บทที่ 407 – เนลหายตัวไป?
ก่อนหน้านี้.. หลังจากที่เลทิเซียจากไปในขณะที่ไอรีนกำลังทดลองบางอย่างอยู่ในที่พักของตัวเอง
จู่ๆ เวโรเน่ก็วิ่งพรวดเข้ามาด้วยความเร็วสูงเธอเรียกไอรีนด้วยน้ำเสียงที่หอบหายใจเหนื่อยๆ
“ท่านพี่แย่แล้ว!เลทิเซียอยู่ไหน?”
“มีอะไรเหรอ เลทิเซียไม่อยู่น่ะ”
“เนลหายตัวไป”
“อะไรนะ?!”
พอได้ยินเวโรเน่ที่พูดแบบนั้นไอรีนก็เบิกตากว้างพร้อมใช้พลังของตัวเองตรวจดูโครงสร้างพื้นที่รอบๆ เพื่อหาร่างของเนลแต่กลับไม่พบอะไรเลย
มันเกิดอะไรขึ้น ความร้อนรนและความสับสนของไอรีนมันพุ่งถึงจุดสูงสุด.. แถมที่อยู่ของเธอตอนนี้คือใกล้ฐานทัพศัตรูมาก
หรือว่า? ไม่สิ จะคิดด้านลบแบบนั้นไว้ก่อนไม่ได้ ไอรีนรีบถามเรื่องที่เนลหายตัวไป เธอหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เวโรเน่ก็อธิบายว่าตั้งแต่เมื่อคืน เพราะตั้งแต่บอกให้เธอพักหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับเธออีกเลย
จนเมื่อสักครู่เวโรเน่ไปตามหากลับไม่พบเจออยู่ที่พัก.. เธอถูกลักพาตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วงั้นเหรอ?
ไม่สิ ตราบใดที่เลทิเซียยังอยู่ไม่น่าจะมีใครแอบเข้ามาลักพาตัวได้.. หรือก็คือเรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เลทิเซียจากไป
เลทิเซียจากไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เมื่อพิจารณาจากจุดนี้สามารถเดาได้ว่า ช่วงระยะเวลาสองชั่วโมงที่ผ่านมาคือช่วงเวลาที่เกิดการลักพาตัวขึ้น
“พวกมันต้องไปไหนได้ยังไม่ไกลแน่ เวโรเน่!เธอออกไปตามหาทางด้านทิศตะวันตก เดี๋ยวข้าจะไปทางทิศตะวันออกเอง!”
“เข้าใจแล้วท่านพี่!”
ทิศตะวันออกคือทางจักรวรรดิมังกร ส่วนทางตะวันตกคือเผ่ากึ่งมนุษย์นั่นเอง ถึงไอรีนจะไม่รู้ว่าที่ซ่อนถูกเปิดเผยได้อย่างไร
แต่ก็คงเป็นเพราะศัตรูมีคนที่ใช้เวทตรวจจับได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั่นไอรีนจะร่ายเวทป้องกันการตรวจจับลงบนตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปทางจักรวรรดิมังกร
สำหรับเนลแล้วไอรีนเธอมองว่าเนลเป็นเหมือนน้องสาวอีกคนของตัวเอง อคติทั้งหมดที่เธอมีต่อเผ่าปีศาจ
ล้วนหายไปจนหมดสิ้นเพราะเนล เนลเองก็มีทั้งเศร้า มีทั้งดีใจ มีทั้งทุกข์และสุข ไม่ต่างจากเธอ.. หากถูกจักรวรรดิมังกรลักพาตัวไปละก็
พิจารณาได้เลยว่าเธอต้องโดนทรมานอย่างแสนสาหัสเพื่อรีดเค้นข้อมูลอย่างแน่นอน.. เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นดวงตาไอรีนก็มืดมัวลง
ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา แปดเดือนที่ผ่านมาเธอเคยฆ่าคนไปไม่ต่ำกว่าหลักร้อยหลักพัน บนเส้นทางแห่งความสงบสุขมักมีการสังเวยที่เลี่ยงไม่ได้
เลทิเซียเป็นคนบอกเองว่า บนโลกนี้แม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะพูดคุยได้รู้เรื่อง แต่ใช่ว่าจะคุยกับพวกมันรู้เรื่องได้
ดังนั้นจึงเกิดการเข่นฆ่า การต่อสู้ที่ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นในเวลาเดียวกัน ไอรีนเธอลืมไปแล้วว่าคนแรกที่เธอฆ่าเป็นมนุษย์หรือปีศาจ
แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะคนที่เธอฆ่ามันเป็นคนที่สมควรตายอย่างแท้จริง ไม่มีใครโทษเธอว่าเธอฆ่าพวกมันทำไม
แต่ก็ไม่มีใครบอกว่ามันถูกต้องเช่นกัน ไอ้ความรู้สึกขัดแย้งกับตัวเองของไอรีนมันกลายเป็นเหมือนความบิดเบี้ยวที่หลอมรวมกัน..
และกลายเป็นจิตสังหาร
ตอนนี้เธอโกรธมาก.. โกรธที่พวกมันแอบลอบลักพาตัวเด็ก แทนที่จะเป็นพวกเธอกลับเลือกที่จะลักพาตัวเด็ก…
………..
ขณะที่ไอรีนมุ่งหน้าไปยังทางจักรวรรดิมังกร เวโรเน่ก็ทุ่งหน้าไปทางเผ่ากึ่งมนุษย์เช่นกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่สงสัยว่าเลทิเซียไปไหน
แต่ตอนนี้เรื่องเนลสำคัญกว่า เพราะเนลเธอไม่ได้มีพลังเพียงพอที่จะปกป้องตัวของเธอเองเหมือนเลทิเซียที่เก่งมากๆ
เธออาศัยจิตสัมผัสของตัวเองในการสัมผัสถึงทุกอย่างรอบตัว ด้วยพลังของเจตจำนงของเธอ โครงสร้างของพื้นที่รอบๆ
กลายเป็นเหมือนภาพวาดในสมองของเธอ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มองเห็น แต่ในตอนนั้นเองพลันมีบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนที่มาทางเธอจากด้านขวามือ
เวโรเน่ไม่เคยประมาท ฉับพลันเธอพลิกตัวหลบการลอบโจมตีพร้อมกับใช้มือจับเอาของที่พุ่งมาซึ่งมันคือเข็มเล่มเล็ก
บางทีคงอาบด้วยยาพิษแน่นอน วิชาแบบนี้.. เผ่ากึ่งมนุษย์อย่างแน่นอน และเวโรเน่ไม่ได้จับลูกดอกเข็มมาเพื่อวิเคราะห์
เพราะทันทีที่เธอจับและรับรู้ว่ามันคืออะไรในเสี้ยววินาที ลูกดอกก็ถูกปาพุ่งกลับไปในทิศทางเดิมพร้อมกับปักเข้าที่คอของคนที่โจมตีมา
เวโรเน่ยังดีกว่าไอรีนหน่อย อาจจะเพราะได้รับอิทธิพลบางส่วนมาจากเลทิเซียแถมยังเคยสูญเสียบิดาไปแล้ว
แม้เขาจะเป็นบิดาบุญธรรม แต่สำหรับเวโรเน่แล้วบนโลกนี้ไม่มีใครเป็นพ่อเธอได้อีกแล้วนอกจากตัวของพ่อคนนั้นของเธอ
ดังนั้นสำหรับเธอหากให้เลือกสูญเสียคนสำคัญ เธอเลือกที่จะฆ่าอีกฝ่ายมากกว่า.. โดยไม่ลังเล
เนลเองก็เหมือนกับเวโรเน่ เพราะเนลสูญเสียครอบครัวไปเพราะสงคราม ส่วนเวโรเน่เองก็สูญเสียครอบครัวไปเพื่อไอ้ผู้หญิงที่ต้องการหยุดสงคราม
ดวงตาของเวโรเน่เผยแววเลือดเย็น เธอหายวับไปจากจุดเดิมก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนต้นไม้ด้านหลังของคนสวมชุดดำคนหนึ่ง
“พวกแกเอาเนลไปไว้ที่ไหน”
เธอพูดแบบนั้นคนสวมชุดคลุมสีดำก็ตอบสนองหันกลับมา แต่ยังช้าไปเวโรเน่ยื่นมือออกไปคว้าจับคอของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับออกแรงบีบและบกขึ้น
ร่างของมันลอยขึ้นเหนือพื้นแท้จะพยายามดิ้นรนไปภายใต้ฝ่ามือของเวโรเน่ แต่ก็เปล่าประโยชน์ไม่มีใครขัดขืนเธอได้
แต่ทว่า.. ในตอนนั้นเองชายคนที่โดนเข็มเลทิเซียปักคอก็โผล่พรวดออกมาจากความว่างเปล่า โจมตีใส่เวโรเน่จากด้านหลัง
“แวมไพร์สินะ..”
เธอย่อตัวลงหลบ จนการโจมตีของศัตรูโดนพวกเดียวกันจนคนที่ถูกเวโรเน่จับคออยู่โดนเข้าไปจังๆ เวโรเน่เบี่ยงตัวและปาร่างของชายคนนั้นใส่อีกคน
“เจตจำนงสุดท้าย”
เธอพึมพำพร้อมกับกำมือเป็นหมัดแน่น บัดนั้นดวงตาของเวโรเน่มีแสงแปลกประหลาดเรือนออกมาก่อนที่เธอจะพูด
“ถ้าไม่คิดจะพูด ก็ตายไปซะ!”
เวโรเน่ไม่มีเวลามาเล่นการรีดไถข้อมูล เพราะอีกฝ่ายคงจะส่งคนมาถ่วงเอาไว้นั่นแหละ.. ดังนั้นเธอจึงต้องกำจัด
แต่วิธีกำจัดแวมไพร์นั้นไม่มี.. นอกจากจะเก่งกว่าอีกฝ่ายในระดับที่เหลือล้นและทำการ.. สลายร่างกายอีกฝ่ายจนย่อยสลายไปไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก
และบัดนี้กำปั้นของเวโรเน่ก็พลันต่อยออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วทะลุกำแพงเสียงไป สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าความเร็วหมัดของเธอนั้นมันเร็วจนไร้ซึ่งเสียง
แต่เพียงพริบตาต่อมาก็บังเกิดคลื่นกระแทกบางอย่างที่ไม่สามารถสังเกตเห็นด้วยตาเปล่า .. แต่…
“ตู้ม!!!!!”
ในเวลาถัดมาป่าไม้ที่อยู่ในระยะหลายสิบไมล์พลันเกิดคลื่นกระแทกจนเห็นทุกอย่างเป็นสีขาวเกิดเป็นควันฝุ่นฟุ้งไปทั่วพื้นที่
เวโรเน่สะบัดข้อมือเล็กน้อย ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศเดิม.. ทิ้งเอาไว้เพียงภาพอันน่ากลัวเบื้องหลังของเธอ..
เพราะด้านหลังของเธอในระยะหลายสิบไมล์ที่เคยเป็นป่าไม้ บัดนี้กลายเป็นพื้นที่โล่งกว้างไปจนหมดสิ้นแล้ว
อย่าว่าแต่ต้นไม้หักเลย.. มันไม่ได้หักด้วยซ้ำหมัดของเวโรเน่ที่โจมตีออกไปมันแยกวัตถุในระดับอะตอม.. ไม่มีใครสามารถต้านทานหรือหยุดยั้งมันได้
แน่นอนว่าสำหรับแวมไพร์ตนนั้นก็แตกสลายหายไปในระดับอะตอมเช่นกัน!สิบไมล์ทุกอย่างล้วนราบเป็นหน้ากลองด้วยหนึ่งหมัดของเวโรเน่
นี่แหละพลังของเจตจำนงสุดท้าย.. เพียงแค่การต่อยหนึ่งครั้งธรรมดาก็ชักนำภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงกลับมา
คนที่ต่อกรกับเวโรเน่ได้คงมีน้อยมาก อันที่จริงเวโรเน่เธอสามารถปะทะกับจอมมารแบบตัวต่อตัวแล้วชนะได้อย่างแน่นอน
“เนล.. ข้าจะไปช่วยเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”