การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 163

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 163 – เลทิเซียผู้รู้สึกผิดและสับสน

บนโลกใบนี้ไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าศาสนาหรือความเชื่อที่ชี้ถูกชี้ผิดให้กับผู้คน ถ้าถามฉันว่าทำไมถึงไม่มี อาจจะเป็นเพราะโลกนี้มี ‘กฎหมาย’

ในโลกเดิมของฉันแม้จะมีสิ่งที่เรียกว่าศาสนาหรือกฎหมาย แต่ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงลมปาก เพราะโลกที่เต็มไปด้วยสงครามการทำลายล้าง

สนธิสัญญาห้ามทำสงครามก็ถูกฉีกทิ้งอย่างง่ายดายหากมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความโลภ หรือแม้แต่ศาสนาเองบางคนก็เคยนับถืออย่างสุดหัวใจ

แต่พอทราบว่าตัวเองจะตายจากโรคระบาดก็ขาดสติหวังเพียงจะเอาผู้อื่นลงหลุมไปด้วย สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่าศาสนานั้นมีเพื่ออะไร

หากตัดเรื่องเหนือธรรมชาติที่อาจจะถูกเติมแต่งมาจากกาลเวลาที่ผ่านไป บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่คอยทำให้ผู้คนนั้นรู้สึกผิดชอบชั่วดี

แต่นั่นมันในยุคที่ยังไม่มีกฎหมาย จริงๆ ฉันก็รู้ว่ากฎหมายอาจจะถูกใช้เพื่อความสะดวกสบายของคนมีเงิน แต่ท้ายที่สุดกฎหมายก็ยังบอกว่าแบบนั้นไม่ดี

หรือแบบนั้นดี ใช่.. สุดท้ายแล้วมันก็ยังบอกว่าการทำร้ายคนอื่นไม่ดี เช่นเดียวกับศาสนายางศาสนา..

ศาสนาสอนให้เป็นคนดี กฎหมายสอนให้คนเป็นคนดี.. แม้ท้ายที่สุดแล้วในโลกเดิมของฉันมันจะเกิดสงครามจนทุกอย่างแทบเป็นเรื่องเล่าตลกในอดีตก็เถอะ

แต่โลกนี้นั้นมีกฎหมายบังคับใช้ที่ถูกออกแบบโดยชนชั้นสูงของหลายอาณาจักรที่มีมติเป็นเอกฉันท์กันแล้ว

ฉันเลยเกิดความสงสัยว่าจะมีศาสนาทำไมในเมื่อคนรู้จักผิดชอบชั่วดีแต่แรกอยู่แล้ว เพราะว่าในโลกเดิมนั้นมีศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดีมาก่อน

กฎหมายเลยอาจจะใช้บรรทัดฐานนี้ว่าการทำร้ายคนอื่นไม่กี เป็นกฎหมายบังคับใช้ เพราะหากเปรียบเทียบศาสนาแค่บอก แต่กฎหมายรั้นบังคับ

หากมีคนไม่นับถือศาสนาก็หมายความว่าเขาทำผิดได้หรือเปล่า? แน่นอนว่าไม่ ดังนั้นบางทีกฎหมายอาจจะมีมาเพื่อสิ่งนี้ก็ได้

ตรงกันข้ามหากไม่มีบรรทัดฐานว่าอะไรดีอะไรชั่วล่ะ สมมุติว่าโลกเรานั้นมองว่าการที่ผู้แข็งแกร่งฆ่าผู้อ่อนแอได้และนั่นคือกฎ

อะไรจะมาบอกล่ะว่าการฆ่าคนอ่อนแอนั้นผิด ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเพราะมันอ่อนแอเองต่างหาก อะไรแบบนั้น

ดังนั้นบางทีกฎหมายก็อาจจะใช้บรรทัดฐานความดีความชั่วความเท่าเทียมมาจากศาสนาหรือความเชื่อก็เป็นได้

แต่โลกนี้ไม่มีความเชื่อมาตั้งแต่แรกแล้ว แถมมีพลังพิเศษเวทมนตร์เหนือธรรมชาติ ทว่าความจริงโลกนี้กลับมีกฎหมายความเท่าเทียมมาตั้งแต่แรกแล้ว

ซึ่งแทนที่จะเป็นผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ… เห็นว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนหลังสงครามหยุดลงก็เริ่มมีการร่างกฎหมายและพัฒนามาเรื่อยๆ นะ

ฉันก็ไม่มั่นใจ แต่ถ้าคิดว่าในยุคก่อนคริสตกาลในโลกเดิมของฉันมีกฎหมายความเท่าเทียมมาตั้งแต่แรกล่ะ

ถ้าเป็นแบบนั้นโลกอาจจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าศาสนามาตั้งแต่แรกเลยก็ได้ เพราะว่าคนนั้นถูกจำกัดในกรอบของคำว่ากฎหมายอยู่แล้ว

รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกแต่แรกอยู่แล้ว.. ดังนั้นศาสนาคงไม่มีมาตั้งแต่แรก

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันสนใจสิ่งที่เรียกว่าศาสนาในโลกนี้ทั้งๆ ที่มีกฎหมายอยู่แล้วด้วย บางทีอาจจะเป็นการพูดอภิปรายชวนเชื่อล่อซื้ออะไรทำนองนั้น

แต่พักนี้กลับดังขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ฉันสนใจและมาดูการบรรยาย คนที่บอกฉันคือเลวี่เอง อันที่จริงเห็นฉันพูดเหมือนคนว่างแต่จริงๆ ฉันไม่ได้ว่างหรอกนะ

เพราะตอนนี้ฉันกำลังคิดทางขอโทษชาร์ล็อตอยู่ พี่สาวเคยบอกว่าถ้าหากทำผิดก็ต้องขอโทษอย่างจริงใจ อย่าหัวรั้น

แต่ว่าจะให้ไปขอโทษตรงๆ มันก็ยังไงอยู่ ชาร์ล็อตไม่ใช่เลวี่สักหน่อยนะ.. เอ่อ ไม่ได้บอกว่าเลวี่ใจง่ายนะ แต่แบบว่า.. อืม ไม่รู้สิ

ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าฉันรู้น่าว่าต้องขอโทษเธอ แต่ฉันเกือบฆ่าเธอเลยนะ! ใครจะไปยกโทษให้กันละ

ไม่สิ นั่นอาจจะแค่ฉันแต่เอาเป็นว่าฉันจะต้องขอโทษเธอ ไม่สิ ฉันทำแน่ แต่ไม่รู้สิ อ๊ะ ช่างฉันเถอะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวต้องไปขอ–…

มันควรจะเป็นแบบนั้นนะ แต่ฉันดันมาเจอชาร์ล็อตยืนอยู่ต่อหน้าแล้วนี่สิ.. แถมตอนนี้ยังนั่งตัวติดกันอีกต่างหาก

แต่ว่าเหมือนเจ้าตัวจะอึดอัดที่อยู่กับฉันนะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกนะก็ฉันเคยบีบคอเธอเลยนะ

แต่ว่าฉันก็อยากฟังการบรรยายอ่ะ.. อืม… แต่ว่าฉันเคยทำไม่ดีกับเธอนะ.. หลังจากลังเลอยู่ไม่นานก็ตัดสินใจที่จะเป็นคนออกไปเอง

อยากฟังอ่ะ แต่ว่าฉันเป็นคนทำไม่ดีกับเธอ อา แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยไม่ใช่เหรอ?! ไม่สิถ้าโดนเกลียดขี้หน้าก็ยิ่งแย่ไปใหญ่นี่น่า

ถึงในหัวจะเถียงกับตัวเองแต่ก็พยายามลุกออกแต่ก็ถูกคนด้านหลังบ่นให้อยู่เฉยๆ

“….”

“….”

ฉันพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าตัวชาร์ล็อตเองก็เหมือนกันกับฉัน แย่แน่ๆ แบบนี้มีหวังฟังไม่รู้เรื่องแน่ๆ

ฉันขมวดคิ้ว แต่เหมือนชายที่อยู่บนเวทีก็มองสายตากวาดไปทั่วสถานที่ก่อนที่จะกระแอมออกมาเบาๆ โดยใช้เวทมนตร์ขยายเสียง

“อ่ะแฮ่ม.. ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีผู้รับฟังการบรรยายของข้าในคราวนี้”

พูดเสร็จแล้วเขาก็โค้งตัวลงอย่างสง่า เอ่อ.. ถึงฉันจะมองไม่เห็นเพราะตัวเตี้ยเกินไป ไม่ใช่เพราะว่าที่นั่งไม่อำนวยหรืออะไรหรอก

แต่เพราะคนข้างหน้าเขาตัวสูงจนบังหน้าฉันเนี่ยสิ จะเอียงตัวไปดานขวาก็มีชายร่างใหญ่นั่งอยู่

พอจะเอียงไปซ้ายก็มีชาร์ล็อตนั่งอยู่ ฉันหันไปเห็นชาร์ล็อตเธอไม่ได้สูงไปกว่าฉันมาก แต่นั่นก็พอที่จะมองเห็นแล้ว

ฉันพยายามอย่างมากในการหามุมมองไปเวที แต่ก็ไม่สำเร็จ… แถมโดนคนข้างๆ หันมาพูดเสียงเบาใส่ว่า

“เด็กๆ ก็อยู่นิ่งๆ หน่อยสิ! มันรบกวนคนอื่นเขา!”

“…”

ฉันไม่กล้าขยับตัวบ่อยอีกต่อไป แถมด้านข้างขวายังมีชาร์ล็อตที่นั่งตัวติดกันเธอคงจะรำคาญฉันน่าดู พอคิดแบบนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ

“เฮ้อ”

ฉันคอตกเล็กน้อย หันไปมองชาร์ล็อตเหมือนเธอจะหันทางฉันพอดี พอฉันมองหน้าเธอก็ไม่รู้จะสู้หน้ายังไงเลยต้องหันหน้าหนี

ชาร์ล็อตเองก็เหมือนจะตกใจจนหันหน้าหนีเหมือนกัน เฮ้อแล้วแบบนี้จะไปขอโทษได้ยังไงกันละเนี่ย

พอคิดแบบนั้น จู่ๆ ชาร์ล็อตที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น

“เอ่อ… คือว่า..”

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ขยับแล้ว”

ฉันรีบพูดออกไปก่อน.. เอ๋ จะขอโทษก็ง่ายนี่น่า แต่ทำไมรู้สึกว่ามันคนละประเด็นจัง.. ไม่สิ.. แต่ถ้าขยับอีกคงโดนด่าแน่เลย

เป็นแบบนั้นทุกอย่างคงแย่กว่าเดิมแน่ๆ แต่ชาร์ล็อตก็ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งมาให้ฉันแล้วก็พูดว่า

“ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ.. ใช้นี่รองสิคะ จะได้มองเห็น”

“อ๊ะ..”

ฉันไม่รู้จะพูดอะไร เหมือนเธอจะสังเกตที่ฉันมองไม่เห็นด้วย แต่ว่าไอ้ความรู้สึกแน่นหน้าอกนี่มันอะไรกันนะ!

ไอ้ความรู้สึกที่แบบว่ายอมรับไม่ได้ทั้งที่อายุเท่ากัน ไม่สิ เพราะพลังของไอ้หมึกตัวนั้นอายุขัยของร่างกายก็น่าจะเพิ่มขึ้นมาเยอะกว่าชาร์ล็อตนี่

(คนที่บอกว่าตัวโตขึ้นอีกคือเลวี่ ซึ่งอันที่จริงทุกคนไม่สังเกตเพราะเลทิเซียเติบโตขึ้นมานิดเดียวเท่านั้น ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ!)

แต่ความรู้สึกยอมไม่ได้นี่ไม่เคยมีมาก่อนเลยนะ ขนาดพี่หรือน้องสาวบังไม่เคยเลย เอ๋..? ช่างมันเถอะ

“เอ่อ.. เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

“..?”

จู่ๆ ชาร์ล็อตก็ถามขึ้นมา ทำให้ฉันรู้สึกงงเล็กน้อย ชาร์ล็อตเห็นหน้าสับสนไม่เข้าใจของฉันเธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ปล่อยให้ฉันงงต่อไป แต่ก็เพราะหนังสือของชาร์ล็อตทำให้ฉันมองเห็นเวทีด้านหน้าสักที ผู้ชายที่ยืนอยู่บนเวทีเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดี

ผมสีเหลืองอมทองสวมชุดเหมือนผู้ดีมีเงิน จากที่ฟังมาเหมือนหมอนี่จะชื่อ ฮิสครอม นามสกุลอะไรสักอย่าง

อ้างว่าตัวเองเป็นหนึ่งในคาร์ดินัลแห่งศาสนจักรโอโรโบรอส!

……….

[เรือคุณจะมีชัยไปกว่าครึ่งถ้าคนเขียนเป็นคนสร้างเรือเอง ชงเอง พายเอง – ใครสักคนย

น]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน