ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 434 เพื่อความรักสามารถบุกน้ำลุยไฟได้

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลออกจากเวยป๋อ ตัดสินใจตรวจสอบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีของตัวเองไหม

เธอตรวจสอบสักพัก พบว่าตัวเองยังมีเงินอยู่ในบัตรหลายแสนหยวน

เงินนี้สำหรับเซินเหลียงกับโม่ถิงเซียวก็คือ อาจจะไม่คิดอะไร แต่สำหรับเธอ ก็ถือว่าไม่น้อย

เพียงพอที่จะสนับสนุนเธอก่อนที่เธอจะเขียนบทใหม่ และชีวิตของเธอกับโม่มู่

เซินเหลียงเพิ่งผลักประตูเข้ามาเวลานี้พอดี“เธอทำอะไร?”

“เก็บของนิดหน่อย”มู่นวลนวลโชว์บัตรประชาชนใหม่ของตัวเองให้เธอดู

เซินเหลียงเพิ่งจะอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าซือเย่มาที่นี่เพื่อส่งของให้กับมู่นวลนวล“ใครทำให้เธอ?”

“ผู้ช่วยซือเย่ทำให้ฉัน”มู่นวลนวลพูดพลาง นำบัตรธนาคารใส่ไว้ในกระเป๋า“ฉันจำได้ว่ายังมีเงินอยู่ในบัตรธนาคาร แต่ฉันจำไม่ได้ว่ามีเท่าไหร่ เมื่อกี้ลองตรวจดูแล้ว ก็สามารถใช้ชีวิตกับมู่มู่ไปได้อีกนาน”

เซินเหลียงได้ยินเธอพูดขนาดนี้ เป็นธรรมชาติที่จะฟังออกความหมายของมู่นวลนวลที่จะย้ายออกไป

เซินเหลียงขมวดคิ้วขึ้นแน่น“อยู่ที่นี่ก็ไม่เป็นไร พวกเราเป็นอะไรกัน เธอจะเกรงใจทำไม”

“ฉันรู้จิตใจของเธอ แต่ฉันต้องเลี้ยงมู่มู่ ฉันก็ยังมีชีวิตของตัวเองที่จะต้องดำเนินต่อไป ยังไม่ถึงจุดที่ไม่มีที่ไป ความจริงตอนนี้ก็พัฒนาไปในทางที่ดีแล้ว”

เซินเหลียงเพิ่งจะตื่นนอน เส้นผมก็ดูยุ่งเหยิง มู่นวลนวลยื่นมือออกไปลูบเส้นผมเธอ“ตัวเองพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็อย่าเรียกอาหารตามสั่งบ่อย ให้กูจื่อหยานมาทำอาหารให้เธอกิน”

เซินเหลียงโต้แย้งขึ้นมาทันที“เธอพูดอะไร กูจื่อหยานก็ทำกับข้าวไม่เป็น…”

“ยังไม่ยอมรับอีก?พวกเธอสองคนทำ…ยัง?”มู่นวลนวลเชิดคางขึ้น ดูเหมือนลังเลและหยุด

“ไม่รู้”เซินเหลียงส่ายหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไป“แม้ว่ากูจื่อหยานและฉันจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน พวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้ พี่น้อง เธอก็เป็นห่วงฉันแล้ว”

เซินเหลียงพูดจบ ก็ตบไหล่มู่นวลนวล

เห็นมู่นวลนวลยังคงจ้องมองมาที่เธอ เธอก็หัวเราะ และพูด“อย่างน้อยฉันก็รวยกว่าเธอ มีบ้าน มีรถ มีกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแบรนด์ อยากได้อะไรฉันก็มีแล้ว เธอเป็นห่วงตัวเองเถอะ”

มู่นวลนวลพยักหน้าอย่างจริงจังและพูด“อืม เธอพูดมีเหตุผล”

เซินเหลียงเป็นหญิงสาวที่มีความคิดเป็นของตัวเอง

เธอและเซินเหลียงสามารถเป็นเพื่อนกันได้นานหลายปี ก็มีบางอย่างที่คล้ายกันเล็กน้อย

พวกเธอล้วนคิดว่า ความรักไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

ความหมายของชีวิต น่าจะกว้างใหญ่ไพศาล

แต่ว่า พวกเธอเพื่อความรักสามารถบุกน้ำลุยไฟได้

เซินเหลียงพูดด้วยสีหน้าปกติ“ถ้าหากเธออยากย้ายออก ฉันจะให้ผู้จัดการช่วยหาห้องให้เธอเถอะ เธอเก่งเรื่องพวกนี้ เธอพาลูกก็ไม่สะดวกในการหาสถานที่”

มู่นวลนวลตอบรับ“ก็ได้”

……

ถึงเวลาพักเที่ยง มู่นวลนวลเข้าไปดูเวยป๋อของตัวเองอีกครั้ง

เธอพบว่า ข้อความที่เธอโพสต์ลงในเวยป๋อนั้น จำนวนการกดแชร์โพสต์และไลค์เกินหนึ่งหมื่นแล้ว

ในบรรดาผู้ที่กดแชร์ ไม่เพียงดาราผู้กำกับในวงการบันเทิง นอกจากนี้ยังมีคนดังทางอินเทอร์เน็ตบางคนด้วย

เซินเหลียงถลันเข้ามา สีหน้าเสียใจ“เธอเข้าเวยป๋อแล้ว?ทำไมไม่บอกฉันสักคำ ฉันจะได้กดแชร์โพสต์”

มู่นวลนวลสีหน้าจนปัญญา“ฉันก็แค่เข้าไปลองโพสต์เท่านั้นเอง”

เซินเหลียงหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาด้วย เข้าเวยป๋อรีบกดแชร์โพสต์นั้นที่มู่นวลนวลได้โพสต์

“คนดังเซินเหลียง ฉันรู้สึกเหมือนรอมาครึ่งชีวิต แต่โชคดีที่เธอกลับมาในที่สุด แล้วปัญหาก็ตามมา ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญภาคสองไหม?รักเธอ@มู่มู่ ขอบคุณทุกคนที่ชื่อชอบภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญ”

มู่นวลนวลกำลังดูเวยป๋อ พอดีกับที่เห็นเซินเหลียงกดแชร์โพสต์เวยป๋อของเธอ ก็คลิกรูปประจำตัวของเซินเหลียง ไปกดติดตามเซินเหลียง

กดเข้าไปถึงพบว่า ติดตามซึ่งกันและกันแล้ว

นี้ยืนยันได้ว่า เซินเหลียงติดตามเธอมานานแล้ว

เมื่อเธอสร้างบัญชีเวยป๋อนี้เป็นครั้งแรก ก็ไม่ได้กดติดตามเซินเหลียง และก็ไม่ให้เซินเหลียงติดตามเธอ

ถึงอย่างไรชื่อเสียงของเธอในตอนนั้นก็ไม่ค่อยดีนัก และเซินเหลียงเป็นช่วงเวลาที่เพิ่มระดับขึ้น แสดงละครอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ดังมาก แต่มักจะมีหัวข้อที่ถูกพูดถึง

เธอกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อเซินเหลียง

มู่นวลนวลถามเธอ“เธอติดตามฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“แน่นอนว่าเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญได้ออกอากาศ แฟนคลับของเธอเพิ่มขึ้นเร็วมาก คนติดตามและแสดงความคิดเห็นกับภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญมากมายจนมืดฟ้ามัวดิน หนึ่งในนั้นคือโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ ที่พูดคุยกัน แต่คนอื่นๆล้วนพูดถึงมากที่สุดก็คือชาวเน็ต…”

พูดมาถึงสถานการณ์ตอนนั้น เซินเหลียงยังตื่นเต้นกว่ามู่นวลนวล

หมู่นวลตรวจสอบข้อมูลทางออนไลน์มาก่อน ภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญ ออกอากาศออนไลน์ในปีที่สอง

เป็นเวลาสองปีหลังจากที่เธอและโม่ถิงเซียวประสบเหตุระเบิดบนเกาะ

ตอนี้ก็ถือว่าผ่านไปสองปีแล้ว

“ในสองปีที่ผ่านมาโปรดิวเซอร์และผู้กำกับหลายคนอยากร่วมงานกับเธอ เธอไม่ต้องกังวลว่าจะขายบทละครในอนาคตไม่ได้ มีฐานที่ดีก็มีแต่จะดีขึ้น เธอก็ต้องเลือกฝ่ายที่จะร่วมมือกัน…”

เซินเหลียงอยู่ในวงการมานานกว่ามู่นวลนวล อดไม่ได้ที่จะเล่าประสบการณ์บางอย่างของตัวเองให้มู่นวลนวลฟัง

ในใจมู่นวลนวลจริงๆนึกถึงฉินซุ่ยซาน

ถ้าหากว่าฉินซุ่ยซานสามารถมาหาเธอ เธอยังอยากร่วมมือกับฉินซุ่ยซาน

ฉินซุ่ยซานเข้าใจเรื่องที่เร่งร้อนเป็นอย่างมากของเธอ ตอนนี้เธอยังยินยอมที่จะร่วมมือกับฉินซุ่ยซาน

และ เธอก็เชื่อในความสามารถของฉินซุ่ยซาน

ถ้าหากว่ามีภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญภาคสอง แน่นอนว่าต้องร่วมมือกับฉินซุ่ยซาน

……

มู่นวลนวลโพสต์ในเวยป๋อ ยังเข้าไปดูข่าววงการบันเทิง

สองสามวันนี้ มู่นวลนวลรับสายโทรศัพท์ไม่น้อย

สายโทรศัพท์เหล่านี้ ส่วนใหญ่ต้องการร่วมมือกับมู่นวลนวล

มู่นวลนวลปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง

นอกจากเธอกำลังรอให้ฉินซุ่ยซานมาหาเธอ ยังยุ่งกับเรื่องย้ายบ้าน

เซินเหลียงมีญาติทั้งครอบครัวที่อพยพมา ทิ้งห้องไว้หนึ่งห้อง ตัดใจจะขายไม่ได้ แต่กลัวว่านานไปจะไม่มีใครอยู่ ห้องจะทรุดโทรม ก็ให้เซินเหลียงช่วยพวกเขาปล่อยเช่าออกไป

เดิมทีเซินเหลียงได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนในการจัดการ แต่ตัวแทนก็ไม่ปล่อยเช่ามาโดยตลอด

ในเมื่อบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ปล่อยเช่า เซินเหลียงก็ปล่อยให้มู่นวลนวลเช่า

เซินเหลียงและตัวแทนพามู่นวลนวลไปดูบ้าน

บ้านอยู่ในหมู่บ้านของใครบางคน สภาพแวดล้อมดี ทำเลดีมาก

จุดสำคัญกว่านั้นคือ ที่ตั้งของบ้าน ก็คือทางที่ไปบริษัทโม่กรุ๊ปและบ้านของโม่ถิงเซียว

เรียกได้ว่าสะดวกสบายเป็นพิเศษ

ตกแต่งสวยหรู เฟอร์นิเจอร์ครบ

เซินเหลียงเปิดผ้าม่าน ถามมู่นวลนวล“เป็นยังไงบ้าง คิดว่าได้ไหม?”

“ดีมาก”มู่นวลนวลพอใจบ้านมาก

“เธอก็อยู่ไปก่อนสิ ส่วนค่าเช่า ให้นิดหน่อยก็พอแล้ว ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้ขาดเงินเล็กน้อยนี้ แค่อยากให้มีคนอยู่บ้าน ”

ถึงแม้ว่าเซินเหลียงจะพูดขนาดนี้ แต่มู่นวลนวลยังคงให้ค่าเช่าตามราคาตลาด

เนื่องจากห้องมีครบทุกอย่าง ไม่เกินสองวันมู่นวลนวลก็ย้ายเข้ามา

เด็กมักจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ

เมื่อโม่มู่เข้ามาในบ้าน มองดูตรงไหนก็ลูบคลำตรงนั้น วิ่งไปวิ่งมาด้วยความทึ่ง

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท