การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 321

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 321 – แฝดแห่งคำทำนาย

หลังจากที่มันบอกว่าสร้างสำเร็จแล้ว ก็ไม่มีบันทึกหน้าต่อไปอยู่เลย.. เลทิเซียไม่รู้ว่าหลังจากที่มันทุ่มทุกอย่างสุดตัวลงไปกับการสร้างอาวุธชิ้นนี้แล้ว

มันจะรู้สึกผิด รู้สึกสำนึกเสียใจบ้างหรือเปล่า.. การตายของภรรยา.. การสูญเสียลูกสาว..และการทอดทิ้งลูกสาว

อารมณ์อันบ้าคลั่งของมันอาจจะดับหายไปเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดหรืออาจจะทุกข์ทรมานจนไม่อาจมีลมหายใจอยู่ต่อ..

เรื่องนี้เลทิเซียไม่ทราบได้.. อย่างไรก็ตามเลทิเซียพอจะเดาบางอย่างได้แล้ว.. บางทีหลังจากที่มันสร้างดาบเล่มนั้นขึ้นมาจนสำเร็จ..

ก็เกิดการโจมตีของปีศาจอสูร… หากให้เลทิเซียเดาคงเป็นเพราะดาบที่พึ่งสร้างขึ้นมานั่นแหละ.. เพราะว่าเลทิเซียก็จับดาบเล่มนั้นอยู่

เธอรู้ว่าความมืดมัวอันบริสุทธิ์ของดาบนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด มีอำนาจที่อยู่เหนือกว่าอาร์ติแฟ็คเสียอีก

ซึ่งจากคำอธิบายของมัน บางทีความแข็งแกร่งทั้งหมดทั้งมวลอาจจะมาจาก ‘จิตมืด’ ที่ว่านั่นก็ได้

และมันอาจจะดึงดูดความชั่วร้ายทั้งปวงมาจนนำพาจุดจบมาสู่เมืองแห่งนี้.. และผู้ที่เหลือรอดอย่างนิลเลยตกเป็นผู้กระทำผิด…

“แล้วไวท์…”

เลทิเซียคิดว่าไวท์อาจจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอก็รีบส่ายหน้าอย่างไรซะไวท์ก็มีกลิ่นอายเป็นสีดำมากกว่าสีขาว

ดังนั้นเลทิเซียคิดว่าไม่น่าจะใช่ไวท์ละมั้ง…. แต่ยังมีหลายสิ่งที่เลทิเซียไม่รู้เกี่ยวกับไวท์ ทำให้เธอได้แต่ตั้งข้อสงสัย..

เลทิเซียกวาดสายตาไปรอบด้าน ในห้องนี้ไม่ได้ศาสตราอะไรติดอยู่ตามผนัง เพราะในห้องนี้เต็มไปด้วยหนังสือหลายเล่มวางเรียงกันบนชั้นหนังสือล้อมห้อง

บางทีนี่คงเป็นห้องสำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ เลทิเซียครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ซิลเวีย.. เธอไปตรวจสอบภายในบ้านหลังนี้ให้หน่อยนะ.. สิ่งมีชีวิตคงไม่มีแล้วล่ะ แต่ว่ามันอาจจะมีเบาะแสอะไรสักอย่างเกี่ยวกับโลกแห่งนี้เพิ่มก็ได้”

“แล้วเจ้าล่ะ?”

“ฉันจะอ่านหนังสือพวกนี้น่ะ.. อย่างน้อยฉันก็คิดว่าฉันรู้จักโลกที่เกิดจากต้นกำเนิดนี้ได้ดีระดับหนึ่งน่ะนะ”

“อืม.. นั่นสินะ ยังไงเจ้าก็เคยไปที่ชิ้นส่วนเวหาแล้วนี่นะ”

ซิลเวียคิดอยู่พักหนึ่งก็รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นแหละดีแล้ว เพราะเลทิเซียอ่านแล้วอาจจะได้ข้อมูลอะไรก็ได้ เพราะเลทิเซียรู้จักโลกนี้ในระดับหนึ่ง

แถมเธอยังมองสิ่งที่ตัวซิลเวียมองไม่เห็นด้วย ซิลเวียจึงไม่คัดค้านอะไร เธอจึงหันหลังและเดินออกจากห้องไป แต่ก่อนที่จะไปเลทิเซียก็พูดขึ้น

“มีอะไรเกิดขึ้นเรียกหาฉันเลยนะ”

“ไม่เอาน่า เห็นข้าเป็นเด็กหรือไง เห็นแบบนี้ข้าก็เป็นอาจารย์เจ้านะ”

“เธอในตอนนี้ไม่เหลือพลังแล้ว ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา”

“เ ข้าใจแล้วน่า เข้าใจแล้ว”

ซิลเวียตอบด้วยความท้อแท้ แต่ก็พยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะจากไป.. เลทิเซียหันหน้ากลับมาพร้อมกับขมวดคิ้ว..

เธอหยิบหนังสือขึ้นมาพร้อมกับเปิดอ่าน ความเร็วการอ่านของเธอนั้นน่าตกใจมาก.. ดวงตาเธอตามัวอักษรอย่างว่องไว..

โลกใบนี้.. มีทวีปทั้งหมดห้าทวีป.. ซึ่งประกอบไปด้วย เอลิฟ, เลดิส, เกเดียส, ริฟโคทและนาเดีย

แต่ละทวีปนั้นถูกแยกออกจากกันด้วยทะเลคราม.. ทะเลครามเป็นทะเลที่แยกทวีปทั้งห้าที่มีขนาดใหญ่มากและแยกออกจากกันชัดเจน

และเมืองใต้น้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้ทวีปนาเดีย.. จริงๆ แล้วเมืองใต้น้ำนี้เป็นหนึ่งในห้าเมืองมหัศจรรย์ของโลก เป็นสถานที่ที่ยากจะพานพบ

ทุกๆ ทวีปล้วนมีอยู่แล้วหนึ่งแห่ง.. บ้างก็เป็นเมืองลอยฟ้า บ้างก็เป็นเมืองใต้ผืนพสุธาหรืออาจจะเป็นเมืองมายา..

แต่ละเมืองล้วนแล้วแต่มีหน้าที่เป็นของตัวเองนั่นคือ.. สรรค์สร้างศาสตราทั้งห้าที่จะนำความสมดุลมาสู่โลก..

และเหมือนว่าทุกเมืองนั้นจะสามารถรังสรรค์ศาสตราวุธจนเสร็จสิ้นหมดแล้วยกเว้นเมืองแห่งนี้..

ที่เหมือนจะมาเสร็จในรุ่นของเจ้าผู้ชายโหดร้ายคนนั้น.. ที่รู้ว่ามีการรังสรรค์เพราะมีการค้นพบศาสตราทั้งสี่แล้วนั่นเอง..

แต่ก็ยังไม่มีใครพบเมืองที่ว่านั้นอยู่ดีนะ.. พออ่านมาถึงจุดนี้เลทิเซียก็ชะงัก..

“หรือว่า..พอสร้างเสร็จเมืองจะล่มสลาย?”

เลทิเซียไม่มั่นใจแต่ก็มีเมืองนี้เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว หากศาสตราวุธถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีนี้ทุกอันน่ะนะ..

และก็อย่างที่คิด.. เวทมนตร์ในโลกนี้แตกต่างออกไป.. เพราะมันไม่ได้ใช้กฎแห่งการแทรกแซงในการใช้เวทมนตร์

เวทมนตร์นั้นเปรียบเสมือนอนุภาคอะไรสักอย่างที่ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถจัดการและควบคุมมันได้ ซึ่งอนุภาคดั่งกล่าวนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกตรรกะบนโลก

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม พออ่านมาถึงขั้นนี้เลทิเซียก็พอจะเข้าใจขึ้นมาว่า.. ทำไมถึงใช้เวทมนตร์ไม่ได้ เพราะพื้นฐานมันต่างกันเกินไป..

ไม่สิ ควรเรียกว่ากฎโลกมันต่างกันเกินไป.. แต่เพราะได้อ่านแบบนี้เลยทำให้เลทิเซียมีความมั่นใจว่าบางทีตนอาจจะใช้เวทมนตร์ได้..

“บางที.. ฉันอาจจะ..”

เธอคิดแบบนั้นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับจินตนาการด้วยเวทมนตร์และรังสรรค์บางอย่างขึ้นมา.. แต่ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“….”

เลทิเซียแปลกใจเล็กน้อย ไม่เพียงเธอไม่สามารถสัมผัสถึงอนุภาคที่เรียกว่าเวทมนตร์ได้ เธอยังไม่รู้สึกว่ามีอนุภาคอะไรแบบนั้นอยุ่ในโลกนี้ด้วยซ้ำ

แต่หนังสือก็ไม่น่าจะโกหกนี่น่า ด้วยความสงสัยเลทิเซียจึงพยายามอีกรอบ.. แต่ไม่ว่าจะพยายามกี่รอบก็ยังล้มเหลวจนทำให้เธอต้องถอดใจ

“บางที.. โลกนี้อาจจะถูกสร้างเลียนแบบเท่านั้น มันไม่เหมือนในชิ้นส่วนเวหานี่นะ”

เลทิเซียคิดแบบนั้นจึงวางหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์.. และหยิบหนังสือเล่มอื่นมา.. ไม่ใช่ทุกเล่มที่จะมีสาระ บางเล่มก็เป็นแค่นิทาน

บางเล่มก็เป็นแค่เรื่องเล่า.. อย่างน้อยก็ทำให้เลทิเซียได้เข้าใจต้นกำเนิดในอดีตได้มากขึ้น..

ซึ่งช่างเรื่องนั้นไปก่อนเพราะตอนนี้ซิลเวียนั้นกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับ… นิล!

จะว่าเกี่ยวข้องก็คงไม่ใช่ซะทีเดียวเพราะมันใกล้เคียงกันเสียมากกว่า.. ว่ากันว่าลูกแฝดนั้นเป็นสิ่งที่มงคล..

แต่นั่นมันในกรณีที่ลูกแฝดที่ว่าเป็นแฝดธรรมดาอยู่.. แต่มีอีกกรณีคือ.. ฝาแฝดแห่งคำทำนาย

‘ฝาแฝดแห่งคำทำนาย’ คือฝาแฝดที่เกิดมาพร้อมกับความรุ่งโรจน์และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ซึ่งจะนำพาความสำเร็จมาสู่ต้นกำเนิดไม่ว่าทางไหนก็ทางหนึ่ง

..แต่ว่าความรุ่งโรจน์นั้นจะนำพามาได้เพียงแฝดสักคนเท่านั้น..และแฝดอีกคนจะเป็นต้นกำเนิดแห่งพิษภัยร้ายแรงที่จะนำมาสู่ต้นกำเนิด เป็นคำสาปร้าย..

แต่ไม่ว่าจะเป็นความรุ่งโรจน์หรือพิษภัย ทั้งสองไม่ใช่สิ่งที่ ‘ถูกกำหนด’ มาตั้งแต่แรก.. แต่สิ่งที่จะกำหนดคือ.. เส้นทางชีวิตของพวกเขาต่างหาก

ซึ่งอันไหนจะเกิดก่อนหรือเกิดหลังล้วนแล้วแต่ไม่สามารถทราบได้

แต่คุณลักษณะเด่นของความรุ่งโรจน์พิษภัยนั้นมักจะสามารถมองพินิจได้ด้วยตาเปล่า.. กล่าวคือหากมีการแบ่งแยกชัดเจนว่า..

นี่ดำและนี่ขาว.. นั่นคงเป็นสิ่งที่โชคชะตากำหนดมาตั้งแต่แรกแล้ว..

“……”

พอเลทิเซียอ่านมาถึงจุดนี้ สิ่งแรกที่เธอคิดขึ้นมาได้คือ ความงมงาย.. ใช่แล้วมันคือความงมงายอย่างแน่นอนไม่ผิดเพี้ยน..

เพราะพวกเขาไม่มีทางรู้อย่างแน่นอนว่าลูกแฝดพวกเขาจะเป็นแฝดแห่งคำทำนายหรือเปล่า.. กลายเป็นว่ามันแค่เรื่องงมงาย..

บางทีเจ้าผู้ชายคนนั้นคงคิดจะใช้ ‘ดำ’ ในตอนแรกเพื่อที่จะสร้างศาสตราวุธ แต่พอเกิดการสูญเสียภรรยา มันอาจจะทำให้เขาคิดว่านั่นคือความโชคร้ายที่เกิดจาก ‘ดำ’

เขาจึงคิดว่าดาบเล่มนี้ต้องนำพาความรุ่งโรจน์มาสู่เขา.. จนท้ายที่สุดจึงเลือกที่จะใช้ ‘ขาว’

ส่วนดำก็ปล่อยทิ้งเพื่อล่อปีศาจเพื่อจะปลุกจิตมืดให้กับ ‘ขาว’

ซึ่งบางทีเขาในตอนนั้นคงไม่มีทางรู้เลยว่า.. ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียของภรรยาหรือแม้แต่การตายของลูกสาวมัน.. จะนำพาทุกอย่างไปถึงจุดสิ้นสุดเช่นนี้

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาจากข้อมูลที่มีของเลทิเซียเอง..

“……..”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน