การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 281

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 281 – สองปีกับการแปรเปลี่ยน

หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงโลกก็หวนคืนสู่ความสงบสุขอย่างช้าๆ แต่คนทุกคนบนทวีปต่างรับรู้ว่ากำลังมีหมอกมืดค่อยๆ คืบคลานปกคลุมไปทั่วทวีปช้าๆ …

ใช่.. เหมือนกับพายุที่กำลังจะเข้า การประลองที่ถูกขัดกลางคันนั้นถูกยกเลิกไปเพราะเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ของทวีป

ผู้คนตายไปมากมายนับไม่หมด.. ไม่ใช่แค่ล้านสองล้าน แต่มันมากกว่านั้นเยอะ เพราะเหตุนั้นผู้คนจึงตั้งวันเหล่านั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

นับตั้งแต่สงครามยุติลง แน่นอนว่ามีผู้คนมากมายสืบหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ บ้างก็ว่าผู้กล้าสองคนที่ตายไปวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง

จนท้ายที่สุดเหล่าจอมมารและผู้กล้าได้หยุดเอาไว้สำเร็จ บ้างก็ว่าเกี่ยวข้องกับเด็กผู้หญิงที่ถูกผู้กล้าเลมิสทาเรียพาไปกลางการแข่งขัน

อันที่จริงมีหลายคนที่คิดว่าเกี่ยวข้องกัน ทว่าก้ไม่สามารถสืบเสาะหาเรื่องราวต่างๆ ได้ คนที่ถูกพาไปยังอาณาจักรเวทมนตร์มิราลิส

ล้วนแล้วแต่ปิดปากไม่ยอมกล่าวอะไร อันที่จริงพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากคำบอกเล่าผู้คนบอกว่าจู่ๆ ก็พบเห็นเส้นแสงประหลาด

พุ่งผ่านทุกสรรพสิ่งไม่สนสิ่งกีดขวางเมื่อปะทะกับใครล้วนล้วนแต่ตายลงไปอย่างไร้การขัดขืน

แม้จะไม่มีคนรู้สาเหตุที่แท้จริง.. แต่ก็มีคนจำนวนมากได้เห็นถึงฉากอันโหดร้าย ในตลาดที่ขวักไขว่ไปด้วยผู้คน

จู่ๆ พริบตาเดียวก็กลายเป็นเหมือนสนามรบมีคนมากมายล้มลงไปนอนกองกับพื้น ตายอย่างอนาถไม่รู้ว่าตนสิ้นชีพเพราะอะไร

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในเมืองหลวงแต่เกิดไปทั่วทุกๆ เมือง ไปจนถึงหมู่บ้านเล็กๆ ดังนั้นข่าวลือมากมายถูกกระจายออกไปทั่ว

คำเล่าปากต่อปากที่ไม่ได้มีเป็นลายลักษณ์อักษรที่เล่าสืบต่อกันไป กลายเป็นคำกล่าวที่เกินเลยไปบ้าง.. แต่ท้ายที่สุดหากพูดถึงคนที่ตายไปมากกว่าครึ่ง

คำเล่าขานที่เล่าสู่ปากต่อปากกลายเป็นเรื่องที่ไม่เกินเลยขนาดนั้นในบันดล.. แน่นอนไม่มีใครโยงเรื่องราวได้ถูก

แต่ลำแสงสีขาวนั้นพรากชีวิตผู้คนไปมากมายจนถูกเรียกว่าลำแสงเทพมาร.. อาณาจักรแห่งนั้นกลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม

ไม่ให้เข้าไปใกล้ ในขณะเดียวกันผู้คนที่เคยไปประจันหน้ากับเลทิเซียนั้นล้วนถูกคุมเข้มในสถานที่พิเศษเพื่อไม่ให้มีคำกล่าวอะไรหลุดออกไป

แต่ถึงจะบอกว่าคนที่เคยประจันหน้า แต่คนที่รอดมาได้จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็มีไม่มาก แถมบางคนถึงจะไม่โดนลบหรือถูกฆ่า

แต่พวกที่รอดมาได้มากกว่าเก้าในสิบล้วนมีสติสตังที่ไม่สมประกอบ ราวกับว่าส่วนหนึ่งของสมองถูกลบหรือถูกทำลายไป..

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า.. คนที่รอดมาได้ในสภาพที่สมบูรณ์นั้นมีเพียงไม่กี่สิบคน.. แถมสิบคนเหล่านั้นที่เคยเข้าไปในลูกบาศก์สีดำลึกลับนั้น

พวกเขาราวกับเจอเรื่องอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย.. ใช่ พวกเขาเป็นคนที่สติยังครบและยังจำเรื่องราวในนั้นได้

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า.. เมื่อนึกถึงเด็กคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงผมสีดำตัวเล็กๆ เธอเป็นแค่เด็ก.. แต่พอนึกถึงพวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะปริปาก

นั่นคือความกลัวโดยสัญชาตญาณ.. แม้แต่เวโรเน่ที่สงสัยเกี่ยวกับลูกบาศก์นั่นและออกหน้าไปถาม.. สิ่งที่เธอได้รับตอบกลับมามีเพียงคำว่า

“นรก…ที่แท้จริง”

เธอจินตนาการไม่ออกว่าคนเหล่านั้นเจออะไรมาในที่แห่งนั้น.. และโลกก็เดินต่อไปด้วยสถานการณ์เช่นนี้…

ทางฝั่งศาสนจักรเองหลังจากนั้นก็ถูกสั่งปิดประเทศ คนนอกห้ามเขา ใครเข้าไปฆ่าทิ้งสถานเดียวโดยพวกเขาอ้างว่า..

กำลังดำเนินพิธีคืนชีพแก่พระผู้เป็นเจ้า.. และคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า ในขณะที่จักรวรรดิมังกรเองก็ถูกสถาปนาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

โดยที่ไม่มีใครสสามารถหยุดพวกเขาได้ อันที่จริงส่วนหนึ่งเป็นเพราะสนธิสัญญา.. หากพวกเขาไม่ทำอะไรที่ฝืนต่อสัญญาคนก็จะไม่หยุดพวกเขา

แต่เหตุผลหลักๆ .. คือพวกเขานั้นร่วมมือกับเหล่าโจรสลัด เหล่าโจรภูเขา โจรป่า.. ทำให้เริ่มสะสมกองกำลังเดิมขึ้นมาได้อย่างช้าๆ ..

แน่นอนว่าหากอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนสะสมกองกำลังแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้กล้าหรือจอมมาร..แม้แต่เผ่ากึ่งมนุษย์จึงอยู่เฉยไม่ได้..

แต่พวกเขาก็มีคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา.. เป็นเด็กผู้หญิงลึกลับที่มีพลังของเลมิสทาเรียกับไบรอัส.. แถมหากเทียบจำนวนพลังแล้ว..

เด็กผู้หญิงคนดังกล่าวไม่โดนพลังของสนธิสัญญาในอดีตผนึกด้วย.. หมายความว่าเธอมีพลังเทียบเท่าสองผู้กล้าในพลังที่ไม่โดนผนึก

เรื่องนี้แม้แต่เวโรเน่ยังขมวดคิ้ว แน่นอนข่าวพวกนี้ถูกเล่ากันแค่ในวงใน มีเพียงคนมีอำนาจเท่านั้นที่รู้

ทางด้านเลทิเซียเองหลังจากที่เกิดเหตุการณ์มากมาย ไม่ว่าจเป็นการายของเซเรส การตายของโคลเอ้ หรือแม้แต่การตายของสเตฟานี่ล้วนไม่ได้กลายเป็นข่าวใหญ่..

เพราะเหตุการณ์แสงเทพมารมรณะนั้น ได้พรากชีวิตคนเด็กในโรงเรียนลิเบอร์ไปหลายสิบคนเช่นกัน ดังนั้นผู้คนเลยคิดว่าพวกเธอคงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นโดยบังเอิญ

ถึงจะไม่ได้กลายเป็นข่าวใหญ่แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ทำให้โรงเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร.. เพราะนักเรียนทุกคนถูกเรียกมาให้ไว้อาลัยแด่ผู้สูญเสีย

คนที่รู้สึกผิดที่สุดในโลกไม่ใช่ใครนอกจากเลทิเซีย.. แต่น่าเสียดายที่น้ำตาเธอไม่ได้ไหลออกมา ในวันไว้อาลัยมันเหมือนเป็นวันที่มีคนเอาค้อนมาตอกใส่อกเธอ

ย้ำเตือนเธออีกครั้งว่าคนเหล่านี้ตายเพราะเธอ.. นับแต่นั้นมาเลทิเซียผู้เป็นเหมือนคนที่เข้าหาได้ยากมีบรรยากาศสูงส่งก็เปลี่ยนไป..

เธอให้คำแนะนำคนอื่นอยู่เสมอ.. ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีคนมากมายคาดเดาเกี่ยวกับมัน

และแน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับตอนที่เธอถูกลักพาตัวไปโดยเลมิสทาเรีย แต่ทุกคนไม่ได้กล่าวถาม แต่ทุกคนได้ยินแว่วๆ ว่า

เพื่อนของเธอนั้นตายไปถึงสามคนในเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าเลทิเซียเธอจะเสียใจขนาดไหน.. ทำให้ทุกคนต่างพากันสงสารเธอและให้กำลังใจเธออยู่เงียบๆ

อย่างไรก็ตามภายใต้การเปลี่ยนแปลงของเลทิเซียนี้ กลุ่มแฟนคลับของเธอก้ขยายกว้างขึ้นเช่นกัน..

เพราะการเปลี่ยนแปลงของเลทิเซียที่อ่อนโยนขึ้น เป็นมิตรต่อทุกคน บางครั้งก็จัดงานเลี้ยงน้ำชาแชร์ความรู้ขึ้น..

ทำให้เธอได้รับความนิยมเป็นพลุแตก กลุ่มแฟนคลับของเลทิเซียนั้นมีมากกว่าครึ่งโรงเรียนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

แต่แน่นอนว่าไม่มีใครเข้ามาทำให้เธอลำบากใจเลยแม้แต่น้อย.. อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์เหล่านี้..

โรงเรียนลิเบอร์ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น พื้นฐานของการเรียนการรู้ก็เพิ่มขึ้นจากคำแนะนำของเลทิเซีย

นักเรียนทั้งชั้นปีที่สูงกว่าและต่ำกว่าล้วนแล้วแต่แบ่งปันความรู้ .. ในทางตรงกันข้ามกลุ่มแฟนคลับเลทิเซียก็แชร์ความรู้เกี่ยวกับเลทิเซีย

กลายเป็นว่าทั้งโรงเรียนคนมากกว่าเก้าในสิบส่วนรู้จักกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตอนนี้โรงเรียนลิเบอร์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ด้วยตัวตนเพียงหนึ่งเดียวที่ชื่อว่าเลทิเซีย.ปีแรกได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยประการเช่นนี้

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้นถูกทำลายลงในปีต่อมาเพราะมีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้สืบทอดผู้กล้าคนใหม่บ้างล่ะ

จอมมารคนต่อไปบ้างล่ะ ทำให้มีความยิ่งยโสในใจหาเรื่องไปทั่วจนทำให้โรงเรียนมีปัญหากับโรงเรียนอื่น

อย่างไรก็ตามปัญหาทุกอย่างถูกคลีคลายด้วยตัวตนที่เรียกว่าเลทิเซีย.. อันที่จริงมีมากมายที่พยายามเข้าใกล้เลทิเซียสำหรับพวกเด็กใหม่..

แต่เพราะเลทิเซียไม่ได้แสดงด้านลบออกมาเพราะเธอต้องการที่จะยิ้มแย้มอยู่เสมอ.. จนเผลอล่วงเกินเลทิเซียไป..

และคนที่จัดการเด็กพวกนั้นหาใช่เลทิเซีย แต่เป็นชาร์ล็อต จะไม่พูดถึงเธอก็ไม่ได้ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น

เธอแทบตัวติดเลทิเซียอยู่ตลอดเวลา และนิสัยเธอก้ต่างจากเดิมมากใครที่มาตอแยเลทิเซียก็ล้วนถูกเธอซัดปากแตกกลับไปหมด

ความก้าวร้าวที่แสดงออกมาทำให้เพื่อนๆ ที่รู้จักกับเธออ้าปากค้างด้วยความงุนงง อย่างไรก็ตามด้วยความหึงหวงที่ชัดเจนนี้ทำให้คนต่างพากันเดาว่า

บางทีทั้งสองคนอาจจะเป็นคู่รักเพศเดียวกัน? ไอ้เรื่องแบบนี้มีให้เห็นในนิยายสมัยใหม่บ่อยๆ

ดังนั้นผู้คนที่ชื่นชอบสายนี้ต่างพากันจิ้นไปต่างๆ นานา .. แน่นอนว่าเลวี่ไม่ยอมน้อยหน้าเธอชอบมาขัดขาอยู่ตลอด..

ทสึรุเองก็หงุดหงิดที่ตัวเองไม่ได้อยู่ด้วยทำให้เธอไม่ยอมแพ้ต่อทั้งสองคน.. กลายเป็นว่าพวกเธอเป้นเพื่อนสนิทเลทิเซียไม่กี่คนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามสำหรับเลทิเซียก็มีคนรายล้อมอยู่เสมอเช่นเดิม..

เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปแล้วถึงสองปี…

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน