก่า เธอรู้สึกว่าตัวเองบังคับให้โม่ถิงเซียวพูดความจริงได้แล้ว

โม่ถิงเซียวไอผู้ชายบ้าคนนั่นก็เลยตีให้เธอสลบ

เหมาะกับสไตล์ของโม่ถิงเซียวเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ก็ทำให้มู่นวลนวลแน่ใจมากขึ้นว่าโม่ถิงเซียวมีเรื่องปิดบังเธอ และไม่ให้เธอสงสัยเขา

เสียงพึมพำๆที่มู่นวลนวลด่าโม่ถิงเซียวเมื่อกี้ ป้าหูได้ยินไม่ค่อยชัด จึงอดไม่ได้ที่จะถาม:“คุณหญิง คุณพูดว่าอะไรนะ?”

มู่นวลนวลรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ยิ้มและพูดว่า:“ไม่มีอะไรฉันก็แค่หิวนิดหน่อย ป้าหูมีอะไรกินบ้าง?”

“มีค่ะ คุณหญิงอยากกินอะไร ฉันทำได้หมด……”

ป้าหูรักและเอ็นดูโม่ถิงเซียว แต่หลังจากที่มู่นวลนวลตั้งครรภ์ เธอก็พยายามเปลี่ยนรูปแบบการทำอาหารให้มู่นวลนวลได้กินของอร่อย เมื่อได้ยินมู่นวลนวลบอกว่าหิว เธอก็หันเหความสนใจไปทันที

ป้าหูลงไปทำอาหารที่ชั้นล่าง มู่นวลนวลก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อคลุม

เธอเหลือบไปเห็นโทรศัพท์วางอยู่ที่หัวเตียง

เธอเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มันเป็นโทรศัพท์ที่เธอใช้ก่อนหน้านี้

มู่นวลนวลแบะปาก เธอรู้ว่าโม่ถิงเซียวเอามันมาให้เธอ

แต่ทำไมถึงเอามันมาให้ เธอก็ไม่รู้

หลังจากเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำแล้ว เธอก็ออกจากห้องนอนและเดินลงไปที่ชั้นล่าง เห็นการตกแต่งห้องที่คุ้นเคย มู่นวลนวลก็ใจลอย

เธอกับโม่ถิงเซียวไปที่บ้านเก่าสามสี่วัน เมื่อกลับมาอีกครั้งเธอรู้สึกราวกับว่าผ่านไปหลายศตวรรษ

ป้าหูทำอาหารหลากหลาย มีทั้งเมนูผัดตุ๋นต้มและของหวาน ล้วนแต่ทำมาให้มู่นวลนวล

หลังจากที่มู่นวลนวลกินอิ่มแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะโทรหาโม่ถิงเซียว

เธออยากไปเยี่ยมคุณปู่

เธอเป็นกังวลเรื่องอาการของคุณปู่มาก

คิดๆแล้วเธอก็ลังเลอีกครั้ง

ตอนนี้โม่ถิงเซียวมีท่าทีแปลกๆกับเธอ ถ้าเธอโทรไปบอกเขาว่าอยากจะไปเยี่ยมคุณปู่ เขาคงไม่ให้เธอไปอย่างแน่นอน

มู่นวลนวลถือโทรศัพท์ แล้วคิดไปพลางเดินไปพลาง จนไปถึงห้องรับแขก

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก

ไม่นานก็มีคนเรียกชื่อเธอ

“มู่นวลนวล ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน!”

เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของคนแปลกหน้า แต่เป็นเสียงของมู่หวันฉี

มู่นวลนวลกำโทรศัพท์แล้วเดินออกไป เธอเห็นบอดี้การ์ดกำลังขวางไม่ให้มู่หวันฉีกับเสี่ยวชูเหอเข้ามา และด้านหลังยังมีมู่ซือเหยี่ยนที่ตามา

ทันทีที่มู่หวันฉีเห็นมู่นวลนวล เธอก็เม้มริมฝีปากและยิ้มเยาะ:“ไม่เจอกันนาน ดูเหมือนเธอจะผอมลงมากเลยนะ”

มู่นวลนวลเลิกคิ้ว และพูดคล้อยตามว่า:“งั้นหรอ?เธอก็ดูเหมือนอ้วนขึ้นมากเลยนะ”

แล้วเสี่ยวชูเหอก็พูดว่า:“นวลนวล เราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

ในคฤหาสน์มีบอดี้การ์ดและคนรับใช้มากมาย แม้ว่ามู่หวันฉีจะเกลียดเธอเข้ากระดูก ก็คงไม่สามารถทำอะไรได้

มู่นวลนวลยกมือขึ้นบอกใบ้ให้บอดี้การ์ดปล่อยพวกเขาทั้งสามคนเข้ามา

เมื่อเข้ามาในห้องโถง มู่นวลนวลนั่งลงบนโซฟา และทั้งสามคนนั่งอยู่ด้านข้าง

มู่นวลนวลกวาดสายตามองพวกเขาทีละคน แล้วหันไปมองป้าหู:“ป้าหู รินนำชา”

มู่หวันฉีมาหาเธอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาเพื่อหัวเราะเยาะเธอ มู่ซือเหยี่ยนน่าจะมาส่งพวกเธอ ส่วนเสี่ยวชูเหอ……เธอก็ไม่รู้

ไม่รอให้มู่หวันฉีพูด มู่นวลนวลก็พูดก่อนว่า:“ซือเฉิงยวี่บอกเธอหรอ?

เธอเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์ของโม่ถิงเซียว มู่หวันฉีก็ตามมาถึงหน้าประตู แน่นอนว่าต้องเป็นซือเฉิงยวี่ที่บอกเธอ

“เธอสนใจด้วยหรอว่าใครบอกฉัน?” มู่หวันฉีตะคอกอย่างเย็นชา:“เธอนี่ไม่กลัวตายจริง แม้แต่เจ้าสัวโม่ก็กล้าลงมือ”

มู่นวลนวลไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระกับเธอ และหันไปมองเสี่ยวชูเหอ:“มีเรื่องอะไรไหม?”

“ข่าวในหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?ทำไมเธอต้องลงมือกับเจ้าสัวโม่ ตระกูลโม่ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่!” สีหน้าท่าทางของเสี่ยวชูเหอดูกังวล

มู่นวลนวลพูดอย่างไม่ใส่ใจ:“ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ?”

ตอนนี้ไม่ว่าเสี่ยวชูเหอจะพูดอะไร ในใจของมู่นวลนวลก็สงบ และไม่รู้สึกใดๆ

ไม่แคร์ และแน่นอนว่าไม่เสียใจ

มู่ซือเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆก็พูดว่า:“นวลนวล เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ เธอก็รู้ว่าตระกูลโม่เป็นตระกูลที่ใหญ่ พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้

“พวกเรา?” มู่นวลนวลพูดถากถางว่า:“คำพูดนี้ฟังดูเหมือนพวกคุณจะช่วยฉัน?”

มู่ซือเหยี่ยนหยุดพูด

หลังจากนั้นไม่นานคนตระกูลมู่ก็จากไป

มู่นวลนวลเดาว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคือมาเพื่อยืนยันว่าข่าวในหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องจริง ดังนั้นจึงตัดความสัมพันธ์กับเธอตั้งแต่เนิ่นๆ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท