มู่นวลนวลขึ้นรถแล้ว คนขับรถก็เหยียบคันเร่ง ขับรถอย่างรวดเร็วราวกับบินได้
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ขับรถอย่างมั่นคงปกติ ไม่ได้ทำให้มู่นวลนวลรู้สึกไม่สบาย
เธอชะโงกหน้าไปมองคนขับรถ พบว่าเป็นใบหน้าคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
มู่นวลนวลถามออกไป“ใครให้นายมารับฉัน?”
“คุณชายของผม”คนขับรถจิตใจจดจ่อกับการขับรถ แต่ในเวลาที่ตอบคำถามเธอ น้ำเสียงก็เคารพนบนอม
มู่นวลนวลเลิกคิ้วขึ้น“คุณชายของนายเป็นใคร?”
คนขับรถยังไม่พูดว่าคุณชายของเขาเป็นใคร เพียงพูดว่า“คุณชายของผมพูดว่า คุณมู่รู้ว่าเป็นใคร
เธอรู้?
ป้ายทะเบียนรถยนต์คันนี้เธอคุ้นจริงๆ
แต่ว่าเธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์ของใคร
มู่นวลนวลคิดไปคิดมา นำคนที่ตัวเองรู้จักในสมองกลับมาทบทวน สุดท้ายในสมองก็สว่างสุกใส ในที่สุดก็คิดออกว่าเจ้าของหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์คันนี้คือใคร
หลังจากรู้ว่าใครช่วยเธอ ในใจมู่นวลนวลก็ยุ่งเหยิง
ตอนนี้ ทันใดนั้นคนขับรถก็เปิดปากพูด“ทางข้างหน้าผมจะจอดรถ หลังจากที่คุณมู่ลงจากรถ ก็ตรงไปขึ้นรถยนต์คันสีขาวนั่นก็ได้แล้ว”
มู่นวลนวลหรี่ตามองไปข้างหน้า ก็มองเห็นรถยนต์คันสีขาวจอดอยู่ข้างถนน
ความรู้สึกภายในใจของเธอซับซ้อน
คนที่ช่วยเธอคนนี้ คือคนที่เธอไม่อยากเกี่ยวข้อง
โม่ถิงเซียวไล่ตามมาด้านหลัง ถ้าหากถูกเขาไล่ตามทัน เธอก็จะหนีไม่ได้แล้วจริงๆ
หนีโม่ถิงเซียว กับคนที่ไม่อยากจะมีบุญคุณด้วย เห็นได้ชัดเจนว่าเธอเลือกหนีโม่ถิงเซียว
ดังนั้น ในเวลาที่คนขับรถจอดรถ มู่นวลนวลไม่ได้ลังเลที่จะตรงไปขึ้นรถยนต์คันสีขาวนั้น
รถยนต์สีขาวกับรถยนต์ทีเธอนั่งก่อนหน้านี้ทั้งสองคันขับแยกกันไปทิศทางตรงกันข้าม เธอหันหน้ากลับไปมอง ก็มองเห็นรถยนต์ของพวกโม่ถิงเซียวไล่ตามรถยนตร์ที่เธอนั่งก่อนหน้านี้ทันแล้ว
มู่นวลนวลมึนงงไปชั่วขณะ จึงถามคนขับรถ“พวกเราสลัดทิ้งพวกโม่ถิงเซียวแล้ว?”
“ตามหลัก ก็เป็นแบบนี้”คนขับรถที่ตอบเธอ ยังคงเป็นใบหน้าที่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง
มู่นวลนวลรู้แล้วว่าคนขับรถพูดว่า“คุณชาย”คือใคร ก็ประหลาดกับความคิดที่รอบคอบของ“คุณชาย”พวกเขา อดไม่ได้ที่จะถามออกไป“คุณชายของพวกนายล่ะ?”
คนขับรถพูด“คุณชายรอคุณอยู่ที่สนามบิน”
สนามบิน?
มู่นวลนวลไม่ได้ถามอะไรอีก
ภายในเวลานั้นก็เปลี่ยนรถอีกหลายคัน
รถทุกคันที่เธอเคยนั่ง กับรถที่เธอนั่ง ทั้งหมดขับไปทิศทางตรงกันข้าม
แบบนี้ ถึงแม้ว่าโม่ถิงเซียวจะสังเกตเห็นว่าพวกเขาไล่ตามไม่มีเงามู่นวลนวลอยู่ในนั้น จะหันกลับมาไล่ตามอีกก็ไม่ทันแล้ว
ระหว่างทางเธอเปลี่ยนรถหลายคันมาก ทั้งหมดขับไปทิศทางตรงกันข้าม โม่ถิงเซียวไม่สามารถตามหาได้
มู่นวลนวลรู้สึกงงงวย ในใจไม่มีความรู้สึกว่าเป็นความจริงๆ
ทำแบบนี้เธอสามารถจะหลุดพ้นจากโม่ถิงเซียวจริงเหรอ?
จนกระทั่งรถยนต์มาถึงสนามบิน มู่นวลนวลจึงมีสติกลับมา
เธอกำลังจะเปิดประตูลงรถด้วยตัวเอง ประตูรถก็ถูกเปิดจากทางด้านนอกแล้ว
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นไปมอง ในดวงตาเห็นใบหน้าผู้ชายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาเรียกเธออย่างสนิทสนม“นวลนวล”
ถึงแม้ว่ามู่นวลนวลจะคิดขึ้นได้ก่อนแล้วว่าเจ้าของหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์เป็นใคร แต่เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าต่อตา เธอก็ยากที่จะปิดปังความประหลาดใจไว้ได้
“ซินชูฮัน เป็นนายจริงๆ”
มู่นวลนวลลงจากรถ มองไปที่ซินชูฮันอย่างมั่นคง เหมือนกับว่าเป็นครั้งแรกที่รู้จักซินชูฮัน
ซินชูฮันได้ยินคำพูดของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าก็เพิ่มมากขึ้น“ฉันรู้ ว่าเธอยังจำหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์ฉันได้”
เธอรู้จักซินชูฮันมาก่อนแล้ว ในเวลานั้นก็ชอบซินชูฮันมาก
ในช่วงเวลาที่อายุสิบกว่าขวบ ชอบคนหนึ่งคนก็จำทุกอย่างของเขาทั้งหมดโดยควบคุมตัวเองไม่ได้ และหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์ของเขา ก็เป็นช่วงเวลาที่มู่นวลนวลชอบเขาและจดจำไว้
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ชอบซินชูฮันอีก ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับซินชูฮัน ก็ค่อยๆลืมหายไป
แต่ว่า ซินชูฮันที่อยู่ตรงหน้ากับซินชูฮันที่เธอรู้จักไม่เหมือนกัน
มู่นวลนวลหรี่ตามอง ถามอย่างระมัดระวัง“ทำไมนายรู้ว่าฉันกับโม่ถิงเซียวพักอยู่ที่โรงแรมนั่น?ทำไมถึงช่วยฉัน?”
ก่อนหน้านี้ซินชูฮันกับมู่หวันฉีอยู่ด้วยกัน ทำเรื่องเหล่านั้น เธอไม่เคยลืม
รอยยิ้มบนใบหน้าของซินชูฮันดึงกลับไป น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นจริงจัง“คฤหาสน์ของโม่ถิงเซียวถูกไฟไหม้แล้ว สื่อมวลชนพูดพร้อมเพรียงกันว่าเธอเสียชีวิตอยู่ในกองไฟนั่น ฉันไม่เชื่อ ก็เลยให้คนแอบตามโม่ถิงเซียว”
แอบตามโม่ถิงเซียว ก็เป็นธรรมชาติที่ได้พบมู่นวลนวล
สายตาของซินชูฮัน ทำให้มู่นวลนวลหวาดกลัว
เธอพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“ฉันจะตายหรือไม่ตายเกี่ยวข้องอะไรกับนาย?”
ซินชูฮันเดินเข้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าว กระตุกยิ้มมุมปาก“แน่นอนว่าเกี่ยวข้อง”
เขาหยุดไปพักหนึ่ง เพิ่มประโยคเข้าไป“ฉันก็ปวดใจ”
น้ำเสียงครึ่งหนึ่งดูจริงครึ่งหนึ่งดูปลอม ยากที่แยกแยะ
มู่นวลนวลยากที่จะนำผู้ชายตรงหน้าที่มีความคิดรอบคอบคนนี้ได้ กับซินชูฮันคนที่ขี้ขลาดไร้ความสามารถเมื่อก่อนมารวมเข้าด้วยกันได้
มู่นวลนวลจำเป็นต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว“ไม่ตลก”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่เชื่อฉัน แต่เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง”ซินชูฮันพูดจบ ก็หยิบตั๋วเครื่องบินสองใบออกมา“พวกเราต้องเช็คอินแล้ว”
“ไปไหน?”
ก่อนหน้านี้คนขับรถที่มาส่งเธอเคยพูดว่า ซินชูฮันรอเธออยู่ที่สนามบิน
ซินชูฮันพูด“ออกนอกประเทศ”
มู่นวลนวลชะงักไปทันที
“ทำไม ตัดใจไม่ลง?”ซินชูฮันยิ้มและมองเธอ“เธอลืมไปแล้วเหรอช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ถูกโม่ถิงเซียวควบคุมอิสระยังไง ยังถูกคนตระกูลโม่ต้องโทษทั้งที่ไม่ได้ทำยังไง?”
มู่นวลนวลได้ฟัง เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าซินชูฮันจะสนใจเรื่องของเธอจริงๆ
ซินชูฮันดูออกว่าเธอลังเลและสองจิตสองใจ น้ำเสียงมีความหลอกให้ลุ่มหลง“คนตระกูลโม่ซับซ้อน ถ้าหากเธอตกลงไปแม้แต่กระดูกก็ถูกตระกูลโม่คนกลุ่มนั้นกินจนไม่เหลือ ถ้าหากตอนนี้เธอออกมา หลบหนีออกนอกประเทศสองปี เป็นธรรมชาติที่โม่ถิงเซียวก็จะลืมเธอ เธอก็สามารถจะใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้ว…”
มู่นวลนวลหยุดคำพูดของเขา“นายรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม?”
ซินชูฮันเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าไม่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ได้“ทุกคนก็ล้วนมีความลับของตัวเอง”
มู่นวลนวลไม่คิดจะพัวพันเรื่องนี้กับซินชูฮัน เพียงแค่ถาม“นายจะออกนอกประเทศกับฉัน?”
“แน่นอน”ซินชูฮันก็ยิ้มขึ้นมา
สำหรับนิสัยคนที่อยู่ตรงหน้ากับซินชูฮันเมื่อก่อนไม่เหมือนกัน เป็นธรรมชาติที่มู่นวลนวลจะเตรียมป้องกันตัว
จากคำพูดไม่กี่คำของซินชูฮัน เธอรู้สึกคล้ายกับว่าซินชูฮันชอบเธอ
ถ้าหากเรื่องทุกอย่างที่ซินชูฮันทำเป็นเพราะเขาเสแสร้งออกมา ถ้าอย่างนั้นแผนการของเขาก็แตกต่างกับโม่ถิงเซียวไม่มากอย่างแน่นอน
มู่นวลนวลไม่อาจจะออกนอกประเทศกับเขาแน่นอน
มู่นวลนวลไม่พูดจา ซินชูฮันก็ยื่นมือไปจับบ่าของเธอ“ใกล้ถึงเวลาแล้ว ไปเถอะ”
มู่นวลนวลหันตัวกลับ หลบมือของเขา
ซินชูฮันสีหน้าเปลี่ยน แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเยอะ
…
ประมาณว่าเพื่อไม่ให้เป็นจุดที่น่าสนใจถูกจับตามอง ซินชูฮันจองตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด
ทั้งสองคนผ่านการเช็คอินมาอยู่ที่ในห้องสนามบินเรียบร้อย
เที่ยวบินที่ซินชูฮันได้จองก็เริ่มขึ้นเครื่องแล้ว
มู่นวลนวลกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นก็หมอบลงบนพื้น“ฉันปวดท้อง…อยากเข้าห้องน้ำ…”