บทที่ 311 – การตอบโต้
“หมายความว่าไง?”
“ฉันเองก็ไม่รู้…”
ซิลเวียกล่าวถามด้วยความสงสัย แต่เลทิเซียก็ไม่รู้คำตอบได้แต่ส่ายหน้า อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะพยายามใช้ความคิดขนาดไหนก็ไม่อาจคิดหาคำตอบได้
บางทีมันอาจจะเป็นปาฏิหาริย์ ถึงแม้ความว่างเปล่าไม่ควรจะมีมันก็เถอะนะ ขณะที่ทั้งคู่มองหน้ากัน
ในขณะที่ทั้งคู่จ้องมองกันซิลเวียกำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้นเอง เสียงตะโกนคำรามแห่งความโกรธก็ดังขึ้นไปทั่วสารทิศ
ทุกอย่างต่างพากันสั่นไหวราวกับความว่างเปล่ากำลังโกรธแค้น.. หากเข้าใจไม่ผิดเหมือนอีกฝ่ายจะหลอมรวมกับความว่างเปล่าแห่งนี้
แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันอาจจะเป็นเพราะเจ้าปีศาจตนนี้มีอะไรที่ต่างจากปกติ มันเลยกลืนกินความว่างเปล่า
ไม่สิ จะเรียกว่ากลืนกินคงไม่ใช่ คงเรียกว่าหลอมรวมเสียมากกว่าละมั้ง พูดอีกอย่างก็คือ… ความว่างเปล่าแห่งนี้เปรียบเสมือน.. สวนหลังบ้านของมัน
เสียงคำรามที่ไม่เป็นคำนั้นดังออกมาจากทั่วสารทิศ ไม่มีทิศทางที่แน่นอน มันเต็มไปด้วยความโกรธ
นั่นแน่นอนอยู่แล้ว สำหรับมันที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะเป็นปีศาจจากไหนก็ไม่อาจจะชนะมันได้
สิ่งเดียวที่อยู่เหนือมันคงมีแต่มังกรระดับสูงๆ ซึ่งแน่นอนว่าพวกมังกรนั้นหากจะสู้กับมันยังต้องคิดแล้วคิดอีก
มันมองทุกคนอยู่ต่ำกว่าตัวเองเสมอ แต่ทว่าครั้งหนึ่งมันได้แพ้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า.. มันคือความอัปยศของมัน
เป็นแค่สิ่งมีชีวิตเดินสองขาไร้กำลัง ผนึกมันไว้ได้ ทำให้ความหยิ่งยโสโอหังมันนั้นกรีดร้อง
และพอมันถูกปลดผนึกออกมา.. มันกลับพบเจอศัตรูอีกคนที่เก่งกว่า ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเกือบถูกฆ่า ไม่สิ
ถูกฆ่าไปแล้ว แต่โชคยังดีที่มันได้หลอมรวมเข้ากับความว่างเปล่า ดังนั้นความเกลียดชังที่มันมีต่อเลทิเซียจึงมีมาก
ความเจ็บปวด ความอัปยศ ความบ้าคลั่ง… มันต้องไม่เป็นแบบนี้ มันต้องอยู่บนจุดสูงสุด.. ต้องจุดสูงสุดเท่านั้น เพื่อเหตุนั้นมันจึงยอมทำทุกอย่าง
ดังนั้น..ต้องล้างแค้นให้ได้ แต่มีหรือที่มันจะฆ่าแล้วก็จบแค่นั้น ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่.. มันต้องอยู่จุดสูงสุดเหนือผู้อื่น.. ทุกคนต้องเงยหน้ามองมัน.. ดังนั้นมันไม่ยอมให้ตายง่ายๆ แน่นอน
ตลอดชีวิตที่นับแต่ได้พลังอันแข็งแกร่งมา.. มันไร้เทียมทานมาตลอด กลับมาแพ้ให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ที่มันเกลียดนักเกลียดหนาเสียนี่.. พอเลทิเซียปรากฏขึ้นต่อหน้ามัน มันจึงดีใจ ไม่คิดวา.. ฟ้าจะประทานศัตรูเก่ามาให้ขนาดนี้
ตัวมันที่แทบจะแข็งแกร่งและไร้เทียมทานที่สุด บางทีแม้แต่ไอ้ผู้หญิงที่ผนึกมันไว้คงจะขอร้องอ้อนวอนให้มันไว้ชีวิตก็ได้
แค่คิดแค่นั้นความโกรธของมันราวกับได้บรรเทาจึงหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจแล้ว
แน่นอนว่าพอมาพบกับศัตรูเก่า สำหรับมันพวกคนเหล่านี้ไม่ต่างจากมดปลวก แม้แต่ซิลเวียที่เป็นเทพมันก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวแม้แต่น้อย
เพราะมันในตอนนี้คือผู้ควบคุมความว่างเปล่า.. ที่จะนำพาต้นกำเนิดไปถึงจุดสิ้นสุด!!
แต่ทว่ามดปลวกที่มันดูถูกนักดูถูกหนากลับทำลายดวงตาของมันเสียยับเยิน ความเกลียดเก่าทับถมกับความเกลียดใหม่
อันที่จริงแม้แต่ตัวมันก็ยังไม่รู้ ความเกลียดชังที่มีต่อเลทิเซียและคนที่ผนึกมันนั้น ไม่ได้มาจากตัวมันเพียงอย่างเดียว
แต่มาจากความว่างเปล่านี้ต่างหาก.. จะพูดให้ถูกคือความว่างเปล่านี้เปรียบเสมือนด้านตรงกันข้ามของต้นกำเนิด
ต้นกำเนิดจะรังสรรค์ทุกอย่างไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด.. ไม่มีจุดจบจะขยายไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด.. นั่นคือความจริง..
แต่ว่าความว่างเปล่านี้นั้นถือกำเนิดมาเพื่อกลืนกินต้นกำเนิด.. ไม่สิ ถ้าจะให้พูดคือมันเพียงแค่ต้องการทำให้ ‘ความมีอยู่’ ทั้งหมดหายไป
แทนที่ด้วย ‘ความว่างเปล่า’ ของมัน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งเลทิเซียและผู้หญิงที่เคยผนึกมันล้วนเป็นการดำรงอยู่รูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันขัดต่อความว่างเปล่า
ดังนั้นเจ้าปีศาจหมึกจึงต้องการทำลายเลทิเซีย หรือทำลายทุกอ่างที่มีการดำรงอยู่หรือเป็นความเป็นจริงรูปแบบหนึ่งนั่นแหละ
อีกทั้งตัวมันเองยังเกลียดชังเลทิเซียเข้าไส้ ด้วยปณิธานของความว่างเปล่าและตัวมันเองจึงทำให้ตัวตนของมันบิดเบี้ยวไปมากพอสมควร
ทำให้มันในตอนนี้เต็มไปด้วยความต้องการทำลายล้าง แต่ก็เกลียดชัง แปรเปลี่ยนบิดเบี้ยว.. ตัวมันในตอนนี้.. ต้องการจะทำให้ศัตรูทุกคน.. เจ็บปวดทรมานดั่งที่มันได้เจอ
และตอนนี้ซิลเวีย ก็เป็นหนึ่งในนั้น!!
เสียงคำรามแห่งความบ้าคลั่งสั่นสะเทือนไปทั่วความว่างเปล่าราวกับทุกอย่างต้องการจะทำลายทั้งสอง ต้องการจะลบทั้งสองออกไปจากทุกสรรพสิ่ง
“ข้าจะ.. ไม่ให้พวกเจ้า.. ตายดี!”
สิ้นเสียงคำรามนั้นเงามหึมาพลันปรากฏขึ้นห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกล ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่จนมองไม่ออก
อาจจะเป็นเพราะที่แห่งนี้นิยามคำว่าขนาดไม่ได้ทำให้ไม่อาจจำแนกได้ว่ามันขนาดเท่าไหร่ แต่มันขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตาไม่ผิดแน่
มันไม่ได้ปรากฏตัวในรูปลักษณ์ของหญิงสาวอีกต่อไป แต่เป็นหมึกยักษ์ที่มีขนาดตัวใหญ่โตจนแทบจะมองไม่เห็นขนาดที่แท้จริงได้
ไม่เพียงแค่นั้นผิวหนังมันยังมีสีดำสนิทราวกับกลืนกินเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า แต่ก็สามารถจำแนกได้ว่ามันคือรูปร่างยังไง
และที่น่าตกใจคือบนหน้าของหมึกยักษ์กลับมีรอยแผลไหม้อยู่ แน่นอนว่าไฟแห่งการทำลายล้างไม่อาจจะแผดเผาความว่างเปล่าได้
แต่มันไม่ใช่ความว่างเปล่า เพียงแค่กลายเป็นส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าเท่านั้น กล่าวคือแม้ความว่างเปล่าจะสามารถนำพาต้นกำเนิดไปสู่จุดจบได้
แต่มันไม่อาจทำ ถึงแม้มันจะเก่งกว่าทุกคนในต้นกำเนิดแต่ไม่ได้แปลว่ามันเหนือกว่าต้นกำเนิดแต่อย่างใด!
ดังนั้นเพลิงแผดเผาที่เผาได้แม้กระทั่งความเป้นจริงนั้นจึงสามารถแผดเผาตัวของมันได้และไม่อาจจะรักษาให้หายได้!!
ดังนั้นความโกรธทั้งหมดของมันในตอนนี้จึงพุ่งดิ่งลงไปที่ซิลเวีย แต่ยังไม่ทันให้เลทิเซียกับซิลเวียได้ตอบสนอง
โลกแห่งความว่างเปล่าพลันแปรเปลี่ยนตามประสงค์ของหมึกยักษ์ แม้จะยังเป็นความว่างเปล่าแต่ราวกับความว่างเปล่าแห่งนี้มรทั้งพื้นและท้องฟ้า
และร่างกายของซิลเวียและเลทิเซียสามารถกลับมาขยับได้ตามปกติ ราวกับมันสร้างทางหนีให้พวกเธอ
“นี่มัน….เกิดอะไรขึ้น”
“ซิลเวีย ระวัง!!”
ซิลเวียที่มัวแต่ตกใจกับสถานกกการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ก้ได้ยินเสียงร้อนรนของเลทิเซียดังขึ้นมา
ก่อนที่ข้างหูเธอจะรู้สึกราวกับโดนแรงกระแทกบางอย่างใส่กลางหลังอย่างรุนแรง ‘ปัง’ เสียงกระแทกที่รุนแรงดีดเอาร่างของเธอปลิวราวกับเศษใบไม้
ร่างของซิลเวียที่กระเด็นเพราะแรงกระแทก ถูกเลทิเซียที่วิ่งมารับเอาไว้แต่เพราะแรงที่มากกเกินไปจนไถลไปกับพื้นทำให้เท้าของเลทิเซียเกิดรอยแผลถลอกปอกเปิดจนน่ากลัว
ยังไม่ทันให้ทั้งสองได้ตั้งตัว เงาร่างที่ใหญ่โตไม่เห็นจุดสิ้นสุดนั้นสลายหายไปจากที่เดิม และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่เงาร่างของสตรีนางหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังพวกเลทิเซีย
เลทิเซียตอบสนองด้วยความเร็วสูง หันไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับกำหมัดต่อยสวนออกไปอย่างรุนแรง
น่าเสียดายที่ร่างกายเลทิเซียไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นหากไม่มีเวทมนตร์ เพราะในจังหวะที่ต่อยออกไป เงาร่างนั้นก็ต่อยสวนกลับมาเช่นกัน
หมัดของเลทิเซียกับหมัดของศัตรูปะทะกันอย่างจัง แต่ก็ตามมาด้วยฉากที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่เพราะจังหวะเดียวกัน
มือขวาเลทิเซียก็แตกฉีกเป็นแผลยาวราวกับต่อยเข้ากับก้อนหินก้อนใหญ่ที่พุ่งมาเลยก็ว่าได้ ตามมาด้วยเสียง ‘กรอบ’ มือขวาของเลทิเซียแตกหักอย่างน่ากลัว
แต่มีหรือเลทิเซียจะไม่รู้ขีดจำกัดของตนเอง เพราะในจังหวะต่อมามือซ้ายของเลทิเซียนั้นตวัดไปเบื้องหน้าราวกับจะใช้เล็บตัวเองซ้ำใส่ดวงตาอีกฝ่าย
แต่ทว่ามันเองก็ไม่โง่เช่นกัน มันดูถูกเลทิเซียผ่านสายตาก่อนที่จะโยกหัวหลบ ส่งผลให้มือซ้ายเลทิเซียนั้นคว้าพลาดไม่โดนใบหน้ามัน
ถึงมันจะเคยต่อสู้กับเลทิเซียมาก่อน และรู้ว่านังเด็กนี้มีไม้ตายซ่อนไว้ขนาดไหน ถึงสำหรับมันในตอนนี้พวกไพ่ตายอะไรนั่นจะไม่ต่างอะไรจากละครปาหี่เพราะความต่างของพลังก็ตาม
แต่ทว่ายังมีสิ่งที่มันคาดไม่ถึงคือ.. พริบตาที่เลทิเซียคว้าพลาดมือซ้ายไม่ได้หยุดลงเพราะมันยื่นไปจับแขนขวาที่แตกหักของตัวเอง
ก่อนที่เลทิเซียจะหักแขนตัวเองอย่างโหดร้าย.. ไม่มีอาวุธ ไม่มีศาสตราหรือแม้แต่พลัง.. ของแข็งเพียงอย่างเดียวในร่างกายคือฟันและ…กระดูก!
ในชั่วพริบตาที่เธอหักแขนตัวเองกระดูกที่ถูกหักก็เผยออกมาจากแขนขวาที่แตกหักเธอใช้แขนขวาแทงเข้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย
มันเบิกตากว้างเล็กน้อย แต่ในพริบตาต่อมามันก็หัวเราะ
“มีปัญญาดิ้นรนได้แค่นี้สินะ”
แต่เลทิเซียก็จ้องอีกฝ่ายด้วยสายตามืดมัวและเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและดุร้าย..
“ดูเหมือนว่าแก.. จะยังมีร่างกายอยู่สินะ”
ทันทีที่เลทิเซียกล่าวแบบนั้น หมึกยักษ์ในรูปร่างสตรีก็สีหน้าแปรเปลี่ยน ยังไม่ทันได้กล่าวคำอะไรร่างกายของมันก็มีเลือดไหลออกจจากรูขุมขนทุกจุดบนร่างกาย
เลือดสีแดงฉานอาบไปทั่วร่างกายของมันในทันที