ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 413 พิษร้ายที่สุดคือจิตใจของผู้หญิง

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

จะว่าไปแล้วนี้เป็นครั้งแรกที่กูจื่อหยานมาที่ทำงานของโม่ถิงเซียว

เขามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น จับนั่นจับนี่และพูดว่า:“สไตล์การตกแต่งของที่นี่คล้ายกับห้องทำงานของนายที่ Shengding มาก”

“มีอะไรก็ว่ามา” โม่ถิงเซียวเดินไปนั่งลงที่ด้านหลังโต๊ะทำงาน และน้ำเสียงของเขาก็อ่อนลงมาก

กูจื่อหยานหันไปรอบ ๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของโม่ถิงเซียว จากนั้นก็วางมือบนโต๊ะแล้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาแล้วพูดว่า:“ถิงเซียว ความทรงจำของนายกลับมาแล้วหรอ?”

สีหน้าของโม่ถิงเซียวยังคงไม่เปลี่ยนไปมากนัก

ทั้งสองมองหน้ากันสักพัก ก่อนที่โม่ถิงเซียวจะพูดออกมา:“นายคิดว่าไง?”

“วันนั้นที่จินติ่ง นายเมินเฉยกับเงินที่ฉันให้มู่มู่เป็นของขวัญการเจอกันครั้งแรก ก่อนหน้านี้นายไม่แยแสฉัน แต่ก็ยังไม่หยุดบีบคั้นฉัน……”

ในขณะที่กูจื่อหยานพูดก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มบ่น

โม่ถิงเซียวพูดซ้ำคำที่เขาพูดอีกครั้ง:“บีบคั้น?”

กูจื่อหยานสีหน้าเปลี่ยน เขากลืนน้ำลายและพูดว่า:“ไม่……ไม่ใช่บีบคั้น แต่รักใคร่……”

โม่ถิงเซียวทำเสียงฮึ และปิดปากเงียบ

“ความทรงจำของนายกลับมาแล้วจริงๆ” กูจื่อหยานเกือบจะร้องไห้:“แม่งเอ้ย ฉันอึดอัดใจมาสามปี นายไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยสักนิด ตอนนี้นายอยู่กับนวลนวลนานแค่ไหนเอง ความทรงจำก็กลับมาแล้ว นายทำตามอำเภอใจงั้นหรอ?”

กูจื่อหยานพูดอย่างขมขื่น แต่โม่ถิงเซียวก็ไม่สะทกสะท้าน:“นายกับคุณเซินมีความสัมพันธ์กันยังไง?”

“ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณเซิน นายไม่รู้หรอ?”

“ยังจำไม่ได้สักที” โม่ถิงเซียวพูด

กูจื่อหยานผงะไปชั่วขณะและถามว่า:“สถานการณ์ของนายเป็นยังไงบ้าง?”

โม่ถิงเซียวอธิบายสั้นๆ:“บางครั้งภาพก็แวบเข้ามา”

“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?” ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่จินติ่งเขาก็รู้สึกว่าความทรงจำกลับมาแล้ว แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างนี้

“ไม่รู้สิ” โม่ถิงเซียวพูดตามความจริง

“แล้วนวลนวลล่ะ?ในตอนนั้นพวกเธอประสบอุบัติเหตุด้วยกัน เธอจำอะไรได้บ้างไหม?”

“ในตอนนั้นเธอเธอได้รับบาดเจ็บหนักกว่าฉัน ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าความทรงจำจะกลับมา หมอบอกว่าความเป็นไปได้ที่ความทรงจำของเธอจะกลับมานั้นต่ำมาก” โม่ถิงเซียวพูดถึงตอนท้าย เสียงของเขาก็ต่ำลง

เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ท่าทางของกูจื่อหยานก็เคร่งขรึมขึ้นมา

“ตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นบนเกาะ โม่จิ่นหยุนพาคนไปช่วยค้นหานาย สุดท้ายก็พานายออกมาได้ และฉันรีบตามไปที่หลัง แต่หานวลนวลไม่เจอ โม่จิ่นหยุนก็ไม่ยอมให้พวกเราเจอนายเลย”

เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างไม่สามารถคาดเดาได้:“เธอไม่ได้ช่วยมู่นวลนวล?”

“เธออยากจะจับคู่นายกับซูเหมียนมาโดยตลอด แล้วจะช่วยมู่นวลนวลได้ยังไง พิษร้ายที่สุดคือจิตใจของผู้หญิง” กูจื่อหยานเห็นสีหน้าที่ผิดปกติของโม่ถิงเซียว เดิมทีแล้วเขาไม่ได้อยากจะพูด จึงไม่ได้พูดอีก

ในช่วงสามปีนี้เขากับเซินเหลียงคิดว่ามู่นวลนวลไม่อยู่แล้ว

โม่ถิงเซียวก็มาสูญเสียความทรงจำอีก เขาเชื่อคำพูดของโม่จิ่นหยุนทั้งหมดและลืมมู่นวลนวล

กูจื่อหยานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัด:“สามปีที่ผ่านมาพวกเราคิดว่า บางทีชีวิตก็อาจจะเป็นเช่นนี้ แต่นวลนวลยังมีชีวิตอยู่ ความทรงจำของนายก็ค่อยๆกลับมา ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทางที่ดี……”

ใบหน้าของโม่ถิงเซียวไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และเขาไม่รู้ว่าเขาได้ยินที่กูจื่อหยานพูดหรือไม่

เขาถามกูจื่อหยานเรื่องอื่น:“ในตอนนั้นโม่จิ่นหยุนพาฉันไปรักษาที่สหรัฐอเมริกา นายรู้ไหมว่าโรงพยาบาลไหน?”

กูจื่อหยานครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า:“ไม่รู้สิ เธอพานายไปสหรัฐอเมริกาชั่วคราว ตอนนั้นพวกเรายุ่งอยู่กับการตามหานวลนวลก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้”

เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้นก็ลดสายตาลง เขานิ่งสงบและไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

กูจื่อหยานถามย่างงๆ:“เป็นอะไรไป?”

โม่ถิงเซียวยื่นมือไปเปิดเอกสาร:“ที่ Shengding คงมีเรื่องต้องทำอีกมาก”

กูจื่อหยานลูบจมูกของตัวเอง โม่ถิงเซียวกำลังไล่เขา

เมื่อกำลังจำจากไป กูจื่อหยานก็ไม่ลืมที่จะพูดว่า:“งั้นฉันกลับไปที่ Shengding ก่อนกลับไปแล้วไปดื่มด้วยกันที่จินติ่งนะ”

โม่ถิงเซียวพูดเบาๆว่า:“ไม่ไป มีลูกอยู่ที่บ้าน”

กูจื่อหยานยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาไม่มีลูก

เขาครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า:“งั้นฉันไปดื่มเหล้าที่บ้านนาย?”

กูจื่อหยานกับโม่ถิงเซียวอายุไล่เลี่ยกัน แต่นิสัยของพวกเขาต่างกันมาก

ในขณะนี้เขาก็กำลังมองไปที่โม่ถิงเซียวอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย

“อึ้ม” โม่ถิงเซียวพูดราวกับคิดอะไรบางอย่างได้และพูดว่า:“ชวนคุณเซินมาด้วยก็ได้นะ”

กูจื่อหยานดีใจและตบขาอย่างแรง:“โอเค!ฉันจะเอาไวน์ไปเอง!”

……

ในห้องโถง

มู่นวลนวลกับโม่มู่นั่งดูการ์ตูนงอยู่บนโซฟา

เมื่อวานนี้เธอบอกว่าเธอจะดูการ์ตูนเป็นเพื่อนโม่มู่ใน แน่นอนว่าเธอไม่สามารถผิดสัญญาได้

เธอถือแท็บเล็ตไว้ในมือและค้นหาภาพยนตร์เรื่องเมื่องที่สาบสูญ

เธอค้นหาไปเรื่อยๆ และมีข้อมูลมากมายหลายหมื่นชิ้นอัน

สิ่งนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าตอนนั้นในโลกออนไลน์ภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาญสูญได้รับความนิยมมาก

การสนทนาและกระแสความนิยมนั้นสูงมาก

มู่นวลนวลมองไปที่โม่มู่อย่างเหม่อลอย และเหลือบไปเห็นคนรับใช้คนหนึ่งรีบเดินเข้ามาจากด้านนอก

สาวใช้รีบเดินไปข้างๆมู่นวลนวล เธอยังไม่ทันได้พูด มู่นวลนวลก็ถามว่า:“มีอะไรหรอ?”

สาวใช้พูดด้วยความลำบากใจ:“คุณโม่มาค่ะ”

คุณโม่?

มู่นวลนวลสงสัยอยู่ครู่หนึ่งและเดาได้ว่าเธอกำลังพูดถึงโม่จิ่นหยุน

ในขณะที่เธอกำลังพูดก็มีคนเดินเข้ามาจากด้านนอก

โม่จิ่นหยุนแต่งกายด้วยชุดสูทสีขาวที่ดูเรียบร้อยและได้รับการปรับแต่งให้เข้ารูป มีการจัดแต่งอย่างดี และทำให้เธอค่อนข้างหยิ่งผยองและดูมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น

เธอมองไปรอบๆ สักพักแล้วหันไปมองมู่นวลนวล

แววตาของเธอเย็นชาและเดินตรงเข้าไปหามู่นวลนวล

มู่นวลนวลลุกขึ้นอย่างช้าๆ และเห็นคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆหันกลับไป เธอก็เดาได้ว่าคนรับใช้จะไปโทรศัพท์หาโม่ถิงเซียว

มู่นวลนวลจึงพูดหยุดไว้:“นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องบอกโม่ถิงเซียวนะ”

วันนั้นที่บ้านเก่าตระกูลโม่ มู่นวลนวลก็ดูออกว่าโม่จิ่นหยุนเกลียดเธอเข้ากระดูก

วันนี้โม่จิ่นหยุนจะมาหาถึงหน้าประตูก็ไม่มีอะไรต้องแปลกใจ

โม่จิ่นหยุนกับโม่ถิงเซียวทำงานที่โม่กรุ๊ป ถ้าโม่จิ่นหยุนจะมาหาโม่ถิงเซียวก็ไปหาที่บริษัทก็ได้

โม่จิ่นหยุนมาที่นี่ แน่นอนว่ามาหาเธอ

หลังจากได้ยินที่มู่นวลนวลพูด เห็นได้ชัดว่าคนรับใช้รู้สึกลังเล

เมื่อมู่นวลนวลเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้บังคับ:“แล้วแต่เธอ”

คนรับใช้พยักหน้าเล็กน้อยและหันเดินไปจากไป

โม่จิ่นหยุดเดินเข้ามา และกวาดสายตามองไปที่มู่นวลนวล จากนั้นก็มองไปที่ข้างๆมู่นวลนวล:“มู่มู่”

มู่นวลนวลเดินไปหยิบรีโมทขึ้นมาแล้วกดหยุดไว้ชั่วคราว จากนั้นก็พูดอย่างอบอุ่นว่า:“มู่มู่ คุณป้าเรียกหนู”

โม่มู่เงยหน้ามองมู่นวลนวล

มู่นวลนวลชี้ไปยังที่ที่โม่จิ่นหยุนอยู่

โม่มู่มองตามนิ้วของมู่นวลนวลไป และเห็นโม่จิ่นหยุนและยิ้มอย่างดีใจ:“คุณป้า”

“คุณป้าอุ้มหน่อย” โม่จิ่นหยุนนั่งยองๆที่พื้นแล้วยื่นมือไปออกไปหาโม่มู่

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท