เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 30 ฝึกฝนทักษะยุทธ์​

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เมื่อเฟยหลงคิดได้ว่ามีอีกวิธีก็คือการเพิ่มพลังของทักษะยุทธ์​ซึ่งในอดีตที่เคยเป็นเซียนเฟยหลงได้ครอบครอง​ทัษะต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน

ทักษะที่เฟยหลงเคยมีอยู่นั้นมีทักษะที่อ่อนแอและแข็งแกร่งแม้เเต่ทักษะระดับเซียนเฟยหลงก็ได้ครอบครอง​ไว้หลายทักษะ

ดังนั้นเฟยหลงจึงพยามคิดทักษะที่ไม่ได้อยู่ระดับสูงมากเพราะถ้าระดับทักษะสูงเกินไปเฟยหลงก็ไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงของทักษะหรือไม่สามารถใช้ทักษะนั้นได้เมื่อคิดได้ดังนี้เฟยหลงจึงกล่าวพึมพัมกับตัวเอง

” ในอดีตข้ามีทักษะยุทธ์​ที่ข้าใช้เป็นหลักแต่ตอนนี้พลังบ่มเพาะของข้าเป็นเพียงแค่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่ห้าข้าน่าจะลองหาทักษะอื่นในความทรงจำดู​ ”

เฟยหลงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่ตนกำลังค้นห้าความทรงจำเกี่นวกับทักษะยุทธ์​ต่างๆที่มีอยู่แล้วเลือกออกมาฝึกไม่กี่ทักษะคือ​ ทักษะ​ยุทธ์​หมัดทลายศิลา​ ทักษะยุทธ์​ก้าวพริบตา​

ทักษะยุทธ์​แบ่งออกเป็น​เก้าระดับซึ่งระดับของทักษะนั้นยิ่งอยู่ระดับสูงเพียงใดทักษะนั้นก็ยิ่งยากที่จะฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเลือกวิชาที่จะฝึกได้เฟยหลงก็ได้เดินออกไปยังลานบ้านข้างหลังที่เฟยหลงได้เลือกเอาไว้ใช้สำหรับฝึกทักษะยุทธ์​ต่าง

ทักษะเเรกที่เฟยหลงฝึกคือทักษะยุทธ์​ก้าวพริบตา

” ซึ่งทักษะที่เฟยหลงเลือกมานี้เป็นทักษะยุทธ์​ระดับก่อเกิดซึ่งเป็นทักษะยุทธ์​ระดับต่ำสุดของทักษะยุทธ์​ทั้งเก้าระดับเเต่ทักษะยุทธ์​นี้ถึงแม้จะอยู่ในระดับต่ำสุดของเก้าทักษะยุทธ์​แต่ก็เป็นทักษะยุทธ์​ที่จัดอยู่ในระดับดีมากหรือดีที่สุดในขั้นก่อเกิด​แต่ตอนนี้แค่ทักษะยุทธ์​ระดับนี้คงเพียงพอแล้ว ”

” ทักษะยุทธ์​ก้าวพริบตาแบ่งออกได้ทั้งหมดสามขั้นที่หนึ่งสามารถทำให้แค่เพียงก้าวครั้งเดียวก็สามารถไปได้ไกลถึงสามจั้งขั้นที่สองสามารถไปได้ไกลถึงห้าจั้งและก็ขั้นสุดท้ายที่ก้าวเพียวก้าวเดียวก็สามารถไปไกลได้ถึงสิบจั้งเมตร​”

เฟยหลงได้ทำการเริ่มโคจรพลังปราณของตนตามที่ระบุไว้ในคำอธิบายของทักษะและผ่านไปครึ่งก้านธูปตอนนนั้นเองที่เท้าเฟยหลงให้ความรู้สึกเบาและสามารถเคลื่อนไหวได้ดังที่ต้องการ

‘ พรึบ​ ‘

เมื่อเฟยหลงได้ลองก้าวออกไปก็ปรากฏ​ร่างของเฟยหลงก็ได้ห่างออกไปจากตำแหน่งเดิมสามจั้งซึ่งเฟยหลงได้บรรลุขั้นที่หนึ่งของทักษะยุทธ์​ก้าวพริบตาแล้วเมื่อเห็นดังนั้นเฟยหลงจึงไม่พอใจแต่ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า

” เฮ้อ… ข้าใช้เวลาตั้งครึ่งก้านธูปก็ไปได้เพียงแค่สามจั้งความเร็วการฝึกนี่ช่างช้าจริงแต่ก็ต้องฝึกต่อไปเพื่อที่จะนำไปใช้ในการต่อสู้หรือหลบหนีในตอนนี้ก็พอจะใช้ถูไถ​ไปได้”

ถ้าเหล่าผู้เยาว์​ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัฉริยะแห่งเมืองฟ้ากระจ่างได้มาเห็นเวลาที่เฟยหลงใช้ฝึกทักษะก้าวพริบตาแค่ครึ่งก้านธูป​คงอับอายจนแทบจะอยากกระอักเลือดแต่เมื่อเฟยหลงได้ฝึกสำเร็จขั้นที่หนึ่งกลับรู้สึกไม่พอใจอย่างมากเพราะใช้เวลานานเกินไปกว่าที่ตนคิด

พวกเขาคงไม่อยากอยู่เมืองฟ้ากระจ่างร่วมกับสัตว์​ประหลาดหรือปีศาจตนนี้แล้วไม่ว่าพวกเขาจะเทียบด้วยขอบเขตการบ่มเพาะความเร็วการเรียนรู้ทักษะยุทธ์​พวกเขาเหล่านั้นคงอยากจะเอาหัวโหม่งกำแพงตายก็เป็นได้เพราะถ้าให้เทียบกับเฟยหลงแล้วพวกเขาคงไม่นับเป็นอันใด

ด้านเฟยหลงได้เริ่มฝึกต่อไปโดยที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องฝึกทักษะยุทธ์​ก้าวพริบตาจนสำเร็จขั้นที่สามให้ได้เวลาได้ผ่านไป

หนึ่งก้านธูปเฟยหลงใกล้ฝึกสำเร็จของขั้นที่สอง

ครึ่งชั่วยามผ่านไปเฟยหลงได้ฝึกสำเร็จของขั้นที่สอง

หนึ่งชั่วยามผ่านไปเฟยหลงได้ฝึกสำเร็จของขั้นที่สาม

เฟยหลงได้หยุดฝึกและนั่งพัก

” ข้าต้องพยามมากขึ้นไปอีกแค่นี้ยังไม่พอที่ข้าได้หวังเอาไว้​ต่อไปต้องฝึกทักษะยุทธ์​หมัดทลายศิลาต่อ “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท