ซูซ่านได้ถามเฟยหลงอย่างเบาๆว่า
” จะดีหรือที่ให้ข้าออกไปเดินเล่นกับท่าน ”
เฟยหลงได้ตอบว่า
” ได้แน่นอน ”
ซูซ่านได้อุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วกล่่าวกับเฟยหลงว่า
” งั้นก็ไปกันเถอะ ”
เฟยหลงได้เดินนำซูซ่านโดยที่สายตาผู้คนรอบข้างได้หันมองมาที่ซูซ่านแล้วกล่าวว่า
” อ่า… เเม่นางผู้นั้นเป็นใครมาจากไหนกันถึงได้งดงามมากขนาดนี้ ”
” ใช่ๆตลอดชีวิตข้าไม่เคยเห็นหญิงสาวที่งดงามมากขนาดนี้มาก่อน ”
” ถ้าข้าได้แต่งงานกับนางแม้ว่าจะเสียอายุขัยของข้าไปสักสิบปีก็ยังคุ้มค่า ”
เฟยหลงที่ได้เห็นว่าเริ่มมีคนมารุมล้อมรอบตัวซูซ่านมากจึ้นและกลายเป็นจุดสนใจ
จึงหันกลับมามองซูซ่านซึ่งตอนนี้กำลังรู้สึกทำกระวนกระวายและมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง
เฟยหลงที่ได้เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า
” เจ้ากลัวหรือ ”
ซูซ่านที่หวาดกลัวผู้คนได้ฝืนสายหน้าและกล่าวว่า
” ขะ-ข้าไม่เป็นไร ”
ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นเเต่เฟยหลงก็เห็นได้ชัดจากการเเสดงออกของนางจึงยิ้มพร้อมสายหน้าแล้วดึงมือนางไปยังร้านเสื้อผ้าที่เฟยหลงสังเกตเห็น
” เอาละเจ้าไปเลือกผ้าคลุมหน้าที่เจ้าชอบมาใส่ซะเถอะเจ้าจะได้ไม่ต้องถูกจ้องมอง ”
พนักงานสาวของร้านที่เห็นว่ามีลูกค้าจึงเข้ามาต้อนรับและกล่าวว่า
” ยินดีต้อนรับไม่ทราบว่าท่านทั้งสองนั้นต้องการซื้ออะไร ”
เฟยหลงได้ตอบกลับไปว่า
” เจ้าคิดว่าข้าเข้ามาเพื่อมาซื้ออาหารทานงั้นหรือ ”
พนักงานสาวที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงที่ตอบคำถามของตนจึงพยักหน้าเพื่อปกปิดความอับอายเมื่อครู่แล้วกล่าวว่า
” งั้นท่านต้องการเลืิอกเสื้อผ้าแบบไหนละร้านของข้ามีผ้าหลากหลายแบบสามารถบอกจ้าได้เลย ”
เฟยหลงได้ขยับไปข้างให้เห็นซูซ่านและกล่าวว่า
” เจ้าช่วยเลือกให้นางหน่อย ”
พนักงานที่เห็นซูซ่านนั้นจึงตกตะลึงกับความสวยงามของซูซ่านและความหล่อเหลาของเฟยหลงแต่พนักงานสาว
ก็ได้ยินเสียงของเฟยหลงกล่าวว่า
” เจ้าดูพอรึยังถ้าพอแล้วก็พานางไปเลือกผ้าคลุมหน้า ”
เมื่อพนักงานสาวกำลังจะนำซูซ่านจากไปเฟยหลงก็ได้บอกกับพนักงานสาวว่า
” พานางไปเลือกซื้อชุดที่เหมาะสมกับนางให้ด้วยเรื่องราคานั้นไม่ต้องสนใจแค่นางชอบก็พอ ”
พนักงานที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงจึงคิดว่า
‘ ดูจากหน้าตาของทั้งสองคนที่เด็กหนุ่มหนึ่งหล่อเหลาส่วนหญิงสาวนั้นก็สวยงามมากเช่นกันทั้งสองคนจะต้องมีภูมิหลังที่น่าเกรงขามเเน่นอน’
‘ เเล้วเรื่ิองเงินมันไม่ได้มีปัญหากับคนอย่างพวกเขาเเน่นอน ‘
พนักงานจึงได้กล่าวกับซูซ่านว่า
” เเม่นางเขิญตามข้าน้อยมาได้เลย ”
ซูซ่านรู้สึกกังวนถ้าไม่มีเฟยหลงอยู่ข้างๆจึงรวบรวมความกล้าและกล่าวถามเฟยหลงอย่างคาดหวังว่า
” ท่านไปด้วยข้าจะได้ไหมจ้าไม่อยากอยู่ห่างจากท่านข้ารู้สึก….”
และซูซ่านก็ได้เงียบไปโดยไม่กล่าวต่อซึ่งเฟยหลงเห็นได้ชัดว่านางนั้นจะกล่าวคำสุดท้ายนั้นว่า” กลัว”แต่ซูซ่านนั้นไม่ต้องการแสดงความอ่อนเเอให้เฟยหลงเห็นจึงตัดสินใจหยุดกล่าวแล้วบอกกับเฟยหลงว่า
” ไม่เป็นไรข้าไปคนเดียวก็ได้ ”
โดยที่เมื่อเดินนำไปไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงของเฟยหลงกล่าวว่า
” ก็ได้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย ”
ซูซ่านที่ได้ยินว่าเฟยหลงตกลงที่จะไปด้วยจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เฟยหลงก็ได้แต่ถอนหายใจและคิดว่า
‘ จ้าควรจะสอนให้นางปรับตัวกับสังคมให้ได้แล้วก็ยังมีวิธีการคิดการเอาตัวรอด ‘
‘ และเรื่องต่างๆอีกมากมายที่ต้องช่วยนางให้ทำเรื่องเหล่านี้ได้เพราะบางครั้งมันอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นสักวันหนึ่งนางจะได้มีชีวิตรอดเพื่อรอข้าไปตามหาจนเจอก็เป็นได้ ‘
‘ เพราะเเม้เเต่ข้าก็ไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้’
เฟยหลงได้กลับออกมาจากความคิดเพราะได้ยินเสียงว่าซูซ่านเรียกตนอยู่
” ท่านคิดว่าผ้าคลุมหน้าชิ้นนี้นั้นสวยไหม