บทที่ 337 – เจ้ามัน…ขี้ขลาด
นี่เป็นเรื่องราวหลังจากที่เลทิเซียหายสาบสูญไปโดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น?
เลวิเนียตามหาเลทิเซียทั่วทั้งอาณาจักรอาเดฟ ตั้งแต่บนยันล่าง แต่กลับไม่พบเบาะแสใดๆ เลย ราวกับว่าเลทิเซียหายไปเป้นอากาศธาตุอย่างไรอย่างนั้น
เธอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาลูเซียโน่ผู้เป็นบิดา และเขาก็ช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง แต่กลับไม่เจอเบาะแสใดๆ ทั้งสิ้น
หากมีเลเวียอยู่ที่นี่สถานการณ์คงแกต่างเล็กน้อย เพราะเลเวียสามารถขอความช่วยเหลือจากมารดาเธอและให้เธอค้นหาให้
แต่ตั้งแต่วันที่เลเวียกลับไปบนดินแดของเทพธิดา เธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะกลับมา เรื่องนี้ลูเซียโน่เองก็เป็นกังวลเช่นกัน
เพราะในตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรก็จริง.. แต่หากว่าเลเวียห้ามไม่ให้ถูกลงมาแล้วล่ะ..?
เรื่องนี้สร้างความเป็นกังวลให้ทั้งลูเซียโน่และเลวิเนียเช่นกัน.. ในคืนนั้นเองลูเซียโน่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางแสงจันทร์
ดวงตาเขาเหม่อลอยมองออกไปบนท้องฟ้า…
“ท่านพ่อ….”
เลวิเนียเดินมาพร้อมกับเรียกเขาเบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินมาหยุดตรงหน้าลูเซียโน่ พร้อมกับกล่าวถามต่อว่า..
“ท่านพี่..คืออะไร..?”
อันที่จริงเลวิเนียมีเรื่องบางอย่างเดาไว้ในใจแล้วคือ.. เลทิเซียถูกพาขึ้นไปบนแดนเทพธิดาด้วยเหตุผลบางอย่าง
เพราะมันไม่มีอะไรอื่นให้คิดแล้วจริงๆ ถ้าหากเป็นแบบนั้นแล้วทำไมถึงถูกพาตัวไปล่ะ? เลวิเนียเติบโตมาพร้อมกับเลทิเซียอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา
เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเลทิเซียมากกว่าที่เลทิเซียคิดด้วยซ้ำ แต่ก็ตลอดช่วงเวลาที่มีในความทรงจำของเลวิเนีย เลทิเซียไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย..
นั่นหมายความว่ามันเป็นเรื่องก่อนที่เธอจะเกิดด้วยซ้ำ.. แล้วเรื่องก่อนที่เลวิเนียจะเกิด เลทิเซียจะอายุเท่าไหร่กันเชียว?
เธอยังไม่ทันได้พูดได้ด้วยซ้ำมั้ง ดังนั้นคนที่รู้เรื่องต้องเป็นท่านพ่อไม่ก็ท่านแม่เธอแน่ๆ .. ดังนั้นเลวิเนียจึงได้แต่ต้องถามว่า..ทุกอย่างนี่มันหมายความว่ายังไง..
ลูเซียโน่หันลงมามองเลวิเนียแว้บหนึ่ง เขาเหมือนมองทะลุเห็นถึงความคิดของลูกสาวตัวน้อยตัวเอง..
เขาก็ตอบปฏิเสธความคิดนั้นของเลวิเนียทันที
“เมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่เลทิเซียจะหายตัวไปน่ะ.. ดูเหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ จากจักรวรรดิมังกร พวกมันถอยร่นทัพกลับไปจนหมด”
เขากล่าวเพียงแค่นั้น เลวิเนียเองก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน พอลูเซียโน่กล่าวเช่นนั้นเธอก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ทันที
บางทีคนที่จับเลทิเซียไปก็คือจักรวรรดิมังกร เพราะใช้กองกำลังหลักส่วนหนึ่งมาเพื่อจับกุมเลทิเซีย เพราะเลวิเนียรู้ว่าพี่สาวของเธอแข็งแกร่งขนาดไหน
แต่เธอก็ไม่คิดว่าต่อให้พวกนั้นส่งคนมาเยอะชนาดไหนก็ไม่มีทางที่จะจับกุมท่านพี่ของเธอได้แน่นอน อีกทั้งยังไม่พบการเคลื่อนไหวกองทัพขนาดใหญ่อีกด้วย
หมายความใช้แค่คนจำนวนน้อยเท่านั้น.. ซึ่งเลวิเนียไม่ค่อยอยากจะเชื่อเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่..
อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าเลทิเซียหายตัวไปก็ไม่เปลี่ยนไปเลย เลวิเนียจึงหันหลังและกำลังจะจากไปนั้น ลูเซียโน่ก็พูดขึ้น
“เจ้าจะไปไหน?”
“แน่อยู่แล้วสิ ไปหาท่านพี่ไง”
“ไปก็ไม่เจอหรอก.. และต่อให้เจอเจ้าจะทำอะไรได้?”
“แล้วจะให้ข้านอนอยู่เฉยๆ รอวันที่ท่านพี่กลับมาหาเองรึไง?”
“……..”
ลูเซียโน่ไม่ได้ตอบคำของเลวิเนีย เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่เลวิเนีย ในตอนนั้นเองพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตของผู้กล้าก็พุ่งพรวดออกจากปลายนิ้ว
พลังสีขาวบริสุทธิ์นี้ถักทอขึ้นจากดวงวิญญาณของลูเซียโน่พุ่งเข้ามารัดแขนเลวิเนียเอาไว้
แน่นอนว่านี่คือพลังอันเป็นรากฐานพลังของผู้กล้าของลูเซียโน่.. ดวงตาของเลวิเนียเปล่งแสงว้าบ..
พรของภูตแห่งการหลบหลีก จะทำให้ตัวตนของเะอหลบหลีการโจมตีทุกประเภทโดยไม่สนตรรกะใดๆ ทั้งสิ้น
พรของภูตแห่งการป้องกัน จะทำให้เธอป้องกันการโจมตีทั้งกายภาพและเวทมนตร์ทุกอย่าง
พรของภูตแห่งการกักขัง ทำให้ตัวตนของเธอหลุดพ้นจากพันธนาการทุกอย่าง พรของ….. พรของ..และพรของ…
พรที่เลวิเนียทำงานขึ้นมามันมีมากมายหลายร้อยหลายพันพร เลวิเนียคือผู้ที่ได้รับความรักจากภูต.. พลังที่เธอหยิบยืมมาจากภูตจะไม่แข็งแกร่งเท่าที่เลทิเซียได้รับจากอามาเระ
แต่เลทิเซียมีแค่อามาเระ.. ทว่าเลวิเนียกลับมีภูตทุกตนบนโลกใบนี้.. ผู้เป็นที่รักของเหล่าภูตพราย
เมื่อเลวิเนียค้นหาตัวเองมากเท่าไหร่ก้ยิ่งทำให้เธอได้เข้าใกล้กฎเกณฑ์บางอย่างของโลกมากขึ้นเท่านั้น จนเมื่อประมาณปีก่อนเธอได้รับสิ่งที่เรียกว่า
พรแห่งภูต มา.. พรแห่งภูตไม่ใช่เวทมนตร์แฟร์รี่ แต่เป็นพรพิเศษที่มีอยู่เพื่อตัวเลวิเนีย หากมีคนลอบทำลายเลวิเนียเธอก็จะสามารถป้องกันและหลบหลีกมันได้ทุกรูปแบบ
บางที.. แม้แต่ความว่างเปล่าก็ไม่อาจจะลบเลวิเนียออกไปได้ในตอนนี้.. เพราะพรป้องกันของเธอเลยก็ว่าได้
กล่าวคือตราบใดที่ยังมีสิ่งที่เรียกว่าภูตอยู่บนโลก.. เธอจะไม่มีทางดับสลายโดยเด็ดขาด!
แต่ทว่าพลังของลูเซียโน่ก็ยังเป็นถึงพลังของผู้กล้าแถมตัวลูเซียโน่ยังไม่ต้องการให้เลวิเนียไปเจออันตรายเขาจึงต้องมใช้พลังทั้งหมดเพื่อกักตัวเลวิเนียเอาไว้ที่นี่ให้ได้
ทำให้พลังที่ก่อสร้างตัวมาจากเจตจำนงและรากฐานของผู้กล้ารวมถึงดวงวิญญาณ ส่งผลให้พลังขาวนั้นพุ่งไปรัดแขนเลวิเนียทะลุพรทุกอย่าง
ดวงตาเลวิเนียมืดลงทันที..
“ท่านพ่อ.. ท่านคิดจะทำอะไร”
“ข้าไม่ให้เจ้าไปหรอก”
“แล้วท่านพี่ล่ะ.. ท่านพ่อจะทิ้งท่านพี่หรือไงกัน”
“…..”
ลูเซียโน่ไม่ตอบคำถามอีกครั้ง.. อันที่จริงในตอนนี้เขาเองก็กำลังสับสนอยู่เหมือนกัน.. ไม่เพียงแต่ภรรยาอาจจะไม่กลับมา
แต่ลูกสาวยังเป็นตายร้ายดียังไงไม่รู้.. ตอนนี้เขาเหลือแค่เลวิเนีย .. ในฐานะพ่อแล้วเขาไม่ต้องการให้ลูกสาวไปเสี่ยงอันตรายแน่
หากเลวิเนียเป็นอะไรไปอีกคนละก็เขาจะมีหน้าไปเจอเลเวียได้ที่ไหน.. แน่นอนว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเขาไม่ทำอะไรเลย
เขาส่งหน่วยสืบข่าวลับไปตรวจหาข้อมูลทุกระเบียบนิ้วดูหมดแล้ว.. อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่าเลทิเซียไม่ถูกจับกลับไปอย่างแน่นอน..
ซึ่งไม่ได้ถูกจับกลับไปแต่หาตัวไม่เจอ.. เรื่องแค่นี้แม้แต่คนโง่ยังดูออก… โอกาสที่เลทิเซียยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มีน้อยกว่ารอดนั่นเอง.. แถมตอนนี้ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้ออะไรสักอย่างที่ทำให้คนตายกลับมามีชีวิต หากถูกกัดก็จะกลายเป็นพวกมันทันทีอีก
ซึ่งบางทีเขาคงสอบตกในฐานะคนเป็นพ่อ.. แต่ในฐานะผู้ปกครองเขายังคงมองแง่ได้แง่ได้เสียก่อน.. เพราะหากเขาก่อสงครามขึ้นตอนนี้ละก็จะเข้าทางจักรวรรดิมังกรเลย
หากเขาชนะก็ว่าไปอย่าง.. แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาก็หมายความว่า..ผู้กล้าพ่ายแพ้ต่อจักรวรรดิเผด็จการ.. เท่ากับว่าไปทำให้มันเชือดไก่ให้ลิงดู
และหากต้องไปสู้เพื่อตามหาคนที่มีโอกาสตายมากกว่ารอดแล้วละก็.. มีแต่จะสูญเสียอย่างเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า..
เขารู้ว่าเป็นฝีมือของจักรวรรดิมังกรแน่ๆ .. เรื่องการล้างแค้นให้เลทิเซียเขาทำแน่.. แต่เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน..
อีกอย่าง..การก่อสงครามขึ้นมา.. แม้แต่เขายังไม่มีประสบการณ์ขนาดนั้น เพราะในยุคที่ไร้ซึ่งสงครามเช่นนี้ล้วนแล้วขาดคนมีประสบการณ์
สิ่งที่เขาจะทำคือ..สร้างพันธมิตรขึ้นมาเพื่อไปล้างแค้นให้เลทิเซีย.. แน่นอนว่าหากเขาบอกเลวิเนียว่าพี่สาวเธอมีโอกาสตายมากกว่ารอดละก็..
ลูเซียโน่เขารู้จักเลวิเนียดี.. บางทีเธอคงสติแตกบุกเข้าไปหาจักรวรรดิมังกรแบบไม่คิดชีวิตเป็นแน่แท้..
เขาจึงไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้ นอกจากกำลังกักตัวเลวิเนียไว้ที่นี่.. แต่พอเลวิเนียเห็นท่าทางเหมือนขี้ขลาดตาขาวของผู้เป็นบิดา..
มันทำให้เธอโกรธขึ้นมา.. เธอก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับใช้มือซ้ายจับคอเสื้อของลูเซียโน่ขึ้นมาพร้อมกับกำหมัดต่อยไปที่หน้าของเข้าอย่างรุนแรง
จนเก้าอี้ที่นั่งอยู่ล้มและร่างของลูเซียโน่ถูกต่อยจนร่วงไปด้านหลัง..
ดวงจาของเลวิเนียจ้องไปที่ลูเซียโน่..
สำหรับเธอแล้ว.. เธอเห็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองถูกลักพาตัวไป..
เลวิเนียไม่ปฏิเสธว่าทางเลือกนี้มันอาจจะดีกว่า ไอ้การไม่ทำอะไรสักอย่างแบบนี้เนี่ย.. แต่มนุษย์เราไม่ได้มีแค่เหตุผลเสียหน่อย..
ยังมีความรู้สึก..บางทีการปล่อยตัวตามรู้สึกมันก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร.. แต่ชายคนนี้กลับคิดถึงผลได้ผลเสียก่อน… นั่นลูกเชียวนะ..
ลูกสาวเชียวนะ.. เธอมองไปที่ลูเซียโน่ด้วยสายตาเกลียดชังพร้อมกับพูด
“เจ้ามัน..ขี้ขลาด”
ในตอนนั้นเองหน่วยองครักษ์ก็วิ่งกรูกันเข้ามาแต่ถูกลูเซียโน่ยกมือห้ามปรามเอาไว้ พอพวกเขามาเห็นฉากนี้ก็ยืนอึ้งเล็กน้อย
เลวิเนียไม่สนใจใคร เธอเดินจากไปพร้อมกับเส้นแสงบางอย่างที่มัดข้อมือเอาไว้…