การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 221

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 221 – จอมมาร

แต่ทว่าเวลาไม่เคยรอใคร ไม่ว่าจะเลมิสทาเรียหรือไบรอัสเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งรับหรือเตรียมแผนการอะไรเลย

เงาร่างสีดำหนึ่งก็พุ่งปะทะใส่ไบรอัสด้วยความเร็วสูง จนทำให้เขาต้องตกใจ โชคยังดีที่ความเร็วของเขาเหนือกว่าเลมิสทาเรียมากนัก

เพราะในพริบตาที่เงาสีดำนั้นพุ่งมาเขาก็ใช้ดาบในมือป้องกันเอาไว้ได้ ฝ่ามือที่เหมือนจะปะทะกับคมดาบเขานั้นจ้องจะสังหารเลมิสทาเรียอย่างเห็นได้ชัด

ไบรอัสหน้ามืดลง แต่ในตอนนั้นเองเงาสีดำก็เคลื่อนไหวอีกครั้งโจมตีใส่หน้าอกของไบรอัส

“ท่านพี่!!”

ไบรอัสรับด้วยคมดาบแต่แรงปะทะและพลังขุ่นมัวสีดำก็ซัดเอาร่างเขาปลิวขึ้นไปบนอากาศ

ไบรอัสสำลักเลือดออกจากปากพร้อมกับเบิกตากว้าง แต่โชคยังดีเขาคือผู้กล้าแห่งดาบเชี่ยวชาญในเรื่องการควบคุมพลังเวทศักดิ์สิทธิ์

พลังเวทศักดิ์สิทธิ์คล้ายพลังธาตุแสงของลูเซียโน่พ่อของเลวี่ แต่พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นต่างจากพลังธาตุแสงคือ.. มันเป็นพลังที่ชนะทางเผ่ามารได้โดยเฉพาะ

โดยเฉพาะจอมมาร แต่ทว่าเมื่อครู่นี้อย่าว่าแต่ทำร้ายจอมมารตรงหน้าเลย ขนาดป้องกันเขายังแทบต้านทานไม่ไหว

นี่แหละคือความห่างชั้นของพลัง ในขณะที่ทหารนับแสนกำลังยืนอ้าปากค้างเพราะตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน

ฝุ่นควันที่เกิดจากการปะทะกันของเงาสีดำและไบรอัสก็จางลง ในตอนนั้นเองสายตามากมายก็มองไปเห็นเด็กคนหนึ่ง..ใช่ พวกเขามองไม่ผิดเป็นเด็กที่อายุไม่เกินสิบสองขวบด้วยซ้ำ

“เด็ก..?”

และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็คือเด็กผู้หญิงผมสีดำสนิท ตาสีดำสนิท.. มือข้างขวากำลังบีบคอเลมิสทาเรียอยู่

บีบคอผู้กล้าอยู่ นั่นยิ่งทำให้พวกเขาขนลุกเพราะสภาพของเลมิสทาเรียตอนี้แม้พยายามจะดิ้นเท่าไหร่แต่ก็ไม่อาจหลุดออกจากมือของเลทิเซียได้

ราวกับเป็นสัตว์ตัวเล็กในเงื้อมมือราชสีห์ แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามเพราะราชสีห์เหมือนจะตัวเล็กกว่าเหยื่อ

“อ่อก”

เลมิสทาเรียหายใจไม่ออกเธอพยายามจะดิ้นรนและใช้พลังทุกอย่าง แต่ต่อให้เป็นเธอก็ยังคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูพลังอยู่เช่นกัน

เพราะเมื่อกี้พึ่งผ่านศึกหนักมา ดังนั้นในตอนนี้เธอจึงไม่สามารถต้านทานการจับกุมของเลทิเซียได้เลย

“ปล่อยเลมิสทาเรียเดี่ยวนี้!!”

แต่ทว่าเหมือนเสียงนั้นจะส่งไปไม่ถึงเพราะในตอนนั้นเองคอของเลมิสทาเรียก็ถูกหักคามือเธอแทบจะทันที

“เจ้า!!!!”

ไบรอัสตะโกนด้วยความเดือดดาล เลทิเซียโยนร่างเลมิสทาเรียไปข้างหน้าพร้อมกับใช้เท้าเตะร่างเลมิสทาเรียปลิวไปหาไบรอัส

จากแรงเตะของเลทิเซียมันส่งให้ร่างที่ไร้ชีวิตของเลมิสทาเรียบิดเบี้ยวกระดูกหักไปทั่วทั้งร่าง

ไบรอัสหน้าเผือดสีพุ่งไปรับเลมิสทาเรีย แต่ในตอนนั้นเองเลทิเซียก็ปรากฏตัวด้านหลังไบรอัสอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ดาบสีดำในมือโผล่ขึ้นมาตอนไหนไม่ทราบแทงใส่กลางหลังของไบรอัสพร้อมกับประกายสายฟ้าสีดำที่น่าหวาดหวั่น

แต่ไบรอัสเองก็มากประสบการณ์แม้ลอยตัวกลางอากาศเขาก็บิดตัวหลบออกด้านข้างมือซ้ายอุ้มเลมิสทาเรียมือขวาตวัดดาบจากการหมุนครบ 180 องศา

ใส่มือของเลทิเซียเพื่อที่จะทำให้ดาบหลุดจากมือ แต่เลทิเซียในตอนนี้แทบไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดเธอจะสนใจเรื่องแบบนั้นทำไม?

มือของเธอถูกดาบเล่มนั้นของไบรอัสฟันจนเกิดเป็นแผลเหวอะหวะเลือดฉีดกระจาย แต่ที่ไบรอัสคาดไม่ถึงคือ

เลทิเซียสะบัดมือที่ขาดของตัวเองใส่หน้าเขา จนเลือดที่พุ่งจากข้อมือสาดใส่ตาของเขา แต่เขาก็ตอบสนองทัน

พลังงานบางอย่างป้องกันดวงตาของเขาเอาไว้

“ไม่ได้ท่านพี่.. อย่าสู้ระยะประชิดกับมัน…”

เลมิสทาเรียที่เหมือนจะตื่นขึ้นมาก็สังเกตเห็นเธอรีบตะโกนแต่ก็สายไปเพราะมือซ้ายที่ยังไม่ถูกทำลายของเลทิเซีย

พุ่งแทงใส่อกของไบรอัส ต่อให้เขาป้องกันเลือดโดนตาได้แต่ในระยะที่ใกล้ตาขนาดนั้น เลือดที่ถูกหยุดมันก็บดบังวิสัยทัศน์ได้อยู่ดี

ดังนั้นเขาจึงไม่อาจตอบโต้การโจมตีของเลทิเซียนี้ได้เลย

แต่เลมิสทาเรียเองก็สังเกตเห็นเธอไม่สนใจว่ามีคนนับแสนมองอยู่ สะบัดมือออกไปป้องกันการโจมตีของเลทิเซียแม้กระดูกยังไม่ถูกการรักษา

มือของทั้งสองปะทะกันทำให้การเกิดรอยบิดเบือนขางมิติอีกครั้ง ทำให้มือทั้งสองได้รับบาดเจ็บแต่คนที่สาหัสกว่าใครคงเป็นไบรอัส

เพราะหน้าอกเข้าอยู่ใกล้กับรอยแตกนั้น เสียงกรีดร้องของไบรอัสดังขึ้น

“ท่านพี่ถอยก่อน”

แต่เหมือนไบรอัสจะโกรธจัดเช่นกันดาบในมือเขาตวัดใส่คอของเลทิเซียที่เหมือนจะไม่มีทางหนีพ้นเพราะพึ่งปะทะกับเลมิสทาเรียไป

เลมิสทาเรียที่เห็นภาพนี้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีพยายามจะดึงร่างของพี่ชายตัวเองออกห่างจากเลทิเซีย

แต่ความเร็วไบรอัสนั้นเร็วกว่าเพราะคมดาบตัดใส่คอของเลทิเซียจนขาดหลุดกระเด็นลอยออกจากบ่า

ปากของเลทิเซียยิ้มอย่างน่ากลัว ราวกับปีศาจจากขุมนรกดวงตาที่จ้องมองสองพี่น้องคู่นี้คือความแค้นที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมโลก

ฆ่าเพื่อนของเธอ ทำให้เพื่อนของเธอเกือบตายอีกหลายครั้ง… พอเลมิสทาเรียเห็นรอยยิ้มนั้นเธอก็ตกใจ

เธอรู้ว่าวิธีต่อสู้ของยัยเด็กนี่มันสุดโต่งขนาดไหน เธอใช้จังหวะนี้ลากพี่ชายของเธอถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่มันก็ช้าเกินไป หัวที่หลุดออกจากบ่ากลับไม่ตายหรือฟื้นฟูมันพุ่งเข้าไปกัดคอของไบรอัสเหมือนกับตอนที่เลมิสทาเรียโดนกัด

เลมิสทาเรียที่เห็นภาพนี้ตกใจขวัญผวา เธอจำความทรมานของตอนนั้นได้ดี

“ท่านพี่ระวังคอ”

เธอตะโกนออกมาสุดเสียง ไบรอัสตอบสนองหักคอหลบไปด้านข้าง แต่ปากของเลทิเซียก็กัดเข้าที่ต้นคอของเขาอย่างเลือดเย็น

ปากของเธอกัดลงราวกับกำลังเคี้ยวอาหารแต่นี่เป็นเนื้อของคนเป็นภาพนี้ทำเอาทหารทุกคนที่อยู่ด้านล่างขนลุกซู่…

นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น…. ผู้กล้า..สองคนร่วมมือกันสู้เด็กคนหนึ่งไม่ได้? ไม่ใช่แค่นั้นแต่เด็กผู้หญิงนั้นทั้งความโหดร้ายและความป่าเถื่อน

ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตจากนรกที่หลุดมาบนผิวโลก ใช้ความเจ็บปวดตัวเองเพื่อแลกความตายของอีกฝ่าย..

มองดุเหมือนง่าย.. แต่ว่าความเจ็บปวดที่ได้รับมันคือของจริง.. มีไม่มากหรอกที่จะบ้าถึงขั้นนี้

“อ้ากกกกกก”

ไบรอัสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเขาจับผมเลทิเซียแล้วก็ดึงออกจากไหล่ตัวเอง แต่ปากของเลทิเซียราวกับคีบเหล็ก

ไม่นานเสียงฉีกขาดของเนื้อหนังดังขึ้น ผมเลทิเซียหลุดลุ่ยจนกระเซอะกระเซิง ปากยังมีเลือดและเนื้อของไบรอัสอยู่

หัวของเธอถูกดึงออกจากต้นคอของไบรอัสและไบรอัสก็ใช้จังหวะนี้แทงดาบใส่ปากของเลทิเซียจนทะลุหนังศรีษะ

แต่ในตอนนั้นเอง ดวงตาของเลทิเซียเรือนแสงสีทองออกมา

ก่อนที่หัวของเธอจะระเบิดออกตรงนั้นกลายเป็นแรงระเบิดกัมปนาทเขย่าฟ้าสะเทือนดิน แรงกระแทกที่มากมหาศาลนั้นกวาดซัดเอาร่างของไบรอัสและเลมิสทาเรียกระจุยกระจาย

“อ้ากกกกกก”

เสียงตะโกนอย่างเจ็บปวดทรมานของสองพี่น้องดังขึ้น.. แต่ไม่เพียงเท่านั้นเลมิสทาเรียที่ไหวตัวทัน เธอตะโกนออกมา

“ท่านพี่.. ยัยเด็กนี่มันระเบิดดวงวิญญาณของตัวเอง หากเราโดนเต็มๆ ละก็…”

เลมิสทาเรียพูดแค่นั้นไบรอัสก็เข้าใจ.. ต่อให้วิญญาณแปดดวงแต่แรงระเบิดนี้ไม่ได้คร่าชีวิตทางกายภาพ.. แต่ทำลายยันดวงวิญญาณ

การทำลายดวงวิญญาณนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับโลกนี้ เพราะหากคนตายทุกคนก็แค่หวนคืนสู่ปรโลก แต่การระเบิดวิญญาณของเลทิเซียนี่

เหมือนจะทำได้.. แต่ถ้าหากพวกเขาป้องกันได้ก็เท่ากับชนะ เพราะนี่เป็นเหมือนระเบิดพลีชีพนั่นแหละ

ดวงตาของไบรอัสเปล่งแสงพร้อมกับฉีกวิญญาณที่หลอมรวมกับตัวเองออกมาสองดวง.. และใช้เป็นโล่วิญญาณป้องกัน

เสียงกรีดร้องโหยหวนของดวงวิญญาณทั้งสองที่ใช้ปกป้องไบรอัสกับเลมิสทาเรียดังขึ้น … และเมื่อแสงระเบิดหายไปร่างพวกเขาสองคนร่วงลงพื้น

พร้อมกับหอบหายใจ…แม้จะเสียวิญญาณไปสองดวง.. แต่พวกเขาก็รอดมาได้! ร่างที่ไร้หัวของเลทิเซียร่วงลงพื้นดังตุบ

ทุกคนที่มองภาพนี้อยู่ต่างกลืนน้ำลายด้วยความอกสั่นขวัญผวา… เมื่อกี้มันอะไร..

ในขณะเดียวกันไบรอัสที่ฉีกวิญญาณที่หลอมรวมไปแล้วออกมาทำให้เขาเจ็บปวดทรมานเช่นกัน เข่าเขาทรุดลงกับพื้นแต่ก็ยังรักษาให้เลมิสทาเรียก่อน

“ท่านพี่..”

เลมิสทาเรียเองก็ห่วงไบรอัสที่สุดเช่นกัน.. ทั้งสองมองไปยังร่างของเลทิเซียดวงความโล่งอก……..ร่างที่ควรจะกลายเป็นซากศพ

ก็ขยับ.. ค่อยๆ ลุกขึ้น…

น่าประหลาดที่คนยืนอยู่แถวนี้มีมากมายนับไม่หมด.. แต่พอการเคลื่อนไหวเล็กๆ นี้เกิดขึ้นทุกอย่างกลับเงียบกริบทันที

หัวที่หายไปก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาพร้อมกับดวงตาสีดำทมิฬที่จ้องไปยังไบรอัสและเลมิสทาเรีย…

คำพูดคำเดียวที่ทุกคนนึกขึ้นได้จากสถานการณ์ในตอนนี้ แม้คำอธิบายนั้นอาจจะด้อยกว่าการที่จะอธิบายฉากเหล่านี้ไปมากก็ตาม

แต่ทว่าทั้งความแข็งแกร่ง

ความโหดร้าย

ความป่าเถื่อน..

มันราวกับ…

จอมมาร!!

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท