เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 60 ทำไมข้าต้องหลีกละ

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ได้เดินออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงประมูลหวังเปา

เมื่อทั้งสามได้เดินออกไปไม่นานก็ได้เจอกับฝูงชนที่มากมายหลังไหลมายังเมืองฟ้ากระจ่างซึ่งจุดหมายของพวกเขานั้นเป็นที่เดียวกับพวกเฟยหลง

ระหว่างทางก็ได้มีเเผงลอยตั้งขายของมากมายเช่นกันและจะได้ยินเสียงเจ้าของแผงลอยเรียกลูกค้า

” เร่เข้ามาข้ามีเหล็กทมิฬ​อายุสิบปีขาย ”

” เชิญมาชมได้เลยข้ามีผลลมปราณอายุห้าลูกอายุห้าปี ”

” ร้านของข้ามีของ……………………………”

ซึ่งของพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งน่าสนใจสำหรับผู่ฝึกตนพเนจรหรือผู้ฝึกตนที่เป็นกลุ่มขนาดเล็ก

สำหรับเฟยหลงที่ได้เดินผ่านแผงลอยต่างโดยใช้สัมผัสวิญญาณ​ตรวจสอบ​แต่ก็ไม่ได้ค้นพบของที่น่าสนใจเลยแม้เเต่น้อย

ซึ่งเมื่อพวกเฟยหลงได้ไปถึงประตูทางเข้าโรงประมูลหวังเปาก็ได้พบว่ามีคนมากมากจนสถานการณ์​ตรงนั้นแออัดมาก

เฟยหลงได้จูงมือซูซ่านที่กำลังอุ้มเสี่ยวไป๋เดินเข้าไปต่อเเถวแต่ขณะนั้นเองที่ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

” พวกเจ้าหลีกทางให้นายน้อยของข้าเร็วเข้าถ้าเจ้าไม่อยากมีปัญหากับนายน้อยของข้า ​ ”

เมื่อผู้บ่มเพาะที่กำลังยืนต่อเเถวอยู่นั้นได้ยินเสียงดังกล่าวจึงหันหน้ากลับไปมองและกล่าวออกมาว่า

” นั้นมันใครกันที่กล้ามาบอกให้พวกเราหลีกทาง”

เมื่อผู้บ่มเพาะที่ยืนอยู่ข้างๆได้กล่าวเตือน

” เห้เจ้าอย่าได้พูดออกมาให้คนพวกนั้นได้ยินละไม่งั้นเจ้าคงไม่ได้มีชีวิตรอดแน่นอน ”

” ทำไมพวกเขาไม่ปฏิบัติตาม​กฎของโรงประมูลหวังเปาที่ให้ต่อแถวเเล้วจ่ายค่าผ้านทางถึงจะเข้าไปได้ ”

” ก็เพราะว่านั้นคือหนึ่งในนายน้อยของตระกูลที่ปกครองแห่งเมืองฟ้ากระจ่างผู้บ่มเพาะตัวน้อยๆอย่างเราถ้าไปขัดใจเข้าละก็ได้ตายโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ”

ได้มีเสียงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของตระกลูทั้งสองที่ปกครองเมืองฟ้ากระจ่างแห่งนี้

เเละนายน้อยคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากหยางโจซึ่งเป็นนายน้อยของตระกูลหยางเเห่งเมืองฟ้ากระจ่าง

เมื่อผู้ฝึกตนเหล่านั้นได้เห็นหยางโจและรู้ว่าตนไม่ควรไปมีเรื่องด้วยก็แค่ให้ผ่านทางไปก่อนก็เท่านั้นทุกคนได้เดินออกไปและเปิดทางให้หยางโจได้เดินไป

แต่มีคนสามคนที่ไม่ใช่สิสองคนกับหนึ่งสัตว์​อสูรได้ยืนขวางอยู่ไม่ได้หลีกทางให้หยางโจซึ่งก็คือเฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋นั้นเอง

คนรับใช้ที่ตะโกนบอกให้เปิดทางแก่หยางโจที่ได้เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า

” เจ้าหลีกไปอย่าได้ขวางทางนายน้อยของข้า ”

เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงหันหน้ากลับมาแล้วกล่าวออกมา

” แล้วทำไมข้าต้องหลีกละ ”

คนรับใช้ที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวข่มขู่เฟยหลง

” เจ้ารู้หรือปล่าวว่านายน้อยของข้าเป็นใคร ”

เฟยหลงได้ตอบคำถามของคนรับใช้คนนั้นว่า

” แล้วมันเป็นใครละข้าต้องรู้จักมันไหม ”

เมื่อเหล่าคยรอบข้างได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวจึงหน้าซีด​และถอยเว้ยระยะห่างออกมาจากพวกเฟยหลงอย่างรวดเร็ว

คนรับใช้ที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงก็ได้โกรธแล้วตั้งใจจะกล่าวข่มขู่เฟยหลงต่อแต่เฟยหลงได้กล่าวใส่คนรับใช้คนนั้น

” เป็นเเค่สุนัขที่เจ้าของเลี้ยงไม่ดีแล้วชอบเห่าใส่คนอื่นเพราะมีเจ้านายหนุ่นหลังอยู่ ”

” ข้าว่าเจ้าของป็นอย้างไรสุนัขที่เลี้ยงย่อมเป็นอย่างนั้น ”

เมื่อคนรับใช้เตรียมที่จะโต้ตอบกละบไปกลับได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจากข้างหลังซึ่งมาจากนายน้อยของมันหยางโจว่า

” แกบังอาจที่ด่าข้างั้นแกกล้าบอกชื่อของแกไหมละ ”

และหยางโจไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ด้านหน้าในตอนนี้นั้นคือคนเดียวกับคนที่ทุบตีตนเพราะตอนนั้นเฟยหลงได้ใส่ชุดคลุมสีดำเอาไว้

เฟยหลงได้ตอบกลับไป

” ทำไมข้าต้องบอกชื่อของข้าละคนอย่างเจ้านั้นไม่มีคุณสมบัติ​พอที่จะรู้ ”

เมื่อหยางโจได้ยินดังนั้นจึงกล่าวยั่วยุเฟยหลงว่า

” งั้นเเกไม่กล้าแม้กระทั้งบอกชื่อให้ข้ารู้แกก็เป็นเเค่คนขี้ขาดคนหนึ่งก็เท่านั้น ”

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท