ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 341 ตาของฉันบอดไหม

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

หลี่จิ่วเหิงยิ้มและยังคงทำหน้าตาท่าทางเหมือนไม่พิษไม่มีภัย เขาเปิดดูวีแชทของเธอต่อหน้าเธอ

เมื่อมู่นวลนวลเห็นว่าเขาเปิดดูวีแชทของเธอจริงๆ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

หลี่จิ่วเหิงคลิกเขาไปดูโมเมนต์ของเธอแล้วเริ่มแก้ไขข้อความ เมื่อกี้เขาเพิ่งโพสต์รูปนั้นลงไป และยังจะแก้ไขข้อความที่น่าสะอิดสะเอียนด้วย:พี่จิ่วรูปร่างดีมากเลย!

มู่นวลนวล:“……”

ผู้ชายที่แปลกประหลาดคนนี้อาจจะโง่

“ไม่พูด?คุณไม่ถือสา?ถ้าไม่ถือสาผมโพสต์แล้วนะ” เมื่อหลี่จิ่วเหิงเห็นว่าเธอไม่พูด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ยิ่งสดใส

มู่นวลนวลรีบห้ามเขา:“เดี๋ยวก่อน!”

“อ้อ ไม่ให้ผมโพสต์หรอ?” หลี่จิ่วเหิงเอานิ้วของเขาวางไว้ข้างบน “โพสต์” แต่ยังไม่ได้โพสต์ออกไป

“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?ถ้ามีเรื่องอะไรเราก็ค่อยๆคุยกับดีไหม?” ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นหัวข้อประเด็นร้อนอยู่บ่อยๆ และถือว่าเป็นคนดังในโซเชียล แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ให้ความสนใจกับเธอเป็นพิเศษก็คงไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของเธอ

หลี่จิ่วเหิงคนนี้รู้จักชื่อของเธอ รู้ความสัมพันธ์ของเธอกับโม่ถิงเซียว และที่แอบเข้ามาในบ้านของเธอก็ต้องมีจุดประสงค์อย่างแน่นอน

“โอเค มานี่สิ เรามานั่งคุยกันดีดี” หลี่จิ่วเหิงเก็บโทรศัพท์ของเธอไปไว้ข้างหลัง สีหน้าท่าทางของเขาดูจริงจังมาก

มู่นวลนวลยืนอยู่ข้างประตูและไม่ขยับ:“คุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนสิ”

เธอสังเกตการณ์อยู่ที่ประตู และเขาไม่กล้ายุ่งวุ่นวาย

เมื่อหลี่จิ่วเหิงได้ยินที่เธอพูดก็พยักหน้าและพูดว่า:“โอเค”

หลังจากนั้นเขาก็ผิวปากและเดินเข้าไปในห้องนอนของมู่นวลนวล

มู่นวลนวลได้แต่กัดฟันแล้วมองดูเขาเดินเข้าไป

การปล่อยให้ชายแปลกหน้าเข้ามาในห้องนอนของเธอนั้น น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าการกินแมลงที่กินแอปเปิ้ลเสียอีก

ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องย้ายบ้าน!

ไม่ถึงสองนาทีหลี่จิ่วเหิงก็ออกมาจากห้องของเธอ

เขาสวมเสื้อแขนสั้นสีดำขาวกับกางเกงขายาว เขาทำเหมือนเป็นบ้านตัวเอง ร่างกายมีแผลเป็นเต็มไปหมด เพียงแค่มองไปที่ใบหน้าของเขาก็ทำให้รู้สึกสดชื่นเหมือนได้รับแสงแดดยามเช้า

หลี่จิ่วเหิงนั่งลงบนโซฟา:“ยังยืนทำอะไรอยู่หน้าประตู?มาคุยกันสิ”

“ฉันจะอยู่ตรงนี้ ฉันชอบที่หน้าประตู” มู่นวลนวลไม่ได้ปิดประตู เธอยืนอยู่ข้างประตูอย่างนั้นเหมือนกับว่าไม่มีท่าทีที่จะขยับ

หลี่จิ่วเหิงดูเหมือนจะตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาเอนหลังแล้วกางแขนออกจากกัน เขาเหยียดตัวออกอย่างสบายๆและเอาไหล่วางบนพนักพิงของโซฟา

เขามองไปที่ห้องราวกับกำลังมองหาอะไร:“ลูกของคุณล่ะ?หลังจากที่คุณหย่าโม่ถิงเซียว ลูกก็ถูกโม่ถิงเซียวแย่งไปหรอ?”

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินเขาพูดถึงลูก สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที:“คุณเป็นใครกันแน่?”

เรื่องที่เกี่ยวกับโม่มู่ มีแค่คนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ คนอื่นไม่มีใครรู้แน่ชัด

“เตรียมทำใจไว้ให้ดี กลัวผมมากหรอ?” หลี่จิ่วเหิงยิ้มและมองไปที่เธอ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้มีเจตนาที่ดี

“คุณไม่มีเงิน เป็นแค่ผู้หญิงที่ผ่านการหย่าคนหนึ่ง ผมจะสนใจอะไรคุณ?” หลี่จิ่วเหิงมองมาที่เธอ:“อ้อ หน้าตาก็พอใช้ได้ คุณกลัวว่าผมจะข่มขืนแล้วฆ่าคุณหรอ?”

คำพูดเหล่านี้ฟังดูแล้วน่าขนลุก

มู่นวลนวลแปลกใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาจะไม่ทำเรื่องแบบนั้น

มู่นวลนวลจ้องมองเขาและไม่ได้พูดอะไร

หลี่จิ่วเหิงท่าทางดูเสียดาย:“แต่ว่าผมไม่ลงมือกับผู้หญิง ทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว”

มู่นวลยิ้ม:“คุณมาจากที่ไหน?”

เธอสงสัยมากว่าชายคนนี้ออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช

เมื่อหลี่จิ่วเหิงได้ยินอย่างนั้น เขาก็พูดอย่างหน้านิ่งออกมาสองคำว่า:“ออสเตรเลีย”

ออสเตรเลีย?

หลังจากที่คฤหาสน์ของโม่ถิงเซียวถูกไฟไหม้ เซินชูฮันก็ช่วยให้เธอเดินทางไปออสเตรเลีย และนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เธอไปออสเตรเลีย

แต่ก่อนหน้านี้หลี่จิ่วเหิงถามเธอว่า “คุณจำฉันไม่ได้หรอ?”

เธอมองไปที่หลี่จิ่วเหิงอยางละเอียดรอบคอบ ไม่รู้ว่ามันเป็นเหตุผลทางจิตวิทยาหรือไม่ เธอรู้สึกคุ้นหน้าของหลี่จิ่วเหิงนิดหน่อย

ก่อนที่เธอจะจำได้ว่าทั้งสองรู้จักกันจริงหรือไม่ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังเธอ

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น:“ที่นี่ค่ะคุณตำรวจ”

มู่นวลนวลหันไปและเห็นหญิงชราคนหนึ่งพาตำรวจเดินมาทางนี้

เมื่อหญิงชราเห็นมู่นวลนวลก็ถามด้วยความเป็นห่วง:“หนูไม่เป็นไรใช่ไหม?”

มู่นวลนวลรู้จักหญิงชราคนนี้ เธออยู่เยื้องๆกับฝั่งตรงข้าม บางครั้งเจอกันตอนที่ออกไปข้างนอกก็จะทักทาย

หญิงชราพักอยู่คนเดียวและไม่มีอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าไม่รู้เรื่องของมู่นวลนวล แต่เมื่อเห็นว่ามู่นวลนวลอยู่คนเดียว บางทีเธออาจจะรู้สึกว่าเป็นคนหัวอกเดียวกันก็เลยใจดีกับเธอเป็นพิเศษ

มู่นวลนวลส่งเสียงเรียกเธอ:“คุณยาย”

หญิงชราเดินมาข้างหน้าเธอ และหันไปเห็นหลี่จิ่วเหิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา เธอรีบดึงมู่นวลนวลออกมา:“หนูไม่เป็นไรใช่ไหม?ก่อนหน้านี้ฉันเห็นคนเปิดประตูเข้ามาก็ไม่ได้สนจ ต่อมาฉันเห็นว่ารถของหนูไม่อยู่ และตอนที่หนูกลับมาก็บังเอิญเห็นหนูพอดี แต่เรียกหนูไว้ไม่ทัน ฉันคิดว่ามีขโมยเข้ามาก็เลยโทรแจ้งตำรวจ……”

มู่นวลนวลส่ายหัวรู้สึกสะเทือนใจ:“หนูไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะคุณยาย”

“แล้วผู้ชายคนนั้น……” หญิงชราชี้เขาไปในห้อง

มู่นวลนวลเอียงหัวและหลี่จิ่วเหิงก็ยิ้มให้เธอ

มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก:“หนูไม่รู้จักเขาค่ะ”

……

สุดท้ายหลี่จิ่วเหิงก็ถูกตำรวจจับตัวไป

แต่เพื่อเป็นการลงบันทึกประจำวัน มู่นวลนวลก็ตามไปด้วย

“ชื่อนามสกุล?”

“หลี่จิ่วเหิง”

“อาชีพ”

“นักจิตวิทยาด้านอาชญากรรม เพิ่งกลับมาจากออสเตรเลีย และยังไม่ได้ไปทำงาน”

เมื่อตำรวจได้ยินอย่างนั้นก็จดบันทึก

เนื่องจากหลี่จิ่วเหิงถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจในข้อหาบุกรุกเคหสถานอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นหลี่จิ่วเหิงกับมู่นวลนวลจึงต้องลงบันทึกประจำวันที่ในห้องโถง

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินก็ถึงกับผงะ

เธอหันไปมองหลี่จิ่วเหิง และดูเหมือนหลี่จิ่วเหิงจะรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเธอ เขาจึงหันไปกระพริบตาให้เธอ

เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันให้มู่นวลนวลตาคำให้การของหลี่จิ่วเหิง เขาลุกขึ้นเดินไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนที่ลงบันทึกประจำวันให้หลี่จิ่วเหิงและกระซิบอะไรบางอย่างกับเขา

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเสียงไอเบาๆ และพูดอีกครั้งด้วยน้ำท่าทีที่สุภาพมากขึ้น:“คุณหลี่ ทำไมคุณถึงไปอยู่ในห้องของคุณมู่?”

“ไม่ได้เจอเพื่อนเก่ามานานก็เลยล้อเล่นนิดหน่อย” ในขณะที่พูดหลี่จิ่วเหิงก็ยิ้ม

มู่นวลนวลหันหน้าไปมองเขา

หลี่จิ่วเหิงมองไปที่มู่นวลนวลและหยิบรูปที่เขาถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู:“อ่ะ ลองดูนี่ ผมกับเธอเป็น ‘เพื่อนกัน’ เป็นเพราะผมกลับมาโดยไม่ได้บอกเธอ ในใจก็เลย……”

เมื่อหลี่จิ่วเหิงพูดคำว่า “เพื่อนกัน” เขาจงใจเน้นเสียงหนักแล้วพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป้นการเสื่อผ่านสายตาว่า “คุณเข้าใจนะ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท