เฟยหลงที่ได้หมดสติไปเพราะใช้พลังปราณและพล้งวิญญาณไปเกือบหมดค่อยเปิดตาขึ้นมาทีละนิดสิ่งแรกที่เฟยหลงเห็นคือเพดานเมื่อลองขยับมือดูก็พบว่าบนมือของตนนั้นมีมือที่เรียวบางสีขาวบริสุทธิ์ทับอยู่
ด้านข้างมีหญิงสาวนางหนึ่งนอนหลับอยู่ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากซูซ่านบนใบหน้าของนางยังมีน้ำตาอยู่แล้วมีเสียงละเมอจากนางว่า
” ไม่อย่่าทิ้งข้าไว้คนเดียวอีกข้าไม่อยากอยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว….”
เฟยหลงได้ลูบใบหน้าของซูซ่านแล้วกล่าวว่า
” ข้าไม่ทิ้งเจ้า… ไม่มีวัน ”
ซูซานเหมือนได้รับรู้ความรู้สึกที่อบอุ่นจากเฟยหลงจึงหลับต่ออย่างสงบ
เฟยหลงได้ลุกจากเตียงและเดินออกไปจากห้องของซูซ่านเงียบๆโดยไม่ให้เกิดเสียงแม้เเต่นิดเดียววไม่ให้ไปรบกวนนาง
เมื่อเฟยหลงได้เดินออกมาก็ตรวจสอบร่างกายของตน
” พลังปราณฟื้นฟูแล้วแปดส่วนสิบพลังวิญญาณฟื้นฟูแล้วหกส่วนอย่างน้อยก็ยังพอใช้สำหรับปกป้องตัวเองได้ถ้าข้าออกไปข้างนอก ”
เฟยหลงได้เดินไปยังห้องของตนและปิดประตูลงหยอิบเม็ดยากำเนิดใหม่ที่เหลืออยู่เม็ดเดียวออกมาและครุ่นคิด
” เม็ดยากำเนิดใหม่ที่เหลืออยู่เม็ดสุดท้ายจากการปรุงยาข้าควรทำยังไงกับมันดี ”
เฟยหลงคิดไปคิดมาก็เก็บไว้ก่อนบางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต
และนำสมุนไพรที่ได้ซื้อจากศาลาโอสถออกมาเพื่อจะนำมาปรุงเม็ดยาก่อเกิดและกำลังจะลงมือก็ได้หยุดลงและกล่าวว่า
” ข้าจะปรุงยาแต่ขาดหม้อปรุงยาแล้วจะปรุงได้ไงข้าต้องไปซื้อหม้อปรุงยาก่อน ”
เมื่อคิดได้เฟยหลงจึงเดินไปหาซื้ิหม้อปรุงยาซึ่งคุณภาพและความสามรถล้วนต่ำตามที่เฟยหลงได้เปรียบเทียบกันชีวิตที่แล้วตอนเป็นเซียน
” ไม่ว่าจะเป็นการปรุงยาการหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ล้วนตกต่ำยิ่งนัก ”
เฟยหลงที่หาหม้อปรุงยาไม่ได้ก็เริ่มคิดหาวิธีอื่นๆเพื่อที่จะได้รับหม้อปรุงยาที่ดีกว่าแบบทั่วไป
” หรือข้าจะไปขอยืมจากชายชราหนานกงผู้นั้นหรือชายชราดฉิงหรงซึ่งเป็นหัวหน้าศาลาโอสถ ”
ระหว่างเดินไปด้วยและคิดไปด้วยก็ได้เห็นป้ายนึ่งที่สะดุดตาของเฟยหลงเข้าป้ายนั้นได้แผ่กลิ่นอายที่กดดันออกมาเล็กน้อยซึ่งเหล่าผู้ที่มีสัมผัสวิญญาณที่ดีเท่านั้นถึงจะรู้สึกถึงเเรงกดดันที่ปล่อยออกมาเล็กน้อยของป้าย
เมื่อเฟยหลงลองดูซึ่งป้ายนั้นเขียนไว้ว่า
‘ ร้านเสี้ยวจันทรา ‘
เขียนอยู่เฟยหลงคิดว่าร้านนี้น่าสนใจมากและเนื่องจากหาหม้อหลอมยาไม่ได้แล้วเฟยหลงจึงเข้าไปร้าน
ข้างในร้านดูปกติธรรมดาข้างในมีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นโล่ กระบี่ดาบ ง้าว ทวน หอก ด้านหลังเคาเตอร์ได้มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่
เฟยหลงเมื่อเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปและกล่าวว่า
” ท่านมีหม้อปรุงยาขายไหม ”
ชายวัยกลางตนยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม
” ……..”
เฟยหลงเห็นแล้วรู้สึกว่าทำไมยังไม่ตื่นไม่ได้ยินที่ข้าเรียกหรือไง
” นี่ท่านยังมีชีวิตอยู่ไหม ”
แต่คำตอบที่ได้ยังเหมือนเดิม
” ….. ..”
เฟยหลงถามชายวัยกลางคนที่กำลังหลับอยู่บนเก้าอี้ยังไม่ได้รู้สึกตัวว่ามีลูกค้าเข้าร้านมาแล้วเฟยหลงที่เห็นดังนั้นมุมปากเลยกระตุกแล้วคิดว่า
‘ ไอเจ้าคนนี้มันยังไงกันข้าเรียกไปสองรอบแล้วกลับไม่ได้รู้สึกตัวเลยนี่มันตายกันหะ ‘
เฟยหลงที่กำลังปวดหัวจากเจ้าของร้านที่หลับแบบไม่รับรู้สิางอื่นใดนอกจากการนอนหลับเหมือนเดิม
” คิดสิตัวข้ามันต้องทำยังไงให้เจ้าของร้านนี้มันตื่น ”
และแล้วตอนนั้นเองที่เฟยหลงไดเความคิดหนึ่งมาและยิ้มขึ้นมาร่าวกับว่าพบของเล่นน่าสนใจ
” ก็ได้ในเมื่อท่านไม่ตื่นข้าก็มีวิธีของข้าที่จะปลุกท่าน ”
เฟยหลงได้เดินมาข้างหูของชายวัยกลางคนที่กำลังหลับอยู่และตะโกนออกมาดังๆว่า
” ช่วยด้วยไฟไหม้…. ”