บทที่ 394 – แผนการยุติสงคราม
เมื่อนานมาแล้วอาจจะเกือบร้อยปีก่อน.. ในอาณาจักรแห่งหนึ่งภายในดินแดนของมนุษย์ได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา
เธอเป็นเด็กที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เป็นขุนนางที่เขี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์ ประวัติศาสตร์ตระกูลพวกเขานั้นดำรงอยู่มานับร้อยปี
แถมยังเป็นเด็กที่นิสัยดี แม้จะเป็นลูกของขุนนางแต่กลับไม่เคยรังเกียจผู้ที่ต่ำกว่าหรือดูถูกเลย
เธอเติบโตมาพร้อมกับพรสวรรค์เรื่องเวทมนตร์ ในตอนที่เธออายุยี่สิบปีอาณาจักรนั้นก็ถูกรุกรานโดยเผ่าปีศาจ
พวกมันฆ่าทุกคนในครอบครัวของเธอไปจนหมด ความโกรธและความบ้าคลั่งของเธอนั้น เธอไล่สังหารกองทัพปีศาจนับหมื่นด้วยตัวคนเดียว
ทุกครั้งที่เธอใช้เวทมนตร์ปีศาจนับร้อยนับพันล้วนดับสลายลงไป ยิ่งเธอฆ่าไปมากเท่าไหร่ ความโกรธของเธอกลับไม่ได้รับการระบาย
ทำไมล่ะ.. ทำไม.. ทำไมพวกปีศาจเองก็ทำหน้าแบบเดียวกับเธอในตอนที่พวก มันฆ่าครอบครัวของเธอ …
จนกระทั่งเธอได้รู้ว่าศักดิ์ศรีของตระกูลเธอ ความยิ่งใหญ่ของครอบครัวเธอ ความรุ่งโรจน์ที่ไม่มีใครเปรียบ
มันถือกำเนิดขึ้นมาจากเผ่าปีศาจ ครอบครัวของเธอเองก็เคยทำแบบเดียวกันนี้กับพวกปีศาจ … ใช่ มันเป็นแบบนี้มาตลอด
วัฏจักรแห่งความทรมานเหล่านี้มันจะไม่มีทางหายไป… หาดยังมีกำแพงกั้นระหว่างทั้งสามเผ่าพันธุ์อยู่..
ดังนั้นเธอจึงอยากที่จะหยุดสงครามครั้งนี้ แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงเธอก็ทำมันไม่ได้ เพราะเธอฆ่าไปแล้ว เธอฆ่าเผ่าอื่นไปแล้วมากมายเหลือจะคณานับ
ดังนั้นเธอจึงวางแผนบางอย่างขึ้นมา.. แผนที่จะหยุดสงคราม… และศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้
เธอทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อที่จะสร้างสันติให้กับโลกใบนี้… เธอต้องสร้างมันขึ้นมาเส้นทางที่จะทำให้โลกกับคืนสู่ความสงบ
ไม่จำเป็นต้องเป็นเธอก็ได้ เธอศึกษาหาผู้กล้าที่มีพลังเพียงพอที่จะช่วยหยุดสงคราม แต่มันก็ไม่เพียงพอ
ไม่ไหว… แต่ว่าภายใต้ความสิ้นหวังเธอกลับมีความหวังใหม่ขึ้นมา เธอเห็นผู้กล้าแห่งเจตจำนง สำหรับเธอแล้วผู้กล้าแห่งเจตจำนงเป็นอะไรที่ลึกลับมาก
เธอจึงเข้าไปตีสนิท สร้างพันธมิตรกับเขา แม้คนอื่นจะบอกว่าเป็นผู้กล้าที่อ่อนแอและไร้พลัง.. แต่สำหรับเธอที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับผู้กล้ามา
มีเพียงผู้กล้าแห่งเจตจำนงเท่านั้นที่ดูเลื่อนลอยและห่างไกลจากตรรกะปกติเกินไป
เธอจึงหาทางศึกษา.. หาทางวิเคราะห์จนกระทั่งได้รู้ว่าหากสืบทอดเจตจำนงต่อไปจนถึงรุ่นที่เก้า.. รุ่นสุดท้าย
ว่ากันว่าเจตจำนงทั้งหมดจะหลอมรวมเป็นหนึ่งและกลายเป็นพลังแห่งเจตจำนงที่ตราบใดที่จิตใจไม่แตกสลาย
พลังของมันจะเพิ่มพูนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นผู้กล้าเพียงคนเดียวจะสามารถปราบจอมมารได้ด้วยตัวคนเดียว!
ผู้กล้าที่แข็งแกร่งที่สุด!และไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีแบบไหนเพราะจากการศึกษาของเธอเหมือนว่าเจตจำนงรุ่นปัจจุบันคือรุ่นแปด
เมื่อสืบทอดถึงรุ่นเก้า พลังที่แท้จริงของมันจะปรากฏ!
นับตั้งแต่นั้นเธอจึงวางแผนทุกอย่างขึ้นมาอย่างเงียบๆ อย่างแรกหาผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาและมีความฉลาดปราดเปรื่อง
สร้าง ‘ไอรีน’ ขึ้นมา ลูกสาวคนแรกของเธอ เธอจะประคบประหงมไปในทางที่เข้มงวดและทำให้เธอเป็นคนที่มีจิตใจดี
รักมนุษย์ อคติต่อปีศาจ… แต่เพราะจิตใจที่ดีของเธอไปพบปะกับปีศาจที่มีชะตากรรมโหดร้าย เธอจะรู้สึกเข้าใจแบบที่ตัวเธอเข้าใจ
เธอจะเข้าใจสาเหตุหลักของการที่ต้องหยุดสงครามในครั้งนี้.. และบุตรสาวคนที่สอง เธอเลือกที่จะหาผู้ชายที่มีความผิดปกติทางร่างกาย
คลอดออกมาและทิ้งเธอซะ จากนั้นผู้กล้าแห่งเจตจำนงจะต้องเก็บไปเลี้ยงตามแผนการของเธอ
ด้วยความที่ร่างกายไม่สมประกอบจะทำให้คนอื่นยากจะเข้าใกล้ เมื่อเธอเติบโตจนอายุครบสิบแปดปีตามแผนที่เธอวางไว้
พลังผู้กล้าจะอยู่ในตัวเธอและผู้กล้าแห่งเจตจำนงจะตาย.. พ่อของตัวเองตายเธอคงเสียใจมาก.. และในตอนนั้นไอรีนจะปรากฏตัวขึ้น
และให้ความช่วยเหลือ.. แน่นอนว่าเรื่องที่ทุกอย่างเป็นแผนการของเธอผู้กล้าแห่งเจตจำนงต้องมองออกและเล่าให้ไอรีนฟัง
และไอรีนจะต้องเล่าให้เวโรเน่ฟัง.. พอเป็นแบบนั้นเวโรเน่จะเกลียดเธอ.. แต่มันดีแล้ว มันดีแล้วเพราะคนที่เธอไว้ใจที่สุดจะกลายเป็นไอรีนยังไงล่ะ
นั่นหมายความว่าเธอจะเชื่อฟังไอรีนที่ในตอนนี้นับเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่….
แต่ที่ผิดแผนเธอคือมีผู้หญิงที่ชื่อเลทิเซียปรากฏตัวขึ้น ทำให้เพื่อนคนแรกและคนสำคัญคนแรกที่แคร์เธอไม่ใช่ไอรีน
แต่กลายเป็นเลทิเซีย.. โชคยังดีที่ไอรีนเป็นคนที่มีมิตรดี ทำให้ไม่นานพวกเธอก็สนิทกันได้ตามแผนของเธอนั่นเอง
ใช่.. ไอรีนจะถูกปลูกฝังเวทมนตร์ ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์เสียยิ่งกว่าเธอตั้งแต่เด็กๆ .. ในขณะที่เวโรเน่ได้ถือครองพลังที่ไร้เทียมทานของผู้กล้า
แถมประวัติเคยร่วมสงครามหรือฆ่าต่างเผ่าพันธุ์ก็ไม่เคยมีมาก่อน จุดด่างพร้อยของพวกเธอก็มีเพียงแค่ตัวเธอที่เคยฆ่าปีศาจไปจำนวนมาก
ส่วนพ่อแท้ๆ ของทั้งสองคนก็ตายไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่ตัวเธอเริ่มตั้งท้องเลยล่ะ เพราะเธอไม่อยากให้ลูกสาวทั้งสองมีจุดมัวหมองใดๆ
อันที่จริงเธออยากจะฆ่าตัวตายเพื่อลบจุดด่างพร้อยของลูกสาวทั้งสองไปด้วย แต่ว่าเธอทำไม่ได้
พวกเผ่ามนุษย์มันน่ารังเกียจขนาดไหนเธอรู้ดี หากเธอตายไปละก็ ความเคารพที่พวกมันมีต่อลูกสาวทั้งสองจะหายไปแน่ๆ
เพราะยังไงซะลูกสาวก็ไม่เคยเข้าร่วมสงครามและสร้างผลงาน กล่าวคือไม่มีอะไรที่น่านับถือขนาดนั้น
ดังนั้นเธอจึงยังตายไม่ได้ เธอต้องเป็นสัญลักษณ์แห่งความน่าเกรงขามต่อไป แต่เธอมั่นใจว่าเพียงแค่นี้อย่างน้อยก็คงสามารถเจรจาได้แล้ว..
แผนการทั้งหมดของเธอไม่ได้ถูกเล่าให้ไอรีนฟัง… เธอเล่าเพียงสิ่งที่ไอรีนจำเป็นต้องทำอย่างแรกคือจอมมารทั้งสิบสองคน
มีหลายคนที่ชื่นชอบการต่อสู้และอีกหลายคนที่เป็นมิตร อย่างแรกพวกเธอต้องไปทำสัญญาสงบศึกกับจอมมารสักคนที่ตกที่นั่งลำบากและคุยรู้เรื่อง
สร้างพันธมิตรขึ้นมาและค่อยๆ เข้าหาคนที่คุยง่ายก่อนเมื่อได้จำนวนหนึ่งแล้วก็ค่อยไปหาจอมมารที่ชอบการต่อสู้
หากปฏิเสธ.. เธอก็แค่ติดต่อหาจอมมารคนอื่นให้เขาช่วยพูดเพราะหากเราแอบทำเงียบๆ หมายความว่าพันธมิตรของเราจะไม่มีใครรู้โดยเด็ดขาด
ก็คือหากไปคุยกับจอมมารคนหนึ่งที่บ้าสงคราม หากมันปฏิเสธก็หมายความว่ามันปฏิเสธเสียงข้างมากของจอมมารที่พวกเธอไปทำสัญญาสงบสุข
แค่นี้ก็อยู่ในความชอบธรรมแล้ว และเพราะพวกมันไม่รู้แผนการพวกมันไม่มีทางเตรียมตัวรวมหัวกับพวกบ้าสงครามด้วยกันเพื่อออกเสียงต่างเพิ่มแน่ๆ
กล่าวคือในระยะเวลาไม่นาน.. แดนปีศาจจะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นพันธมิตรที่ยากจะสั่นคลอน
ส่วนพวกมนุษย์ มารดาของไอรีนจะรับหน้าที่ไปเกลี้ยกล่อมเอง.. ไม่สิ แทนที่จะเรียกว่าเกลี้ยกล่อมต้องเรียกว่าบังคับให้กลัวภายใต้ชื่อของเธอมากกว่า
ส่วนเหล่าผู้กล้านั้นเธอได้เจรจาไว้ตั้งนานแล้ว.. หากทำทุกอย่างเสร็จสุดท้ายจะเหลือแค่กึ่งมนุษย์กับจักรวรรดิมังกร
กึ่งมนุษย์คนที่บ้าคลั่งที่สุดมีแค่แวมไพร์ ส่วนเผ่าอื่นล้วนเป็นเผ่าที่รักสงบ แผนการในการสร้างพันธมิตรนั้นง่ายมาก
คือการสร้างสภาสูงสุดขึ้นมาให้กับเผ่ากึ่งมนุษย์ กึ่งมนุษย์เป็นพวกที่รักสงบพอสมควรหากหยุดยั้งแวมไพร์ได้ทุกอย่างก็ง่ายไปหมด
เพียงแค่ไม่มีใครหยุดมันได้เท่านั้นแหละ ขนาดจอมมารยังแทบควบคุมไม่อยู่ และยิ่งยุคนี้ที่แวมไพร์มีมากมายแบบนี้ หากถูกมันรุมคงไม่มีทางชนะ
และปัญหาสุดท้ายจะเป็นจักรวรรดิมังกร.. มารดาไอรีนบอกให้ดูท่าทีพวกมันเสียก่อน..
นั่นคือแผนการทั้งหมดของไอรีนและสิ่งที่ไอรีนต้องทำ มองดูเหมือนง่าย แต่ทุกอย่างต้องใช้ทั้งพลังและความรอบคอบ
เพราะหากสงครามมันจบง่ายขนาดนั้นคงจบไปนานแล้วล่ะ ยังไงซะนี่ก็เป็นสงครามที่ดำเนินมานานหลายร้อยปี
“นั่นคือแผนของพวกเรา.. และข้าบอกไปทุกอย่างขนาดนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าจะสื่อนะ”
ไอรีนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เธอไม่อ้อมค้อมแล้ว.. มาขนาดนี้ไอรีนก็พอมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรู..
แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมช่วยพวกเธอหรือเปล่า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมากแผนการแล้วในยามนี้เพียงแค่พูดออกไปตรงๆ
และหากมีคนต้องการหยุดสงครามอยู่อีกนอกจากพวกเธอนั่นก็ยิ่งเป็นการดีกับพวกเธอ!
เลทิเซียมองไอรีนด้วยสายตานิ่งๆ .. ก่อนจะลุกขึ้นยื่นมือที่แบออกไปทางอีกฝ่ายพร้อมกับพูด..
“เธอคือ.. คนคนนั้นที่ฉันตามหาจริงๆ นั่นแหละ!”
พอไอรีนได้ยินแบบนั้นดวงตาของเธอก็ลุกวาว.. ยืนขึ้นจับมือกับเลทิเซีย.. หากออกเดินทางพร้อมกับคนที่อยู่ระดับเดียวกับจอมมาร.. หรืออาจจะเป็นแม้แต่จอมมานหนึ่งคนนี้
แผนการทุกอย่างจะต่างออกไป!