เมื่อเฟยหลงที่ได้ยินเสียงที่เหมือนสายลมที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและไพเราะของเด็กสาวขึ้นมาจึงรู้สึกว่าตนชื่นชอบเสียงนี้มาก
เมื่อตอนเฟยหลงเป็นเซียนเคยเห็นคนที่งดงามเท่ากับเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแต่เธอเป็นคนเเรกที่เฟยหลงรู้สึกสนใจเพราะว่าคนเหล่านนั้นที่ชอบเฟยหลงเพราะต้องการหยิบยืมพลัง
กลับมาที่ด้านเฟยหลงจึงกล่าวทักทายเด็กสาวว่า
” ว่าไงข้าไม่ได้มาทำอะไรเจ้าหรอกข้าแค่เดินตามเสี่ยวไปที่วิ่งเข้ามาในตรอกแห่งนี้ ”
เด็กสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงลูบขนของเสี่ยวไป๋แล้วกล่าวว่า
” เจ้าแมวน้อยตัวนี้ชื่อเสี่ยวไป๋หรอกหรือ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงในใจว่า
‘ เสี่ยวไป๋มันพยัคฆ์ไม่ใช่แมวถึงจะเด็กอยู่ก็ตาม’
และตอบกลับไปว่า
” อืม ”
เด็กสาวนางนั้นได้ถามเฟยหลงต่อว่า
” ท่านรู้ชื่อมันแปลว่าเสี่ยวไป๋เป็นของเจ้าหรือ ”
เฟยหลงจึงตอบเหมือนเดิมว่า
” อืม ”
หลังจากนั้นเฟยหลงได้เดินไปนั่งไม่ไกลแล้วมองเด็กสาวนางนั้นที่กำลังอุ้มเสี่ยวไป๋อยู่
แม้ว่าดวงตาของเด็กสาวจะมองไม่ค่อยจะเห็นและเห็นว่ามีรูปร่างเหมือนมีบางคนนั่งอยู่ไม่ห่างจากตนซึ่งหญิงสาวก็มีสัมผัสที่เฉียบเเหลมและยังแปลกใจที่เฟยหลงมานั่งใกล้นางจึงเอ่ยปากถาม
” ท่านไม่กลัวข้าหรือรังเกียจข้าไหม ”
เฟยหลงจึงถามกลับไปว่า
” แล้วทำไมข้าต้องกลัวเเละรังเกียจเจ้าด้วย ”
เด็กสาวจึงถามต่อว่า
” ใบหน้าของข้ามีรอยแผลเป็นจากกรงเล็บสัตว์อสูรและมันได้ทำร้ายดวงตาข้าทำให้ข้ามองเห็นไม่ชัดเจนเนื้อตังก็สกปรกแล้วทำไมถึงมานั่งใกล้ข้าละ ”
เฟยหลงจึงได้ตอบกลับไปว่า
” ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมข้าแค่อยากมองดูเจ้าก็แค่นั้น ”
เด็กสาวจึงกล่าวว่า
” ท่านเป็นคนที่แปลกมาก ”
เฟยหลงจึงจึงตอบกลับไปว่า
” ข้าก็ดูเป็นคนปกตินะข้าแปลกตรงไหน ”
เด็กสาวจึงกล่าวว่า
” แปลกตรงนิสัยของท่านและยังมีคำถามที่ข้าถามท่านว่าทำไมท่านไม่กลัวข้าอีกแต่คำตอบที่ได้กลับมานั้นทำมห้ข้ารู้สึกประหลาดใจ ”
เฟยหลงจึงกล่าวว่า
” ข้าอยากถามเจ้าว่าทำไมเจ้าถึงมาอยู่ตรงนี้ละเจ้าไม่มีบ้านไม่มีบิดามารดาให้กลับไปหาหรือยังไง ”
เมื่อเด็กสาวนางนั้นได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวออกมาจึงทำให้นางรู้ศึกเศร้าใจขึ้นมาทันทีและตอบเฟยหลงว่า
” ข้าไม่มีบ้านหรือบิดามารดาให้กลับไปหาตั้งเเต่ที่ข้าจำความได้ข้าอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดตอนเด็กแต่ระหว่างที่ข้าเดินเข้าป่าไปก็โดนสัตว์อสูรโจมตีแม้ว่าจะรักษาชีวิตไส้ได้แต่ใบหน้าและดวงตาของข้าได้มีรอยกรงเล็บอยู่จึงทำให้ทุกคนรังเกียจข้า ”
” แต่ก็มีบางครั้งที่เหล่าสัตว์ต่างๆมากมายชอบที่จะเข้ามาหาข้าพวกมันทุกตัวไม่เคยทำร้ายข้าและยังอยู่เป็นเพื่อนข้า ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินเช่นนี้จึงรู้สึกแปลกใจและพยามคิดว่าทำไมเหล่าสัตว์ต่างๆมากมายถึงเข้ามาอยู่ข้างกายของเด็กสาวตรงหน้า
เสี่ยวไป๋ที่กำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดได้ร้องขึ้นมา
” อ๋าว ”
เหมือนมันกำลังหลับสบายเฟยหลงจึงไม่อยากไปขัดมันแต่ก็ต้องทำเพราะเฟยหลงไม่มีเวลาว่างมามานั่งรอเสี่ยวไป๋นอนจึงปลุกมัน
” เสี่ยวไป๋ได้เวลาที่เราจะไปกันแล้วเร็วๆเข้าข้าต้องมีเรื่องหลากหลายอย่างที่ต้องทำ ”
เฟยหลงที่กำลังจะอุ้มเสี่ยวไปขึ้นมาซึ่งมือได้ไปเเตะโดนตัวเด็กสาวนางนั้นเข้าและตอนนั้นเองที่เฟยหลงก็ได้รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างภายในตัวของเด็กสาว
จึงรู้สึกแปลกใจมากและคว้าข้อมือของเด็กสาวขึ้นมาเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้จึงขัดขืนเฟยหลงและกล่าวว่า
” ท่านจะทำอะไรปล่อยข้านะ ”
เฟยหลงไม่มีเวลาอธิบายมากเพราะกำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดเพื้อใช้พลังวิญญาณของตนตรวจสอบและกล่าวขึ้นมาว่า
” เจ้าเงียบก่อนข้าต้องการพิสูจน์บางอย่างที่ข้าคิด ”