เฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ได้เดินออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงประมูลหวังเปา
เมื่อทั้งสามได้เดินออกไปไม่นานก็ได้เจอกับฝูงชนที่มากมายหลังไหลมายังเมืองฟ้ากระจ่างซึ่งจุดหมายของพวกเขานั้นเป็นที่เดียวกับพวกเฟยหลง
ระหว่างทางก็ได้มีเเผงลอยตั้งขายของมากมายเช่นกันและจะได้ยินเสียงเจ้าของแผงลอยเรียกลูกค้า
” เร่เข้ามาข้ามีเหล็กทมิฬอายุสิบปีขาย ”
” เชิญมาชมได้เลยข้ามีผลลมปราณอายุห้าลูกอายุห้าปี ”
” ร้านของข้ามีของ……………………………”
ซึ่งของพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งน่าสนใจสำหรับผู่ฝึกตนพเนจรหรือผู้ฝึกตนที่เป็นกลุ่มขนาดเล็ก
สำหรับเฟยหลงที่ได้เดินผ่านแผงลอยต่างโดยใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้ค้นพบของที่น่าสนใจเลยแม้เเต่น้อย
ซึ่งเมื่อพวกเฟยหลงได้ไปถึงประตูทางเข้าโรงประมูลหวังเปาก็ได้พบว่ามีคนมากมากจนสถานการณ์ตรงนั้นแออัดมาก
เฟยหลงได้จูงมือซูซ่านที่กำลังอุ้มเสี่ยวไป๋เดินเข้าไปต่อเเถวแต่ขณะนั้นเองที่ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
” พวกเจ้าหลีกทางให้นายน้อยของข้าเร็วเข้าถ้าเจ้าไม่อยากมีปัญหากับนายน้อยของข้า ”
เมื่อผู้บ่มเพาะที่กำลังยืนต่อเเถวอยู่นั้นได้ยินเสียงดังกล่าวจึงหันหน้ากลับไปมองและกล่าวออกมาว่า
” นั้นมันใครกันที่กล้ามาบอกให้พวกเราหลีกทาง”
เมื่อผู้บ่มเพาะที่ยืนอยู่ข้างๆได้กล่าวเตือน
” เห้เจ้าอย่าได้พูดออกมาให้คนพวกนั้นได้ยินละไม่งั้นเจ้าคงไม่ได้มีชีวิตรอดแน่นอน ”
” ทำไมพวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎของโรงประมูลหวังเปาที่ให้ต่อแถวเเล้วจ่ายค่าผ้านทางถึงจะเข้าไปได้ ”
” ก็เพราะว่านั้นคือหนึ่งในนายน้อยของตระกูลที่ปกครองแห่งเมืองฟ้ากระจ่างผู้บ่มเพาะตัวน้อยๆอย่างเราถ้าไปขัดใจเข้าละก็ได้ตายโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ”
ได้มีเสียงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของตระกลูทั้งสองที่ปกครองเมืองฟ้ากระจ่างแห่งนี้
เเละนายน้อยคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากหยางโจซึ่งเป็นนายน้อยของตระกูลหยางเเห่งเมืองฟ้ากระจ่าง
เมื่อผู้ฝึกตนเหล่านั้นได้เห็นหยางโจและรู้ว่าตนไม่ควรไปมีเรื่องด้วยก็แค่ให้ผ่านทางไปก่อนก็เท่านั้นทุกคนได้เดินออกไปและเปิดทางให้หยางโจได้เดินไป
แต่มีคนสามคนที่ไม่ใช่สิสองคนกับหนึ่งสัตว์อสูรได้ยืนขวางอยู่ไม่ได้หลีกทางให้หยางโจซึ่งก็คือเฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋นั้นเอง
คนรับใช้ที่ตะโกนบอกให้เปิดทางแก่หยางโจที่ได้เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า
” เจ้าหลีกไปอย่าได้ขวางทางนายน้อยของข้า ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงหันหน้ากลับมาแล้วกล่าวออกมา
” แล้วทำไมข้าต้องหลีกละ ”
คนรับใช้ที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวข่มขู่เฟยหลง
” เจ้ารู้หรือปล่าวว่านายน้อยของข้าเป็นใคร ”
เฟยหลงได้ตอบคำถามของคนรับใช้คนนั้นว่า
” แล้วมันเป็นใครละข้าต้องรู้จักมันไหม ”
เมื่อเหล่าคยรอบข้างได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวจึงหน้าซีดและถอยเว้ยระยะห่างออกมาจากพวกเฟยหลงอย่างรวดเร็ว
คนรับใช้ที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงก็ได้โกรธแล้วตั้งใจจะกล่าวข่มขู่เฟยหลงต่อแต่เฟยหลงได้กล่าวใส่คนรับใช้คนนั้น
” เป็นเเค่สุนัขที่เจ้าของเลี้ยงไม่ดีแล้วชอบเห่าใส่คนอื่นเพราะมีเจ้านายหนุ่นหลังอยู่ ”
” ข้าว่าเจ้าของป็นอย้างไรสุนัขที่เลี้ยงย่อมเป็นอย่างนั้น ”
เมื่อคนรับใช้เตรียมที่จะโต้ตอบกละบไปกลับได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจากข้างหลังซึ่งมาจากนายน้อยของมันหยางโจว่า
” แกบังอาจที่ด่าข้างั้นแกกล้าบอกชื่อของแกไหมละ ”
และหยางโจไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ด้านหน้าในตอนนี้นั้นคือคนเดียวกับคนที่ทุบตีตนเพราะตอนนั้นเฟยหลงได้ใส่ชุดคลุมสีดำเอาไว้
เฟยหลงได้ตอบกลับไป
” ทำไมข้าต้องบอกชื่อของข้าละคนอย่างเจ้านั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้ ”
เมื่อหยางโจได้ยินดังนั้นจึงกล่าวยั่วยุเฟยหลงว่า
” งั้นเเกไม่กล้าแม้กระทั้งบอกชื่อให้ข้ารู้แกก็เป็นเเค่คนขี้ขาดคนหนึ่งก็เท่านั้น ”