จอมพลที่รัก – บทที่ 67 อากาศมันร้อน ฉันต้องไปดับไฟ

จอมพลที่รัก

เอี๊ยด! ทั้งสองคนได้หยุดลงในขณะที่อยู่ห่างอีกฝ่ายไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร เหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาจากหน้าผากของไบร์ท อีกเพียงนิดเดียวเขาก็จะหลับไม่ฟื้น! ณภัทรเป็นคนบ้าชัด ๆ!

ณภัทรก้าวเท้าสูงยาวของเขาลงไปบนพื้น และเอามือลูบหัวของตัวเองอย่างเท่ พลางยักคิวและยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมมองเขา: “ทั้งบนฟ้าทั้งบนดินล้วนเป็นคนของฉัน แกยังจะหนีรอดไปได้อีกเหรอ?”

ไบร์ทเงยหน้าขึ้นมองเครื่องบินที่กำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้า แววตาแห่งการตัดเยื่อใยไมตรีปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา: “ลูกพี่ณภัทร ถ้าหากตอนที่ฉันตายสามารถลากลูกพี่ไปด้วยได้ ก็นับว่าคุ้มแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำเรียกที่คุ้นเคยนี้ นัยน์ตาของเขาก็หดลงอย่างรวดเร็ว และจ้องมองใบหน้าของไบร์ทอย่างไม่กะพริบตา: “แกเป็นใครกันแน่?”

ไบร์ทค่อย ๆ ถอดหน้ากากที่สวมอยู่ออก เมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั่น ณภัทรก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย มิน่าเมื่อสามปีก่อนเขาถึงทำลายล้างองค์กรซาสให้สิ้นซากไม่ได้ เขาสงสัยมาโดยตลอดว่ามีคนแพร่งพรายการเคลื่อนไหวของเขาออกไป ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว

“ลูกพี่ ไม่เจอกันนานเลยนะ”

“ดีใจ ที่นายยังมีชีวิตอยู่”

นับจากได้รับข่าวว่าไมค์ได้หายตัวไปในขณะที่กวาดล้างองค์กรซาสเมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็เสียใจอย่างหนัก หลังจากนั้นมาทุกครั้งที่ต้องปฏิบัติภารกิจที่อันตรายเขาจะเป็นคนลงมือเองตลอด พยายามปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องอย่างเต็มที่

ในดวงตาของไบร์ทได้ปรากฏความโกรธแค้นขึ้นมา: “แต่น่าเสียดาย……ฉันมาเพื่อเอาชีวิตของนาย!”

ทันใดนั้นเขาก็ได้เพิ่มแรงม้าขึ้นและพุ่งชนเข้าไปทางณภัทร ณภัทรกระโดดลอยตัวขึ้น ร่างของเขาหมุนตัวอยู่ในอากาศอย่างคล่องแคล่ว เขายื่นมือออกไป คว้าเอาตัวไบร์ทขว้างลงไปบนพื้นอย่างแรง ในระหว่างนั้นรถวิบากคันหนึ่งก็ได้ตกลงไปในหุบเหว ส่วนรถจักรยานยนต์วิบากอีกคันนั้นได้ล้มลงไปบนพื้นดิน ล้อรถหมุนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดฝุ่นละอองดินฟุ้งกระจาย

ณภัทรใช้เข่ากดลงไปคอของไบร์ท ล็อกตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับ เมื่อสักครู่ ทั้งสองคนได้เฉียดไหล่กับเทพเจ้าแห่งความตายไป ไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็ต้องหวาดกลัวจนเหงื่อทะลักออกมา

ณภัทรมองไบร์ทด้วยดวงตาแดงก่ำ: “เพราะอะไร?”

เขายอมรับว่าตัวเองเข้มงวดกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปหน่อย แต่เขาก็จริงจังจริงใจกับพวกเขา ถึงขนาดช่วยด้วยชีวิตได้ คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรที่ทำผิดต่อพวกเขา

จู่ ๆ ไบร์ทก็หัวเราะขึ้นมา น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม เขาหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้ง ทันใดนั้นเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็เต้นตุบ ๆ ขึ้น เขาแทบจะตะโกนออกมา: “เพราะว่าคนที่แกฆ่าคือพ่อของฉัน! เมื่อสิบปีที่แล้วท่านก็แค่มีความขัดแย้งทางการเมืองกับไอ้ธนิน ก็ถูกมันใส่ร้ายว่าเป็นคนทรยศต่อชาติบ้านเมือง! แม้แต่องค์กรซาสที่ท่านสร้างขึ้นมาก็ถูกหาว่าเป็นองค์กรที่ชั่วร้าย แถมยังจะให้คนที่เป็นลูกชายอย่างฉันจบชีวิตของท่านกับมือ! ณภัทร! คนที่แกเชื่อใจความจริงแล้วเป็นสัตว์ร้ายในคราบสุภาพบุรุษดี ๆ นี่เอง!”

ณภัทรปล่อยมือจากเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นและปัดฝุ่นบนร่างกายออก: “นายไปเถอะ”

ใบหน้าและแววตาของไบร์ทเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขานึกว่าตัวเองฟังผิดไป: “นายจะปล่อยฉันไปจริง ๆ เหรอ?”

“ที่ฉันปล่อยนายไป หนึ่งคือเห็นแก่ที่นายติดตามฉันมาหลายปี สองคือเพราะนายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่แล้ว กวาดล้างนายมันง่ายนิดเดียว”

ไบร์ทคลานลุกขึ้นมาจากพื้น และฉีกยิ้มกล่าว: “ลูกพี่ณภัทร ฉันไม่อยากติดค้างนาย ฉันจะบอกความลับเมื่อสิบปีก่อนให้นายก็ได้ มันเกี่ยวข้องกับภรรยาของนาย ฉันคิดว่านายน่าจะสนใจ”

…………

ณ เวลานี้มีนากำลังนั่งอยู่บนรถทหารที่จอกอยู่ตีนเทือกเขาลิตเติ้ลวิช ห่างออกไปไม่ไกลก็เป็นทะเลดำวายุกำลังเตรียมที่จะไปยิงกระต่ายหน่อย ในเวลานี้ทหารสองสามนายได้ลากเอารถวิบากคันหนึ่งขึ้นมา มองแค่แวบเดียววายุก็จำรถจักรยานยนต์วิบากที่สลักสัญญาลักษณ์หมาป่าโทเทมนั้นได้: “เอ๊ะ? นั่นรถจักรยานยนต์วิบากของลูกพี่ไม่เหรอ?”

ในขณะเดียวกันนั้นเสียงของผู้ช่วยธนาก็ได้ดังออกมาจากหูพังของเขา: “ไบร์ทได้หนีไปทางเส้นทางขนศพแล้ว ภารกิจจับกุมยุติลง!”

วายุเงยหน้าขึ้นมองทางขนศพที่อยู่ในส่วนลึกของหน้าผา แล้วหันไปมองรถจักรยานยนต์วิบากที่นอนอยู่ตรงนั้น สีหน้าของเขาพลันซีดเซียวลง แม้แต่ฉี่เองก็ถูกเขากลั้นเอาไว้แล้ว

เขาขึ้นไปบนรถและหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาอย่างร้อนรน: “เรียกลูกพี่ เรียกลูกพี่!”

ผ่านไปแสนนานด้านนั้นก็ไม่มีสัญญาณใด ๆ สีหน้าของเขายิ่งซีดเซียวลงกว่าเดิม

มีนาทนไม่ไหวเลยเอ่ยถามขึ้นมา: “วายุ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“พีค่สะใภ้ครับ ลูกพี่……ไบร์ทหนีไปแล้ว ลูกพี่……ลูกพี่อาจจะตกทะเลไปแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า!”

“นาย……แน่ใจเหรอ?”

“ฮือออ……เส้นทางส่งวิญญาณผ่านไปได้แค่ครั้งละคนเท่านั้น ไบร์ทหนีไปแล้ว งั้นลูกพี่ก็คงต้องพบกับอันตราย ไม่งั้นละก็เขาไม่มีทางที่จะปล่อยมันไป”

ในตอนที่มีนากำลังลังเลอยู่นั่นเอง ทหารพวกนั้นก็ได้งมเอาศพขึ้นมาได้หนึ่งศพ เธอรีบวิ่งไปทางร่างไร้วิญญาณนั่นทันที ในตอนใกล้ที่จะถึงนั่นเอง ฝีเท้าของเธอก็ได้ช้าลง อยากจะดูแต่ก็ไม่กล้า กลัวว่าคนคนนั้นจะเป็นณภัทร

“นี่คืออะไร?”

พวกเขาหยิบเอาอะไรบางอย่างที่เปล่งประกายแวววับออกมาจากมือของศพ มีนารีบแย่งเอามาทันที เป็นเครื่องรางของณภัทร เธอแทบจะหายใจไม่ได้ เธอค่อย ๆ หันไปที่ร่างไร้วิญญาณนั่นอย่างช้า ๆ รูปร่างตรง เครื่องรางก็ใช่ แม้กระทั่งรอยฟันที่อยู่บนลำคอก็ตรงเป๊ะ เพียงแต่ใบหน้านั้นได้กระแทกเข้ากับหน้าผาจนเละไม่เหลือเค้าโครงเดิม

“ณภัทร……”

เธอคุกเข่าลงไปบนพื้น ขยุ้มปกเสื้อของเขาเอาไว้ ดวงตาของเธอแดงก่ำ กัดฟันกรอด: “คนเลว! คุณเคยบอกว่าคุณจะอยู่กับฉันตลอดไป บอกว่าจะจัดงานแต่งที่อลังการที่สุดให้กับฉัน ทำไมต้องผิดคำพูดด้วย!”

“แหวนของฉันออกแบบเสร็จแล้ว ชุดแต่งงานก็แก้ไปหลายรอบแล้ว การ์ดแต่งงานยังไม่ได้ทำ รอให้คุณมาเขียนพร้อมฉัน ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย!”

“เป็นคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับฉัน ทำให้ฉันตกหลุมรักคุณ คุณคือการเดิมพันครั้งแรกในชีวิตของฉัน……”

ในตอนนี้เองก็ได้มีเสียงเอื่อยเฉื่อยดังลอยมาจากด้านหลัง: “คุณวางเดิมพันไว้ที่ผม ผมจะให้คุณแพ้ได้ยังไง?”

เธอตัวแข็งทื่อ และค่อย ๆ หันกลับไป เห็นณภัทรกำลังเอนตัวพิงรถอยู่ สองมือกอดอยู่ที่หน้าอก ยิ้มและมองมาที่เธอ แสงตะวันยามพลบค่ำตกลงมากระทบร่างของเขาราวกับเคลือบด้วยสีทองบาง ๆ ท่าทางเหนื่อยล้า ที่มุมปากแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ราวกับโลกทั้งใบมีไว้เพื่อความหล่อจนฟ้าแตกแผ่นดินแยกของเขา

มีนาวิ่งเข้าไปหาเขาราวกับลม เขากางสองแขนออกพร้อมยิ้มเพื่อตอบรับ เธอกระโดดขึ้นไปบนร่างของเขา แขนสองข้างกอดคอเขาเอาไว้ เขาสองข้างรัดเอาไว้ที่เอวของเขา และกอดเขาเอาไว้อย่างแน่นแฟ้น

“คนสารเลว!”

เธอประคองใบหน้าของเขาเอาไว้และกัดลงไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างแรง จากการกัด กลายเป็นการจูบอย่างดูดดื่ม มือทั้งสองข้างของเขาพยุงก้นของเธอเอาไว้ เปลวไฟทั่วร่างถูกเธอจุดให้ลุกโชน

เธอจูบเขาไปพลางร้องไห้พลางหัวเราะ ใบหน้าเล็ก ๆ เปียกชุ่ม หยาดน้ำตากระทบกับแสงสายัณห์สีเหลืองทอง งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“หยุดร้องได้แล้ว ถ้าไม่หยุดนะผมจะเอาคุณให้ตายเลย”

เธอกัดฟันกรอดมองดูเขา: “เอาสิ ใครจะกลัวกันล่ะ!”

เขายัดเธอเข้าไปในรถ และขับรถทหารออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ทิ้งคำพูดเอาไว้ให้กับเหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังประโยคหนึ่ง: “ถอดเสื้อผ้าไอ้หมอนั่นออกให้หมดแล้วโยนมันลงไปเลี้ยงปลาซะ!”

วายุตะโกนอย่างแทบอยากจะเป็นบ้า: “ลูกพี่ อย่าถีบหัวส่งกันแบบนี้สิ!”

เขาเองก็หวังดีนี่นา ก็แค่ไม่ได้ดูให้ดีเข้าใจผิดไปแค่นั้นเอง ตุ้มมมม! วายุถูกโยนลงไปในน้ำ ปลาฉลามตัวหนึ่งไล่ตามเขา กางเกงในลายการ์ตูนตัวนั้นของเขาสะดุดตามากเมื่ออยู่ในทะเลที่เขียวใส

คนของหน่วยอินทรีย์ต่างก็ได้มารวมตัวกันที่ตีนเขาครบแล้ว ในตอนที่พวกเขาได้พบเห็นกับเหตุการณ์ตรงหน้าราวกับว่าพวกเขาได้ชินแล้ว แถมยังยืนวิพากษ์วิจารณ์อยู่ด้วย

ผู้ช่วยธนา: หมอนี่ชอบทำอะไรมั่วซั่ว ไม่จำเลยสักครั้ง

คิมเงยหน้ามองฟ้าพลาทถอดถอนใจ: ฉันชักจะเบื่อรสนิยมความชอบกางเกงในลายการ์ตูนของเขาแล้วล่ะ

คิงกำหมัด แทบจะกระโดดขึ้นมา: กัดเลยกัดเลย กัดมันเลย!

ผ่านไปสักพักพวกเขาก็ได้รับข้อความฉบับหนึ่ง: “อากาศร้อนแห้งแล้ง ในป่าอาจเกิดไฟไหม้ได้ง่าย ฉันจะไปตระเวนดูรอบ ๆ หน่อย พวกนายไม่ต้องรอฉัน

ทุกคนมุมปากกระตุก: “ลูกพี่เห็นพี่สะใภ้แล้วตัวเองไฟลุกน่ะสิไม่ว่า ยังพูดซะจริงจังแบบนี้ ยอมเขาเลยจริง ๆ!

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท