การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 365

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 365 – เรื่องของครอบครัว

เลทิเซียนึกถึงอาจารย์เวโรเน่อย่างช่วยไม่ได้.. เพราะผู้หญิงคนนั้นเล่นงานเธอไว้เยอะมากพอสมควร ไหนจะเรื่องไล่ออก

ไหนจะเรื่องเรียน.. ผู้หญิงคนนั้นนับว่าเป็นคนที่เจ้าเล่ห์มาก แต่ก็นะเด็กคนนี้ไม่มีส่วนคล้ายเวโรเน่สักนิดเดียว

อย่าว่าแต่หน้าตาเลยแม้แต่นิสัยก็ยังไม่ใกล้กันเลยสักนิด

“อ่ะ นั่นไงถึงแล้วบ้านข้า”

เลทิเซียมองตามนิ้วที่เวโรเน่ชี้หลังจากหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ใช่หมู่บ้านที่ใหญ่มาก

มีบ้านประมาณสามสิบครัวเรือนเท่านั้น.. แต่ก็นับว่าไม่เล็กมากเช่นกัน อีกทั้งหากพิจารณาว่าที่นี่เป็นยุคอดีตสองร้อยกว่าปีก่อนปัจจุบัน

ก็พอจะนับได้ว่าหมู่บ้านนี้ไม่เล็กมากก็ได้ละนะ แต่ในขณะที่เลทิเซียคิดแบบนั้นเวโรเน่ก็พูดขึ้น

“เอ่อ ไม่ใช่ในหมู่บ้านหรอกนะ แต่เป็นตรงนั้นตั้งหาก ทางขอบหมู่บ้านใกล้ๆ กับป่าน่ะ”

“หืม..”

เลทิเซียต้องไปตามนิ้วที่อีกฝ่ายชี้ไป มันมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่จริงๆ บ้านทั้งหลังทำจากใบไม้ที่ตัดมาจากกิ่งและสานใส่กันเป็นเหมือนที่กันแดดกันฝน

“แหะๆ .. พูดไปก็น่าอายอันที่จริงบ้านของข้าพังไปตั้งแต่หน้าฝนครั้งก่อนน่ะ ข้าไม่มีเงินพอจะสร้างบ้านใหม่ ยังดีที่มีเงินเหลือพอซื้อสานใบไม้มาทำได้”

“ไม่เป็นไรหรอก..”

เลทิเซียอึ้งเล็กน้อย..อย่างไรก็ตามเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะจน.. แต่ขนาดที่ซุกหัวนอนยังแทบไม่มี

นี่ไม่ต้องพูดถึงการอยู่การกินเลย แต่เธอยังชวนคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเลทิเซียมาทานข้าวที่บ้านแบบเป็นมิตร

ไม่มีทั้งความเห็นแก่ตัว.. ไม่สิ.. เป็นความใจดีที่ยากจะเห็นด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเมื่อคนนั้นหิวโหยหรือต้องการบางสิ่งบางอย่าง

มันจะทำให้พวกเขานั้นกลายเป็นคนที่โลภมากไปเลยก็ได้ อาจจะเป็นทั้งขโมยหรืออะไรก็ได้เลยนะ

คนคนหนึ่งจะเป็นคนยังไงนั้นไม่ได้เป็นแบบนั้นมาโดยไม่มีเหตุผล แต่จะถูกสภาพแวดล้อมรอบด้านและสภาวะสังคมที่อยู่รอบตัวปั้นสรรค์ขึ้นมา

กล่าวคือแม้จะตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ขนาดไหน เธอก็ยังหัวเราะออกมาพร้อมกับยิ้มอยู่เสมอ..คนแบบนี้แหละที่เลทิเซีย…

“…..”

ทั้งเวโรเน่และเลทิเซียไม่ได้พูดอะไรจนไปถึงบ้าน พอมาถึงก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ภายในบ้านมีเสียงของคนอยู่ในนั้นเลทิเซียสัมผัสได้ทันที

เวโรเน่เอาถังน้ำวางไว้หน้าประตูพร้อมกับเปิดประตูที่ทำจากใบไม้เข้าไปพร้อมกับเลทิเซีย ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะไม้เก่าๆ

บ้านหลังนี้เล็กจริงๆ ครัวเหมือนจะอยู่นอกบ้านแต่ภายในบ้านเหมือนมีแค่ห้องนั่งเล่น ห่างจากที่โต๊ะผู้ชายคนนั้นนั่งไปประมาณสองสามเมตร

มีเตียงที่ทำจากไม้อยู่.. ผู้ชายคนนั้นมีรูปร่างค่อนข้างท้วมและอ้วนพอสมควร ในมือเขาถือขวดที่ทำจากดินเผาอยู่

ซึ่งตรงขวดเขียนคำว่า ‘เหล้าดอง’ เอาไว้..

พอเวโรเน่เห็นแบบนั้นเธอก็รีบเดินเข้าไปดึงเหล้าออกจากมือเขาทันที

“ท่านพ่อ.. ท่านแอบไปซื้อเหล้ามาอีกแล้วงั้นเหรอ ข้าบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่าพวกเราไม่มีเงินขนาดนั้นนะ”

“รู้ไหมว่าเงินแต่ละเหรียญกว่าจะได้มาข้าต้องตักน้ำไปขาย เผาถ่านไปขาย เก็บกิ่งไม้ไปขาย ท่านรู้ไหมว่ามันเหนื่อยขนาดไหน”

“อีกทั้งร่างกายของท่านพ่อ..”

เวโรเน่พูดด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย.. ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พ่อเธอติดเหล้าขนาดนี้.. ตั้งแต่ที่แม่จากไป?

ตั้งแต่ที่เขารู้เรื่องโรคของเขาหรือเปล่า? เธอจำไม่ได้แล้วแต่วันแล้ววันเล่า วันแล้ววันเล่าพอเธอมักจะแอบไปซื้อเหล้าบ้าง.. กินเหล้าบ้าง..

บางทีถึงขั้นไปยืมเหล้าเขามาจนเวโรเน่ต้องไปคอยทำงานให้เขาเป็นวัน จนวันนั้นไม่สามารถไปตักน้ำที่แม่น้ำได้เลยก็มี

แต่ว่าชายคนนั้นก็ยกมือขึ้น เลทิเซียที่สังเกตมาสักพักแล้วก็ด้าวเดินมาทันที

“หุบปาก”

เขาพูดแบบนั้นพร้อมกับฟาดมือใส่ใบหน้าของเวโรเน่ โชคยังดีที่เลทิเซียเดินเข้ามาจับมือของชายคนนั้นไว้ทัน

ดวงตาของเลทิเซียจ้องไปที่ชายอ้วนท้วมคนนั้น.. ภายใต้ดวงตาอันเย็นชาของเลทิเซียมีความโกรธอย่างเห็นได้ชัด

ครอบครัว.. ครอบครัวงั้นเหรอ.. นี่น่ะเหรอพ่อแม่.. เลทิเซียเคยเห็นแล้วว่าพ่อแม่อันแสนใจดีของสเตฟานี่เป็นยังไง

และก็ได้เห็นพ่อแม่อันแสนโหดร้ายของเซเรสด้วยเช่นกัน.. เธอมีความเข้าใจคำว่าพ่อแม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันก็เหมือนกับพี่น้องนั่นแหละ

แต่ว่า.. ไอ้หมอนี่กลับคิดจะทำร้ายลูกสาวตัวเอง..

“นาย..คิดจะ..ทำอะไร”

“ห๋า .. แกเป็นใครวะ นังหนู ไสหัวไปนี่มันเรื่องของครอบครัวข้า”

เขาพูดด้วยความเฉยชาและโกรธเช่นกัน มือของเลทิเซียกำแน่นขึ้นจนชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

แน่นอนว่าแรงของเลทิเซียเพียงพอที่จะขยี้แขนอีกฝ่ายให้แหลกคามือได้ในทันที และต่อให้ออกแรงนิดหน่อยอีกฝ่ายก็ดิ้นทุรนทุรายแบบนี้แล้ว

ซึ่งฟังแค่เสียงก็รู้ได้ชัดเจนแล้วว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน..

“อ้ากกก ปล่อยข้านะ”

เขาพยายามจะสะบัดมือออก แต่น่าเสียดายที่คนตรงหน้าเป็นเลทิเซียที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้วในตอนนี้

แต่พอเห็นบิดาของตัวเองกำลังเจ็บปวด เวโรเน่ก็พยายามดึงมือของเลทิเซียออก

“เลทิเซีย อย่าทำร้ายท่านพ่อข้านะ ข้าขอร้อง”

“อ้ะ..”

เลทิเซียเหมือนจะได้สติกลับมาเธอปล่อยมือทันที พอเป็นเรื่องของครอบครัวทีไรเธอก็ฟิวส์ขาดแทบตลอดเลย

เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ .. พร้อมกับคิดว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ทั้งที่ปกติเธอจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้แท้ๆ ..

เป็นเพราะเวโรเน่ชื่อเหมือนคนรู้จักเธอเหรอ.. ไม่สิ อาจจะเป็นเพราะบทเรียนที่เลทิเซียได้รับมาจากเซเรสและสเตฟานี่มากกว่า.. เธอถอนหายใจออกมาอีกรอบ

พอพ่อของเวโรเน่ถูกปล่อย เขาก็สบถออกมาอย่างรุนแรง

“ชิ”

พูดแล้วก็เดินออกจากบ้านไป แต่เวโรเน่เห็นแบบนั้นก็ตะโกนตาม

“ท่านพ่อจะไปไหนน่ะ มันมืดแล้วนะ ข้างนอกก็อันตรายด้วย ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลยนะ”

เวโรเน่แม้เกือบถูกพ่อตบหน้าเมื่อสักครู่ก็ตาม แต่เธอก็ยังแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ชายอ้วนท้วมคนนั้น

“หุบปาก ข้าจะไปไหนก็เรื่องของข้า”

เขาพูดแบบนั้นก็เดินออกไปทันที เวโรเน่ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับแสดงความเหนื่อยล้า ก่อนจะหันหน้ามาขอโทษเลทิเซีย

“ข้าขอโทษนะที่ให้เจ้ามาเห็นภาพอะไรแบบนี้”

“ไม่หรอก.. เป็นฉันต่างหากที่ต้องขอโทษเธอ.. ขอโทษด้วยนะ”

เลทิเซียตอบกลับพร้อมกับก้มหัวขอโทษอีกฝ่าย เวโรเน่รีบปฏิเสธทันที

“ไม่ๆๆ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายขอโทษ แล้วก้ขอโทษแทนท่านพ่อด้วย”

“….”

เลทิเซียไม่ได้พูดต่อ เพราะขืนพูดไปก็มีแต่ยืดยาวเสียเปล่าๆ .. เลทิเซียหันหลังไปมองทางที่บิดาของเวโรเน่จากไป

“ว่าแต่ปล่อยเขาไปแบบนั้นจะไม่เป็นไรเหรอ..”

“เดี๋ยวท่านพ่อก็กลับมาเองหรอก งั้นเดี๋ยวข้าทำอาหารก่อนนะ”

ว่าแล้วเวโรเน่ก็เอาขวดดินเผาไปเก็บ แต่พอเลทิเซียมองตามขวดนั้นเลทิเซียก็แปลกใจเล็กน้อย

“นั่นมัน..น้ำเปล่านิ..? เอ๊ะ.. แล้วคนคนนั้นเมาได้ยังไง?”

เลทิเซียเอียงคอด้วยความสงสัย มองเวโรเน่ที่เหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่นิด เธอเอาขวดเหล้าไปซ่อนพ่อเอาไว้กลัวว่าเขาจะแอบเอาออกมากิน

เธอหยิบเสื้อตัวเองสมัยเด็กให้เลทิเซียเปลี่ยน ถึงเลทิเซียจะมีชุดให้เปลี่ยนอยู่ในมิติพิเศษที่ตัวเองสร้างขึ้น แต่ชุดที่เธอมีก็มีแต่ชุดที่ดูเป็นคนรวย

ดังนั้นเลทิเซียจึงใส่ชุดที่เวโรเน่ให้มา ถึงจะเป็นแค่ผ้าสีเทาที่เย็บใส่กันเป็นรูปเสื้อเฉยๆ ก็เถอะนะ..

……..

[อยากจะบอกนักอ่านที่ไม่ได้ติดตามแฟนเพจด้วยว่า.. ตัวกระผมนั้นรู้สึกว่ารถไถคันหนึ่งมันน่าหมั่นไส้ ผมเลยขี้รถชนมันจนเหล็กแตกเลย ผมรู้สึกผิดมากเลยพาเหล็กมาโรงพยาบาล ทำให้ผมอาจจะไม่สามารถเขียนนิยายในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ได้ .. สงสารครอบครัวเหล็กเขานะครับ ผมรู้สึกผิดจริงๆ นะ.. แค่กๆ.. ก็คือโดนรถชนครับ สรุปคือกระดูกแตก นั่นแหละความจริง ฮา – ผู้เขียน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท