การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 217

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 217 – ความโกรธ

ก่อนหน้านี้ที่สเตฟานี่ เลทิเซียและเซเรสกำลังมีปัญหากันอยู่เลมิสทาเรียผู้ซึ่งใช้โอกาสนี้ล่วงลึกเข้าไปในห้วงวิญญาณของเลทิเซีย และทันทีที่เจ้าตัวสัมผัสกับดวงวิญญาณของเลทิเซีย

เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงของเลทิเซีย แต่เป็นเสียงของเลมิสทาเรียนั่นแหละ

เธอกรีดร้องโหยหวนราวกับถูกไฟลวก พร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น”

ตลอดแปดดวงวิญญาณที่ผ่านมาเธอล้วนทำเช่นนี้ทุกอย่าง พูดอีกอย่างก็คือเธอมีประสบการณ์ในการกลืนกินดวงวิญญาณมามากมาย

การกลืนกินดวงวิญญาณมันมีหลักการเดียวกับที่สร้อยผลึกชีวิตใช้ เพียงแต่ผู้ที่ถูกกลืนกินจะเสียเปรียบกว่ามาก

เพราะเป็นผู้ถูกกระทำแถมการโจมตีทางวิญญาณยังไม่สามารถใช้พลังทางกายภาพป้องกันได้ แม้จะมีเวทมนตร์ที่ส่งผลต่อดวงวิญญาณเช่นกัน

แต่นั่นก็ไม่สามารถป้องกันการกลืนกินได้ แต่ทว่าพอเลมิสทาเรียสัมผัสกับดวงวิญญาณ ความแสบร้อนก็พุ่งเข้าสู่วิญญาณของเธอ

แค่นี้ยังพอว่า แต่มันไม่ใช่แค่นี้ คนที่ถูกดูดกลืนกลับกลายเป็นเธอเสียเอง ดังนั้นเธอจึงได้แต่กรีดร้องถอยออกมาจากดวงวิญญาณของเลทิเซีย

“อ้า หัวของข้า.. ไม่”

เธอร้องออกมาราวกับดวงวิญญาณกำลังถูกเข็มนับพันแทงอย่างไม่สามารถป้องกันได้

ความเจ็บปวดที่วิ่งแล่นไปทั่วได้แต่สร้างความงุนงงให้เธอ สถานการณ์ตอนนี้มันคือเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกันแน่

เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่แน่นอนว่าแผนหลายร้อยปีที่ผ่านมาเธอไม่มีทางยอมแพ้เพราะพลาดครั้งแรกอย่างแน่นอน

เลมิสทาเรียกัดปากด้วยความหงุดหงิดและกำลังจะใช้เวทมนตร์นั้นเอง สุ้มเสียงปริศนาก็ดังขึ้นจากแห่งหนใดไม่มีใครทราบ

ราวกับว่ามันดังมาจากห้วงเวลาที่ไกลออกไป

“นี่เจ้า.. คิดจะทำอะไร?”

“ใครน่ะ!!!”

เลมิสทาเรียรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งกาย เธอจำได้ว่านี่ไม่ใช่เสียงของเลทิเซียหรือนังเด็กสเตฟานี่นั่น

หมายความว่า.. ในตัวเลทิเซียมีวิญญาณอื่นอยู่อีกงั้นเหรอ อีกทั้งเสียงเมื่อกี้แค่ฟังก็รู้สึกว่าพลังแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้

ไม่สิ เลมิสทาเรียก็เคยเจอเทพมาบ้าง แต่ต่อให้เป็นเทพเธอก็ไม่คิดว่าจะสามารถใช้เสียงง่ายๆ ในการเขย่าขวัญเธอได้

ในตอนนี้เธอจึงตกใจอย่างมาก

“อ่า…?”

ในตอนนั้นเองเสียงที่ดูเย็นชานั้นก็อุทานอย่างตกใจ เธอเหมือนจะแปลกใจในเรื่องบางเรื่องขึ้นมาก่อนที่จะส่งเสียงใคร่ครวญ

“อืมๆ ..แบบนี้นี่เอง.. อ๋า? เป็นแบบนี้เอง อ่า ท่านจอมมารนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะเจอกันสินะ?”

เธอพูดพึมพำอยู่คนเดียวแต่เหมือนจะมีแค่เลมิสทาเรียที่ได้ยินเสียงนี้ แต่ว่าเธอก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น

เธอพ่นลมหายใจออกมาและตรงดิ่งไปยังดวงวิญญาณของเลทิเซีย แต่ทันทีที่อ้าปากและจะกลืนกินดวงวิญญาณของเลทิเซียนั้นเอง

“อ้ากกก”

เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้ดวงวิญญาณของเธอดูพร่าเลือนลงไปไม่น้อยสีหน้าซีดเผือด

“งั้นเหรอ..”

และในตอนนั้นเองเสียงของเลทิเซียก็ดังขึ้นมา ในตอนนี้สีหน้าของเลทิเซียก็มืดมนลงไปมากเมื่อกี้นี้สเตฟานี่พึ่งสลายหายไปต่อหน้าต่อตา

ใช่แล้ว เธอตายไปแล้ว ไม่มีทางช่วยได้แล้ว และไม่ถึงนาทีต่อมาเลมิสทาเรียที่พยายามกลืนดวงวิญญาณเลทิเซีย

แต่เหมือนกลับถูกกินซะเอง นั่นหมายความว่า.. ความทรงจำส่วนหนึ่งของเลมิสทาเรียถูกเลทิเซียมองเห็น

และหนึ่งในนั้น คือแผนการอันชั่วร้ายของสองพี่น้องคู่นี้.. แล้วคิดว่าในตอนนี้เลทิเซียจะรู้สึกยังไง

ตลอดมาเลทิเซียเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดจะสู้ใคร เธอเป็นคนประเภทที่หากเจอปัญหาก็ต้องหลีกเลี่ยงไว้ก่อน

และด้วยความที่เธอเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย สำหรับเลทิเซียจึงกลายเป็นว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงข้อพิพาททุกอย่างกับการปฏิสัมพันธ์รอบด้าน

ไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากทำ แต่เพราะเธอกลัวต่างหาก กลัวว่าจะโดนลอบกัด กลัวว่าจะมีปัญหา ดังนั้น..

ตลอดมาเธอจึงหลีกเลี่ยง เมื่อเจอสถานการณ์ขับขันก็ต้องทุ่มสุดกำลังเพราะว่านั่นเป็นเหตุการณ์ที่ ‘หลีกเลี่ยง’ ไม่ได้แล้ว

แม้แต่ก่อนหน้านี้เองที่เธอโกรธ แต่นั่นก็เพราะเธอไร้หนทาง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ ความอึดอัดมันทำให้เธอระเบิดความโกรธออกมาอย่างคับแค้นใจ

แต่ทุกอย่างที่กล่าวมามันไม่เหมือนกับตอนนี้.. ตอนนี้เธอกำลังโกรธอย่างแท้จริง มันมากยิ่งกว่ามีคนมาดูถูกพี่น้องของเธอ

เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นโดยมีคนจัดฉากทำให้คนสำคัญ คนที่ยอมรับตัวเธออย่างสเตฟานี่หายไป…

เธอตายไป.. ใช่แล้ว ในตอนนี้เลทิเซียกำลังโกรธมากเสียงลึกลับที่เคยพูดกับเลมิสทาเรียก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ราวกับว่าไม่ต้องการที่จะพูดอะไรในยามนี้

“ทุกอย่างมันเป็นฝีมือของพวกเธอสินะ”

น่าแปลกที่แม้จะโกรธแต่เธอก็ยังพูดขึ้นมาราวกับกำลังสงบนิ่ง หากเป็นแต่ก่อนอารมณ์โกรธมันคงระเบิดออกไปแล้ว

แต่เธอในตอนนี้กลับต่างออกไป มันดูน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก

“เอาล่ะ เจ้าเองก็ได้เวลาออกไปแล้วนะ ชิ้วๆ”

เสียงลึกลับนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง พอมันดังขึ้นเลมิสทาเรียก็กรีดร้องโหยหวนก่อนที่จะหลุดออกจากตัวของเลทิเซียอย่างง่ายดาย

ในโลกด้านนอกเธอปรากฏตัวออกมาก่อนที่จะมีร่างกายเหมือนเดิมทุกระเบียบนิ้ว จากการถูกเตะออกจากห้วงจิตเมื่อสักครู่มันทำให้ทั้งดวงวิญญาณของเธออ่อนล้า

เพราะถูกฉุดกระชากอย่างรุนแรง

“นั่นมันอะไร!”

เสียงของเธอตะโกนขึ้นด้วยความหวาดกลัว ชี้นิ้วไปที่เลทิเซีย แต่เลทิเซียไม่ได้ตอบคำถามของเลมิสทาเรีย

เลมิสทาเรียรู้ว่าคนที่ไล่ตัวเองออกมาไม่ใช่เลทิเซียแต่เป็นดวงวิญญาณลึกลับตนนั้น เธอกัดฟันกรอดแล้วก็ตัดสินใจที่จะหลบหนี

คราวนี้เธอคำนวณพลาดไปหลายอย่างเลยในตอนนี้ต้องเอาตัวรอดก่อน หลังจากตัดสินใจที่จะหนีเจ้าตัวก็หลบหนีทันที

แต่เลทิเซียไม่ได้ไล่ตามทันที เธอค่อยๆ ก้มลงไปอุ้มเอาหัวของสเตฟานี่ขึ้นมาดวงตาของเธอมีรอยเปียกชุ่ม

ดวงตายังปิดไม่สนิท ภาพก่อนหน้าลอยเข้ามา เมื่อข้างนั้นของเธอคว้าเอาไว้ได้เพียงแค่ความว่างเปล่า

และเลทิเซียก็ก้มหน้าลงจุมพิตริมฝีปากของสเตฟานี่.. ภาพนี้หากคนนอกมาเห็นคงสยองไม่น้อยเลย

“รอก่อนนะสเตฟานี่.. ฉันจะ…ฆ่าพวกมันทุกคนให้หมดเอง ต่อหน้าเธอ นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเราสามคน.. แต่เป็นความผิดของขุนนางโง่เง่า ความผิดของเจ้าบัดซบสองคนนั้น..”

เลทิเซียพึมพำแล้วก็เก็บร่างของสเตฟานี่เข้าไปในมิติส่วนตัวพร้อมกับร่างที่สลบอยู่ของเซเรส

เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นดวงตาของเลทิเซียในตอนนี้มันดูดำมืดยิ่งกว่ายามวิกาล แสงจากดวงอาทิตย์ราวกับถูกดูดกลืนเข้าไป

ผมสีดำสนิทสยายออก.. พลังทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมา ท้องฟ้าเปลี่ยนสี บรรยากาศหนักอึ้ง

ในตอนนี้พื้นที่แถบนี้.. ไม่สิ.. ทั้งอาณาจักรถูกปกคลุมไปด้วยแรงกดดันบางอย่าง ความโกรธ ความเกลียด ความแค้นของเลทิเซียมันช่าง..

หนักหนาสาหัสกว่าของสเตฟานี่มากนัก..

ทั้งที่เป็นตอนเช้าแท้ๆ แต่ตะวันกับไม่ส่องแสง แต่ที่เปล่งแสงเด่นชัดกลับเป็นจันทราราวกับว่ามันดูดแสงของดวงอาทิตย์ไปจนหมด

เลมิสทาเรียที่อยู่ห่างไกลออกไป แทบสำลักลมหายใจสายตาเลทิเซียราวกับมองทะลุทุกสิ่งตรงมาที่เธอ

“บ้าไปแล้ว.. นี่มัน.. บ้าอะไรเนี่ย”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท