การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 338

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 338 – แผนการที่บ่มเพาะมานาน

ดวงตาของเลทิเซียเบิกกว้าง เธอมองลงไปเบื้องล่างเห็นภาพของโรงเรียนที่คุ้นเคยเห็นผู้คนที่คุ้นเคย

แน่นอนว่าที่แห่งนี้คือความว่างเปล่า ไม่เหมือนการสร้างโลกก่อนหน้านี้ เรื่องนี้เลทิเซียมองออกทันที

แต่ว่าไม่ว่าซิลเวียจะเคลื่อนที่ออกไปข้างหน้าขนาดไหน พวกเธอราวกับหยุดอยู่กับที่เพราะว่า.. ไม่ว่าจะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือด้านหลัง

โรงเรียนที่อยู่ด้านล่างก็ยังอยู่จุดเดิม สายตาเลทิเซียกวาดผ่านเห็นทุกชีวิตที่อยู่ด้านล่าง ชาร์ล็อต.. ทสึรุ..และคนอื่นๆ อีกมากมาย

คนที่ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้เลทิเซียได้พบเจอ ได้รู้จักทุกคนล้วนใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้นอย่างปกติสุข…

แต่ในตอนนั้นเองโลกทั้งใบก็แปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง.. เป็นโลกที่ทุกอย่างเบื้องล่างลุกไหม้ไปด้วยเพลิงไฟ เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน

ในเมืองที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงเรียนลิเบอร์พังถล่มลงกลายเป็นซากปรักหักพัง เสียงเด็กร่ำไห้บาดแผลทั่วร่าง

บางคนถูกหินทับอย่าน่าอนาถ.. และยังมีบางคนที่ลุกขึ้นมาเดินกะโพลกกะเพลก… และท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทั้งมวล

มีคนหลายพันหลายร้อยคนเดินกะโพลกกะเพลก.. พวกมันทุกคนล้วนแล้วแต่สวมชุดเกราะสีซีดราวกับเป็นผู้ปกป้องอะไรสักอย่าง

แต่ทุกคนในยามนี้ดวงตาขาวเหลือก.. สีผิวซีดเซียวราวกับซากศพ รอบร่างกายมีคลื่นพลังงานไร้ลักษณ์ระเบิดออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น

ห่างไกลออกไปภายในตึกเรียน ในตอนนี้คนที่อยู่ตรงนี้มีเพียงพวกผู้ใหญ่ระดับคนแก่คนเฒ่านั่งกุมขมับกันอย่างสับสน

พวกเขาตั้งเวทมนตร์ปกป้องโรงเรียนจากสัตว์ประหลาดพวกนั้นทั้งหมด แต่ก็คงต้านทานไว้ได้ไม่นานมาก..

“ดูจากความสามารถแล้ว… บางที… บางที…”

ชายชราคนหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมกับตัวสั่น หวนนึกถึงตำนานเรื่องราวเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้.. ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ และไม่มีใครกล้าไปเพื่อทดสอบเช่นกัน.. เพราะเมื่อพวกเขาไปถึงจะไม่มีใครกลับออกมาว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่า…

เผ่าพันธุ์อันแข็งแกร่งที่สุดในโลก หากไม่นับตัวตนที่หลุดโลกอย่างจอมมารหรือผู้กล้า แม้ไม่อาจสู้ราชันของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ได้..

แต่นอกจากทุกอย่างที่ว่ามาเมื่อสักครู่ เขาคือเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากที่สุด.. เหนือทุกเผ่าพันธุ์ต่ำกว่าเผ่าเทพ..

“พวกมันต้องเป็น.. ‘ผู้พิทักษ์’ อย่างแน่นอน…”

“แต่ตามตำนานแล้ว ผู้พิทักษ์คือเผ่าที่ถือกำเนิดมาเพื่อปกป้องดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่หรือไง.. แล้วทำไมถึงแว้งมาทำร้ายพวกเราล่ะ”

พวกมันถกเถียงกันด้วยความสับสน.. ถ้าจะให้พูดอธิบายทุกอย่างก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน..

ทุกอย่างเป็นแผนการกัดเซาะทวีปของเผ่ามังกร.. เผ่ามังกรพวกมันรับรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่คนอื่นไม่รู้และเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำให้โลกชุลมุนวุ่นวายอยู่แบบนี้ก้เป็นเพราะแผนการอย่างหนึ่งของพวกมัน..

ใช่.. แผนการมันเริ่มขึ้นเมื่อตอนนั้น.. ตอนที่มันส่งบุตรชายตัวเองพร้อมกับลูเซียน้องสาวเลทิเซียในโลกเดิมมาที่โรงเรียนลิเบอร์แห่งนี้เพื่อยืนยันบางอย่าง..

มันไม่ได้มาสมัครเข้าเรียน.. แต่มาเพื่อยืนยันว่าโรงเรียนนี้..มีศาสตราวุธบางอย่างที่ว่ากันว่าในอดีตมหาปราชญ์มันทำข้อตกลงกับใครสักคนเอาไว้

เพราะโรงเรียนถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากสงครามยุติลงไม่กี่ปี แทบจะพร้อมๆ กับอาณาจักรเวทมนตร์มิราลิส

อีกทั้งยังเป็นเหมือนตัวกลางที่แบ่งแยกสามเผ่าพันธุ์ออกจากกันด้วย เป็นเหมือนกรรมการ.. ดังนั้นพวกจักรวรรดิมังกรจึงคาดเดาว่า

ก่อนที่มหาปราชญ์มันจะหายสาบสูญไป มันได้ทำสัญญากับใครบางคนเอาไว้เพื่อทำให้โลกสงบสุขและให้พวกพาลาดินดูแลคนทั้งทวีป..

โดยแลกกับบางสิ่งบางอย่าง.. ซึ่งบางสิ่งบางอย่างทีนี่ราชันมังกรมันไม่รู้ว่าคืออะไร.. แต่มันสืบจนทราบมาว่า..

ทั้งห้าโรงเรียนมีศาสตราบางอย่างถูกปิดผนึกไว้อยู่..ไม่สิ.. มีเพียงแค่สี่เหมือนโรงเรียนที่ห้าจะไม่มีด้วยสาเหตุบางอย่าง

แต่นั่นก็เพียงพอที่จะยืนยันสมมุติฐานของมันแล้วว่านี่คือการทำสัญญากับใครสักคนของมหาปราชญ์ แม้มันไม่รู้ว่าใครที่สามารถทำสัญญาเช่นนั้นได้ในตอนนี้

แต่สัญญาที่ว่า..ของคนที่ไม่มทราบนั้นมันพอจะเดาๆ ได้ว่า.. อาจจะเกี่ยวข้องกับ พาลาดินทั้งห้าคน!

เพราะในอดีตพาลาดินทั้งห้าคนไม่ได้มีตัวตนมาตั้งแต่แรก สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนี้คือ จอมมาร ผู้กล้า แวมไพร์และจักรพรรดิมังกรเช่นมัน

แต่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาทั้งยังเป็นผู้คุมกำให้พวกมันอีกด้วย เรื่องนี้เพียงพอที่จะสร้างความค้างคาและตั้งเป็นข้อสงสัยได้แล้ว

เมื่อยืนยันเช่นนี้ได้จักรพรรดิมังกรก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า… ปราชญ์ในตอนนี้..มันได้ตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แน่นอนที่มันกลัวว่าปราชญ์จะยังไม่ตายก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าสิ่งที่มันกลัวที่สุดในโลกหาใช่จอมมารหรือผู้กล้า

แต่เป็นปราชญ์คนนั้นนั่นแหละ.. คนที่ฆ่าเจ้าราชาแวมไพร์นั้นตายได้และทำให้จักรวรรดิมังกรล่มสลาย..มันจะไม่กลัวได้อย่างไร

และเมื่อยืนยันได้… มันก็จึงเริ่มแผนขึ้น แผนที่จะทวงคืนทวีปแห่งนี้และปกครองด้วยตัวมันเอง

และที่มันพึ่งจะเริ่มสืบเสาะหาเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ก็ล้วนเป็นเพราะว่าแผนการหนึ่งมันได้สำเร็จแล้ว.. หมากที่เป็นตัวแปรสำคัญในการยืนอยู่บนจุดสูงสุด

การอัญเชิญผู้มาจากต่างโลก.. การอัญเชิญผู้มาจากต่างโลกคือการฝืนกฎเวียนว่ายตายเกิดของเทพธิดาดึงคนมาจากโลกอีกใบ

ซึ่งมันบังเอิญไปเจอวิธีการฝืนกฎเวียนว่ายตายเกิดของเทพธิดาเมื่อหลังจบสงครามที่มันหนีหอบเอาชีวิตรอดอย่างทุลักทุเล

ไปจนเจอห้องลับแห่งหนึ่งที่มีเอกสารเกี่ยวกับการฝืนกฎแห่งการเวียนว่ายตายเกิดบนโลกทำให้มันคิดแผนหนึ่งขึ้นมาได้คือการ..

สร้างตัวตนที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของกฎแห่งการเกิดตายบนโลกนี้ ..อัญเชิญผู้ที่มาจากต่างโลก.. สร้างที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎของเทพธิดาออกมา

ใช่.. นั่นคือ ลูเซีย น้องสาวของเลทิเซียในโลกก่อนหน้านี้

และด้วยความที่เธอไม่ได้อยู่กรอบของกฎดังกล่าว.. ทำให้ตัวเธอถูกใส่ปลอกคอที่ควบคุมและเกาะกุมจิตใจของเธอเอาไว้

ถึงจักรพรรดิมังกรจะไม่รู้ว่าถ้าหากคนตรงหน้าไม่อยู่ในกรอบของกฎของโลกนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าปลอกคออาจจะไม่มีผลกับเธอเหมือนกัน

แต่พอเห็นท่าทางซึมถือของอีกฝ่ายจึงทำให้เขามั่นใจว่า.. มันได้ผล.. และแผนการเขาจึงบังเกิดขึ้นโดยการกระตุ้นพลังของสายเลือด

ทำให้ราชันมังกรที่เคยตายไปแล้วแต่เพราะความสามารถของเขาทำให้เขาถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ในฐานะ.. มังกรซอมบี้

บินข้ามฝั่งจากอีกทวีปหนึ่งมาตกไปในเกาะของเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด แน่นอนว่าไอ้พวกตามโลกไม่ทันอย่างพวกผู้พิทักษ์คงไม่รู้เรื่องอะไรว่ามังกรตัวนี้ตายไปแล้วแต่แรกและเกิดใหม่เป็นซอมบี้

พวกมันก็คงสวาปามอย่างเอร็ดอร่อย.. ในขณะที่ตัวมันเองก็ได้หาหมากแห่งผู้กล้ามาใส่ในตัวของ บุคคลที่มาจากต่างโลก

เพราะหากมันเป็นคนที่มาจากต่างโลกแล้วได้รับพลังไปละก็คงไม่ถูกผนึก เพราะกฎของโลกนี้ยังไม่อาจส่งถึงคนมาจากต่างโลก

แล้วกะอีแค่พลังที่ไม่ถึงระดับควบคุมกฎเกณฑ์อย่างผนึกของมหาปราชญ์จะไปมีผลอะไรกับคนที่มาจากต่างโลกนี้ล่ะ..

และก็ดันบังเอิญบังเอิญไปเจอกับสองผู้กล้าตายอย่างดีมันเลยหยิบมาออกมาแบบเนียนๆ .. และในวันเดียวกันมันถึงได้รู้ว่า..

มหาปราชญ์ตายไปแล้วจริงๆ .. เพราะมีจอมมารคนใหม่ที่ไม่ถูกผนึกพลังถือกำเนิดขึ้นมา.. อีกทั้งยังพบหน้ากับคนคนหนึ่ง..ที่อาจจะเป็นผู้ทำสัญญากับมหาปราชญ์..

ใช่คนคนนั้นก็คือคนที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับสัญญาของมหาปราชญ์ เด็กผู้หญิงผมสีทองที่ไม่ใช่ผู้อำนวยการจากโรงเรียนไหนเลย..

เพียงแค่ดูจากรัศมีแล้วก็พอดูออก แต่มีเรื่องที่ทำให้จักรพรรดิมังกรคาใจอยู่อย่างหนึ่งคือ… ทำไมบรรพบุรุษถึงดูกลัวเด็กสาวคนนั้นนัก?

แต่เขาไม่กล้าถามเช่นกัน.. แต่ทว่าหลังจากนั้นผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียนก็หายไป.. และผู้หญิงคนนั้นก็หายไป

ทำให้จักรพรรดิมังกรคาดเดาถึงข้อตกลงของมหาปราชญ์.. และหากทุกอย่างเกี่ยวข้องกันก็หมายความว่า.. สัญญาก็คงสิ้นสุดแล้ว!

ซึ่งก็หมายความว่าทุกอย่างเข้าทางมัน แม้จะมีโอกาสที่อาจจะต้องปะทะกับคนที่แม้แต่บรรพบุรุษยังกลัว.. แต่สายเลือดมังกรในตัวเขายังคงเดือดพล่าน

ความโอหังและอหังการแทรกซึมอยู่ในเลือดเนื้อ หากไม่พบเจอเองก็จะไม่เกรงกลัว.. นั่นและจักรพรรดิมังกร

ซึ่งเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจดำเนินการแผนการของตัวเองทำให้ทุกอย่างที่เสมือนความมืดคืบคลานเข้าสู่ทวีป.. เขาบุกโจมตีอาณาจักรมิราลิส

และก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อกับพวกโจรสลัดเอาไว้แล้วเพื่อขอความร่วมมือ.. ซึ่งสิ่งจักรพรรดิมังกรต้องการจากพวกมันจริงๆ หาใช่พลังพวกมันไม่

เขาแค่ต้องการความรู้เกี่ยวกับท้องทะเล.. เพื่อที่จะได้สร้างเส้นทางขึ้นมาให้ทวีปแห่งนี้เชื่อมต่อกับเกาะของพวกเผ่าผู้พิทักษ์

และเมื่อเป็นเช่นนั้น.. พวกมันที่กินเนื้อราชันมังกรจนติดเชื้อก็ต่างพากันเดินออกมาจากเกาะและ..บุกไปทั่วทุกหนทุกแห่งทั่วทั้งทวีป

และใครก็ตามที่ถูกกัดก็ล้วนแล้วแต่จะ..กลายเป็นซอมบี้ เป็นเหมือนโรคติดต่อที่ไม่สามารถรักษาได้..

เพราะ..มันคือโรคที่จะปลุกคนที่หัวใจไม่เต้น ไม่หายใจ ขึ้นมามีชีวิต…

ทำให้พวกมันแข็งแกร่งราวกับเผ่าปีศาจ.. แต่กลับมีเวทมนตร์แข็งแกร่งราวกับเผ่ามนุษย์.. ตายยากเหมือนกับมีเวทรักษาของเผ่ากึ่งมนุษย์..

อีกทั้งคนที่แพร่ระบาดโรคนี้ยังเป็นเผ่าพิทักษ์ที่แข็งแกร่งกว่าทุกเผ่าพันธุ์บนโลก.. เมื่อดึงศักยภาพตรงนี้ออกมากลายเป็นว่า..

เพียงแค่กำลังของพวกมันก็พังถล่มทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง!

จอมมารก็ช่าง ผู้กล้าก็แล้วแต่.. ทุกอย่างจะต้องราบเป็นหน้ากลอง

และนี่ก็เป็นไปตามที่จักรพรรดิมังกรวางแผนเอาไว้ทุกอย่าง

………….

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท