การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 238

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 238 – จดหมาย

ฉันกลับมาที่โรงเรียนด้วยความเร็วสูง ถึงมันจะไกลจากโรงเรียนมาก แต่ว่าฉันก็สามารถกลับมาที่โรงเรียนได้อย่างรวดเร็ว

พอฉันกลับมาถึงโรงเรียนฉันก็รีบกลับไปที่ห้องพยาบาลในโรงเรียน พอไปถึงก็เห็นลาน่านั่งอยู่บนเก้าอี้

เตียงที่อยู่ตรงกันข้ามมีเซเรสนอนไม่ได้สติอยู่ เธอยังไม่ฟื้นเลย ลาน่าที่เป็นซัคคิวบัสเหมือนจะบอกว่าสาเหตุที่เซเรสไม่ฟื้นไม่ใช่เพราะบาดแผลทางร่างกาย

แต่เป็นเพราะบาดแผลทางใจ..

“เธอยังไม่ฟื้นเหรอ?”

“องค์หญิง เธอยังไม่ฟื้นเลย ดูจากอาการแล้วข้าคิดว่าอีกไม่นานเธอคงฟื้น”

ลาน่าพูดแบบนั้น แต่ท่าทางของเธอแปลกๆ ในตอนตอบฉัน ฉันก็รู้สึกประหลาดอยู่บ้าง

แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรฉันก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติอีกครั้ง.. ในตอนนี้ฉันไม่รู้สึกกังวลหรือระแวงเมื่ออยู่ใกล้ลาน่าเลย

ฉันขมวดคิ้ว ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้ลาน่าจนตัวแนบกัน ลาน่าก็เหมือนจะตกใจ เธอเอียงคออย่างสงสัยแล้วพูดขึ้น

“เอ่อ.. องค์หญิงคะ..?”

“ลาน่า ย่อตัวลงมานี่หน่อยสิ”

ฉันบอกแบบนั้นเพราะตัวฉันสูงเท่าหน้าอกเธอเท่านั้น

“เอ้ะ.. คะ..ค่ะ”

ลาน่าดูตกใจกับท่าทางของฉัน แต่ฉันไม่ได้สนใจเพราะฉันในตอนนี้มีเรื่องที่ต้องพิสูจน์อยู่

พอลาน่าย่อตัวลงมาฉันก็เอาแก้มตัวเองไปแนบแก้มของเธอ ลาน่าเหมือนจะลนลานขึ้นมาจนต้องถอยตัวออกห่าง

แต่ฉันไม่ได้สนใจเธอเพราะฉันในตอนนี้… ดูเหมือนว่าจะไม่กลัวคนแล้ว? อาการมันเหมือนตอนที่ฉันกินยาแปลกๆ ในโลกเดิมก็จริง

แต่ในโลกเดิมมันก็เหมือนแค่ระงับอารมณ์คิดมากไว้เท่านั้น แต่ตอนนี้เหมือนกับว่าฉัน..ไม่คิดมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว?

กลับกันตอนนี้พอฉันมองย้อนกลับไปในอดีต ฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติอย่างมากที่มีท่าทางหวาดกลัวผู้คนไปมั่วแบบนั้น

“นี่มัน….”

และสิ่งแรกที่ฉันนึกขึ้นมาได้ในตอนนี้ก็คือ.. ชาร์ล็อต!! ใช่ ก่อนหน้านี้ฉันทำอะไรกับเธอไว้ แถมยังไม่ได้ขอโทษเป็นจริงเป็นจังด้วย

ฉันต้องไปขอโทษเธอก่อน.. ไม่รู้ว่าทำไมฉันในตอนนี้ถึงรู้สึกกระวนกระวายมากขนาดนี้ พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำกับชาร์ล็อตไว้

อยากจะไปพูดกับเธอในทันที ฉันไม่คิดว่าเธอจะให้อภัยฉัน และไม่คาดหวังว่าเธอจะให้อภัยฉันเช่นกัน

แต่ว่าเรื่องที่ฉันทำผิดและต้องไปขอโทษนั่นก็ควรทำ.. ฉันตัดสินใจแบบนั้นก็หันไปหาลาน่า

“ลาน่า.. ถ้าเซเรสฟื้นแล้วรีบบอกฉันทันทีเลยนะ ฝากด้วยล่ะ”

“อ้ะ รับทราบแล้วค่ะ”

ฉันพูดเสร็จก็วิ่งออกจากห้องพยาบาลตรงดิ่งกลับไปหอพักหญิง ตอนนี้ยังไม่เปิดเรียนเพราะว่าฉันไปก่อเรื่องไว้เลยเกิดเรื่องใหญ่โตเอามากๆ

เป็นเหตุผลที่โรงเรียนถึงยังไม่เปิด แถมการแข่งขันระดับโรงเรียนก็ล่มเพราะสองผู้กล้าอีกด้วยทำให้ทางโรงเรียนทั้งห้ากำลังคิดจะเอายังไงกับเรื่องนี้กันอยู่

ดังนั้น…ที่ที่ชาร์ล็อตอยู่ควรจะเป็นในห้องของพักของพวกเรา.. ฉันคิดแบบนั้นก็วิ่งไม่นานก็มาถึงหน้าห้อง

“ฟู่ว.. ฉันต้องทำ.. พี่เอลน่าสอนฉันเสมอมาว่าทำผิดก็ต้องขอโทษ..”

ฉันสูดหายใจพร้อมกับพึมพำ ยื่นมือไปจำลูกบิดประตู.. แต่เหมือนมือมันยังสั่นอยู่.. นั่นสินะ..

พอมาถึงตรงนี้แล้วจริงๆ ฉันกลับกลัวอย่างนั้นเหรอ.. เหมือนกับก่อนหน้านี้เลยไม่ใช่หรือไง.. ขอโทษก็ไม่ได้ขอโทษเธอสักนิด

ฉันน่ะ.. ไม่เหมือนเดิมแล้ว.. ฉันต้องสะสางเรื่องที่ตัวเองก่อไว้ทั้งหมดให้ได้… พอคิดแบบนั้นก็กัดฟัน..

เปิดประตูเข้าไป แม้จะยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่มั่นใจ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังหวาดกลัว.. กลัวว่าเธอจะมองฉันด้วยสายตานั้นอีก

กลัวมาก.. กลัวจนแทบอยากจะหายไปจากโลกนี้เลย.. แต่ถ้าทำแบบนั้น มันก็เหมือนที่ผ่านมา มีแต่หนี หนีแล้วก็หนี

หาข้ออ้างว่าต้องมีของขวัญ ต้องขอโทษในสถานการณ์ที่เหมาะสม อ้างแบบนั้นเพื่อหลีกหนีในความผิดของตัวเอง

ฉันจะไม่หนี… ไม่หนีอีกต่อไป ฉันจะแบกรับความผิดที่ตัวเองเคยก่อและก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อสเตฟานี่ เพื่อพี่เอลน่า.. เพื่อทุกๆ คนที่เลี้ยงดูฉันมา

“ชาร์ล็อต!!”

ฉันตะโกนออกไปแบบนั้นพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป แต่ทว่าภายในห้องนั้นกลับว่างเปล่า.. ไม่มีเสียงตอบรับฉัน

ภายในห้องตอนนี้ดูรกมาก ไม่ได้รกเพราะไม่เก็บข้าวเก็บของไม่เข้าที่ แต่มันเต็มไปด้วยฝุ่นผงเต็มห้อง

มีใยแมงมุม เต็มไปหมด.. เหมือนกับว่าไม่มีคนมาอยู่นานเป็นเดือนสองเดือนแล้ว.. ฉันเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ

ฝุ่นติดตามเท้าของฉัน.. แต่ฉันก็ไม่สนใจฉันมุ่งหน้าไปที่โต๊ะข้างเตียงของชาร์ล็อต.. ที่ตรงนั้นมันมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่

เพราะหน้าต่างปิดอยู่ตลอดเวลาเลยไม่มีลมพัดให้มันปลิวตกลงพื้น.. ฉันเดินเข้าไปหยิบกระดาษที่พับอยู่ก็มีฝุ่นฟุ้งไปทั่ว

หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ..

“ถึงเลทิเซีย..”

หน้ากระดาษแผ่นนั้นเขียนไว้สั้นๆ เป็นลายมือที่สวยงาม.. จะว่าไปชาร์ล็อตเธอมีลายมือที่สวยมากๆ นี่นะ..

แต่ฉันกลับไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเธอเลยสักนิด.. ฉันเปิดกระดาษที่พับอยู่ออกเงียบๆ

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเขียนจดหมายถึงคนอื่น ถ้าหากเขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่ ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ นะ แต่จะว่าไปก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้วิธีสื่อสารกับอันน่า ฉันก็เขียนจดหมายแบบนี้ไว้นั่นแหละ.. แต่ว่าอันน่ากับฉันเป็นหนึ่งเดียวกันนี่น่า แฮะๆ คงนับว่าเป็นครั้งแรกไม่ได้ละมั้ง”

เธอเขียนไว้แบบนั้น แต่ก็นะ.. งานเขียนของเธอประณีตจนเข้าใจเลยล่ะว่าเธอใส่ใจจดหมายฉบับนี้แค่ไหน..

“อ่าา.. นอกเรื่องไปไกลแล้ว… จริงๆ ข้ามีสิ่งอยากจะบอกก่อน… ตอนที่เจ้าเห็นจดหมายฉบับนี้ ข้าคงออกจากโรงเรียนไปแล้ว ไม่ต้องตามหาข้าหรอกนะ.. อะ.. เมื่อกี้ไม่มีอะไร”

เธอขีดฆ่าตรงตัวอักษรทีเขียนว่า ‘ไม่ต้องตามหาข้าหรอกนะ’ แต่ฉันก็ยังอ่านออกอยู่ดีจากรอยกดของกระดาษที่ต่างจากรอยขีดฆ่าที่เป็นแนวนอน

“อย่างแรก.. เหตุผลที่ข้าเข้าโรงเรียนนี้มาก็เพื่อที่จะตามหา ‘คนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก’ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มี.. ดังนั้นข้าเลยตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปที่อื่นต่อเพื่อหาเธอคนนั้น.. เธอคนนั้นน่ะพอข้ามานึกถึงเอาตอนนี้.. ข้าก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง”

“ถึงจะบอกว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก.. แต่ก็ยังเสียใจอยู่ตลอดเวลา ร้องไห้เหมือนคนธรรมดาแบบข้า อีกทั้งยังโดดเดี่ยว.. แม้เธอจะแข็งแกร่งที่สุดในโลกแต่เธอกลับเป็นเหมือนคนที่เสียใจที่สุดในโลกเช่นกัน.. ข้าไม่อยากปล่อยให้เธอคนนั้นโดดเดี่ยว ดังนั้นข้าจะตามหาเธอและไปยืนอยู่ข้างๆ เธอ เป็นเพื่อนเธอ”

หัวใจของฉันบีบรัด.. เพราะนี่เป็นการจากลาอย่างนั้นเหรอ.. ฉันเลยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้.. ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่พวกเราอยู่ด้วยกัน

มันทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ ได้นอนเตียงเดียวกัน.. ได้นอนฟูกเดียวกัน ได้คุยเรื่องต่างๆ ด้วยกันในตอนกลางคืน

มันเหมือนกับคำว่า ‘เพื่อน’ ที่พี่เอลน่าเคยพูดถึงเลยไม่ใช่หรือไง.. แล้วฉันควรจะทำยังไงดีในตอนนี้.. ฉันกัดริมฝีปากเบาๆ

“อ่า ขอโทษข้าออกนอกเรื่องอีกแล้ว.. แต่ก็แบบนั้นนั่นแหละทำให้ข้าต้องจากไปแล้ว.. และข้ายังมีเรื่องอยากจะบอกขอโทษเจ้าเหมือนกัน..”

“ในวันนั้นในห้องน้ำตอนนั้น.. ข้าน่ะขอโทษจริงๆ ที่ไปตีความว่าเจ้าน่ะเหมือนกับข้า.. ที่ไปพูดอะไรต่อมิอะไรใส่เจ้าทั้งๆ ที่ไม่ได้เข้าใจเจ้าเลยสักนิด ข้ามันดีแต่พูดจริง… เพราะงั้นข้าขอโทษเจ้าจริงๆ”

ไม่ใช่.. คนที่ต้องขอโทษน่ะมันควรจะเป็น…

“ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่อยากยกโทษให้ข้า.. แต่ข้าน่ะคิดว่าเจ้าเป็นเพื่อนข้าจริงๆ .. เจ้าน่ะเป็นเพื่อนคนที่สองในชีวิตของข้า.. ข้าคิดแบบนั้นจริงๆ มีแค่เรื่องที่อยากให้เจ้าเข้าใจว่า.. ข้ากับอันน่าน่ะ.. ไม่เคยคิดร้ายต่อเจ้าเลยจริงๆ”

ฉันกัดฟัน.. ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่ฉันควรพูดกับชาร์ล็อต ไม่ใช่สิ่งที่ชาร์ล็อตจะต้องพูดกับฉัน..

ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน เป็นเพราะฉันอ่อนแอ เจ้าอารมณ์ พาลใส่เธอ เธอจะมาขอโทษทำไม.. มือทั้งสองข้างของฉันสั่น

“แล้วก็……”

ประโยคถัดมาเหมือนเธอจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้เขียนต่อ เธอเขียนข้อความใหม่ใส่

“นี่คือสิ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าทั้งหมด.. ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างที่ผ่านมา.. แล้วก็ลาก่อนนะ.. เลทิเซีย.. ไม่ว่าจะหลังจากนี้ไปอีกนานแค่ไหน.. เจ้าก็จะเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ของข้า.. และบางทีพวกเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ”

จาก.. ชารล็อต

จดหมายเขียนไว้แค่นี้.. ไม่รู้ว่าทำให้หัวใจของฉันถึงกระสับกระส่ายกระวนกระวายใจได้ขนาดนี้..

ในตอนนี้ .. ฉัน….ควรทำยังไง..

………

[เผื่อคนงงว่าแล้วเพื่อนคนแรกนางล่ะ.. ก็นั่นมันเพื่อน แต่นี่มันเฟื่อน— แค่กๆ ก็อีกคนตายแล้วในตอนนี้เลยมีแค่เลทิเซียไง – ผู้เขียน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท