บทที่ 296 – ความว่างเปล่า
“เธอ….”
แต่ก่อนที่ทันจะได้พูดอะไร.. เงาปริศนาก็ปรากฏขึ้นด้านหลังซิลเวียโดยยังไม่ทันได้ตอบสนองคมดาบลึกลับก็เสียบแทงใส่หน้าอกซิลเวีย..
ก่อนที่จะทะลุหลังมาเสียบหน้าอกเลทิเซีย.. ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเพราะการโจมตีที่รุนแรงและการซุ่มโจมตีที่ไม่คาดฝัน
“อั้ก…”
ทุกอย่างล้วนพร่ามัวทันทีเมื่อเลทิเซียโดนดาบนนี้แทง ทั้งๆ ที่ควรจะไม่เป็นไร.. ดวงตาเลทิเซียพร่ามัวมองไปข้างหน้า..
ใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเป็นคนที่แทงเธอก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ .. แสงพรางพราวที่สาดส่องอาบไล้สายตาจางหายไป.. เผยให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนตรงหน้าเลทิเซียกับซิลเวีย
เธอไม่ใช่ทั้งเมย์อาและเฟรย์ย่า.. เธออายุยี่สิบกว่าปีก้มหน้าแทงไม่ได้มองแม้แต่เลทิเซียอย่างไรก็ตามดวงตาของเธอดูตายด้านที่คอมีปลอกคอเหล็กขึ้นสนิมรัดอยู่..
แต่ไม่ว่าจะอายุเยอะแบบไหน สวมชุดกระเซอะกระเซิงยังไง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ..
แต่จะไม่ว่าอย่างไหน..ทันทีที่สายตาเลทิเซียมองเห็นหัวใจของเธอก็ราวกับหยุดเต้น.. ปากอ้าออกพร้อมกับส่งเสียง อา.. ออกมาได้เพียงเท่านั้น..
ก่อนที่ปากที่เปล่งเสียงไม่เป็นคำนั้นจะเปล่งคำคำหนึ่งออกมา..
“ละ.. ลู…เซีย..”
ปากที่สั่นเครือกล่าวคำอันยากจะเชื่อออกมา.. ใช่เธอคือลูเซีย อย่างน้อยเลทิเซียก็รู้สึกแบบนั้น
แม้ในตอนนี้จะไม่เหลือเคร้าโครงเดิมที่เจอกันครั้งล่าสุดก่อนที่เลทิเซียจะเสียชีวิตในโลกเดิม
แม้เธออายุมากกว่าลูเซียน้องสาวในโลกเดิม.. แต่ไม่ว่าจะอายุมากขึ้นหรือไม่ได้เจอกันนานขนาดไหน ยังไงไม่มีทางที่พี่จะลืมน้องแท้ๆ ตัวเองไปได้หรอก…
ทันทีที่คำอันสับสนและเต็มไปด้วยความคะนึงหา ห่วงใยและ.. เต็มไปด้วยความรักของครอบครัวดังขึ้น.. ลูเซียที่พึ่งแทงเลทิเซียไปก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น..
มองไปที่เลทิเซีย.. ทันทีที่ดวงตาของทั้งสองสบประสานกันนั้นน้ำตาเลทิเซียก็แทบจะไหลออกจากเบ้า..
ใบหน้าอันอ่อนแอนี้ คือใบหน้าของน้องสาวเธอ.. น้องสาวที่เธอห่วงใยเพียงคนเดียวในโลกเดิม
สักวันเธอเคยคิดว่าจะเอื้อมมือกลับไปโลกเดิมเพื่อพาลูเซียมารู้จักกับทุกคนที่เป็นคนสำคัญของเธอให้ได้..
เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่เหมือนลูเซียที่อยู่ในโรงเรียน.. เธออายุเยอะกว่ามาก แถมบนตัวยังมีแผลมากมายทั้งรอยแผลเป็น
รอยโดนฟัน รอยโดนแทงหรือแม้แต่รอยที่ถูกแมลงกัดจนเป็นแผลเล็กๆ ทำให้สภาพของเธอราวกับศพเดินได้
ปลอกคอที่สวมอยู่คือปลอกคอที่จะสวมใส่ให้กับทาสชนชั้นต่ำที่สุด ซึ่งถูกเลิกใช้งานไปนานแล้วเพราะผิดต่อกฎแห่งเทพ
เพราะมันจะทำให้จิตใจของทาสไม่ขัดขืนต่อคำสั่ง ไม่สิ ปิดกั้นความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างไม่ต่างจากเครื่องมือสังหาร..
แถมพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างลูเซียที่อยู่ตรงหน้ายังเทียบเคียงกับผู้กล้าถึงสองคน.. ใช่เธอคือคนที่ไปทำลายอาณาจักรมิราลิส
คนที่เป็นเหมือนจักรกลสังหารของจักรวรรดิมังกร.. ราวกับว่าข่าวทุกอย่างเกี่ยวกับเธอคนนี้ลอยวกกลับมา..
หัวใจของเลทิเซียเกิดความปวดร้าว.. เธอต้องเจออะไรมาบ้าง…
“พี่..มองฉันบ้างนะ..”
“พี่วันนี้ฉันสอบได้คะแนนเต็มเลยนะ”
“พี่วันนี้มีคนมาสารภาพรักกับฉันล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะฉันปฏิเสธไปแล้ว”
“พี่ ฉันอยากจะไปเที่ยวกับพี่นะ..”
“พี่คะ..”
“พี่..”
ภาพความทรงจำอันอบอุ่นหลังจากสูญเสียพี่สาวไป คนที่มอบความสุขแต่งแต้มชีวิตให้เลทิเซียก็คือเด็กคนนี้
เด็กที่ยังเรียนไม่จบแต่ก็ทำเป็นรู้ไปซะทุกเรื่อง เข้าห้องเลทิเซียโดยไม่รับอนุญาตเสมอ แต่พอเลทิเซียจะเข้าห้องเธอ เธอก็ห้ามเข้ามาก
ทุกๆ อย่าง..
“ทำไม..กันล่ะ…”
“ลูเซีย..ทำไม.. เธอถึง… มาอยู่ที่นี่ได้..”
มืออันไร้เรี่ยวแรงของเลทิเซียยกขึ้นไปแตะใบหน้าเล็กๆ ของลูเซีย.. ไม่สิ ตอนนี้ลูเซียเธอตัวใหญ่กว่าเลทิเซียซะอีก…
ทันทีที่มือเลทิเซียสัมผัสใบหน้าเธอ.. เธอก็สั่นสะท้าน.. ดวงตาที่มืดมัวและไม่มีสติก็ฟื้นกลับมามีแสงเพียงชั่วคราว..
“พี่..เรน….เหรอ”
“อ่า.. อ่า.. ไม่.. ไม่ ไม่ ไม่”
ไม่รู้ว่าเลทิเซียคาดหวังอะไรอยู่ ไม่สิ เธอคาดหวังว่าคนตรงหน้านี้จะไม่ใช่ลูเซีย คาดหวังว่าจะเป็นแบบลูเซียในโรงเรียน
ใช่เป็นแค่คนหน้าเหมือน มันควรจะเป็นแบบนั้น แต่เมื่อคำพูดที่เย็นชาราวกับความรู้สึกทุกอย่างพังทลายแถมเป็นภาษาในโลกเดิมที่ไม่ได้ยินได้ฟังมานาน..
“มันต้องไม่ใช่แบบนี้.. ไม่.. ไม่ ไม่”
แต่ทว่าเมื่อคำพูดอันห่างเหนิดังขึ้น ฉับพลันนั้นเองคมดาบที่แทงเลทิเซียและซิลเวียจนทะลุก็แตกสลายกลายเป็นกลุ่มของบางอย่างที่มืดมัว.
ไม่สิมันไม่ใม่ทั้งความมืดมัวหรือดำทมิฬ มันไม่จำแนกอยู่ในเฉดสีไหนหรือความเป็นจริงใดๆ ไม่อาจนิยามสิ่งนี้ออกมาได้..
แต่ทันทีที่มันปรากฏขึ้นร่างกายเลทิเซียและซิลเวียก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยของมิอาจระบุรูปร่างหรือสีได้ชัดเจน..
ไม่อาจจะขัดขืน ไม่อาจเคลื่อนไหว.. ทุกอย่างในสายตาเลทิเซียยังมีเพียงแค่ลูเซียที่พึมพำชื่อในอดีตของตนเองออกมา..
ใช่.. เธอคือลูเซียน้องสาวตัวเองเสียงจริง
“ไม่..”
เธอพยายามจะคว้ามือออกไปเพื่อจับลูเซียแต่ทว่า.. ของบางอย่างนั้นก็กลืนกินร่างเธอและสลายหายไปในอากาศ..
แขนที่ยื่นออกมาพยายามจับลูเซียแต่ก็ถูกกลืนกินไปก่อนเหลือเพียงแค่แขนที่ร่วงดิ่งลงพื้น..พร้อมกับเลือดไหลออกมา..
ลูเซียมองทุกอย่างสลายหายไปตรงหน้าเธอไม่ได้กล่าวอะไรเพียงแค่ยืนมองแขนเลทิเซียเงียบๆ
เธอยกฝ่ามือขึ้นเลือดของซิลเวียที่หยดลงบนพื้นหรือผิวหนังที่อยู่ในโลกแห่งนี้ถูกดูดเข้ามาก่อนที่เธอจะทำลายมันทิ้งทั้งหมด..
เหมือนกับเกลียดแค้นกันมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น..
เมย์อากับเฟรย์ย่าที่มองอยู่ด้านบนก็กลับคืนสู่ร่างพอลูเซียจากไปพวกเธอก็มองเห็นสิ่งที่ลูเซียพึ่งทำไป..
“ขนาดเลือดสักหยดก็ยังไม่เหลือนี่โกรธแค้นไรกันมาหรือไง?”
เฟรย์ย่ากระซิบถามเมย์อา แต่เมย์อาก็เหมือนรู้อะไรสักอย่างอยู่แล้วเธอไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เพราะแบบนี้ ข้าถึงได้บอกให้เจ้าอ่านหนังสือเยอะๆ ไงตามคนอื่นไม่ทันเอาซะเลยเนี่ย”
“เอ๊ะ เห็นแบบนี้ข้าก็ฉลาดพอตัวนะ”
เฟรย์ย่ากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ เมย์อาก็กล่าวถาม
“ยังไง?”
“อย่างเมื่อกี้ ข้ารู้นะว่ามันคืออะไร.. มันไม่ใช่ทั้งการลบตัวตนหรือลบออกจากเวลาแต่เป็นการทำให้กลายเป็นความว่างเปล่าใช่ไหมล่ะ”
“….เรื่องแบบนั้นใครเขาก็รู้กันหมดแหละ ต่อให้เด็กนั่นมีพลังฟื้นฟูที่น่ากลัวยังไงก็ฟื้นฟูกลับมาไม่ได้หรอกในเมื่อเป็นความว่างเปล่ามาตั้งแต่แรก”
“แต่ว่านะท่านพี่ ข้าไม่ชอบเลยแบบนี้ รู้สึกเหมือนเราแพ้ยังไงไม่รู้เลย”
เฟรย์ย่าขมวดคิ้วไม่พอใจ เมย์อาก็ตอบ
“ก็แพ้น่ะสิ หมดรูปเลยล่ะ”
ใช่ หากท่านั้นถูกปล่อยใส่พวกเธอมันคงตายแบบฟื้นฟูไม่ได้เลยล่ะ.. แต่ยังไงก็ตามเมื่ออีกฝ่ายกลายเป็นความว่างเปล่าไปแล้ว..
ยังไงก็คงไม่รอด ต่อให้ไม่ตายซึ่งไม่มีโอกาสเป็นไปได้.. ในความทรงำของเมย์อามีเพียงคนเดียวที่ไม่เป็นอะไรเมื่อกลายเป็นความว่างเปล่าคือผู้หญิงคนนั้น..
ที่ชื่อโรส..
แต่ว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วอย่าคิดว่าคนทุกคนจะเป็นเหมือนตัวประหลาดนั่นสิ.. แต่อย่างน้อยระวังไว้ก็ดีกว่าอยู่ดี เมย์อาหัวเราะเบาๆ
“แพ้ก็แพ้”
เฟรย์ย่าบ่นก่อนที่จะตั้งคำถาม
“แต่ว่าท่านพี่ยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี้ข้าเลยนะ”
เมย์อาที่ได้ยินแบบนั้นสายตาของเธอมองไปทางลูเซียที่จากไปก่อนจะหันไปทางอาณาจักรมิราลิส..และพูดขึ้นเบาๆ
“ทุกอย่างที่เห็นใช่ว่าจะเป็นดั่งที่เห็นเสมอไป”
“หึ ดูเหมือนจะหลอกใช้พวกเราซะสนุกเลยนะ”
เมย์อาพึมพำพร้อมกับหัวเราะเบาๆ