หยางเทียนกล่าวกับเฟยหลงอย่างโกรธเเค้นที่ตนโดนกล่าวดูถูก
” เจ้าเรียกใครว่าขอทานน้อย ”
เฟยหลงได้ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มว่า
” งั้นหรือสงสัยคนที่ข้ากำลังพูดคุยด้วยจะไม่มีความสามารถพอที่จะรับนู้ความหมายของคำพูดที่ข้าได้กล่าวออกไป ”
หยางเทียนได้หน้าเปลี่ยนสีแดงด้วยความโกรธแต่ตอนนี้อยู่ในโรงประมูลไม่สามารถทำได้
จึงต้องสกดข่มความโกรธเอาไว้และกล่าวกับเฟยหลงว่า
” เดี๋ยวจะได้เห็นเห็นดีกัน ”
เฟยหลงไดเตอบหยางเทียนกลับไปว่า
” เจ้ามีดีด้วยเหรอ ”
พนักงานสาวก็ได้กล่าวขัดขึ้นมาว่า
” ทุกท่านทางโรงประมูลหวังเปาของเราขอขอบคุณมากที่ทุกท่าาเสียสละเวลาอันมีค่ามาเพื่อเข้่าร่วมประมูลครั้งนี้ ”
” ทางออกอยู่ด้านข้างทางเข้าขอให้ทุกท่านมีความสุข ”
เฟยหลงก็ได้ยืนขึ้นจากเก้าอี้โดยข้างๆมีซูซ่านและเสี่ยวไป๋ก็ได้ลุกตามเฟยหลง
ชายชราชางฟู่ที่เห็นว่าตนไม่มีโอกาศสรา้างหนี้บุญคุณเพื่อในอนาคตเฟยหลงจะช่วยเจาได้จึงกล่าวถามเฟยหลงว่า
” นายน้อยเฟยหลงข้าไม่ทราบว่าท่านจะรอก่อนได้ไหมข้ามียางเรื่องอยากจะถามหน่อย ”
เฟยหลงก็ได้กล่าวตอบชายชราชางฟู่
” งั้นก็เร็วๆหน่อยข้ามีไม่เวลาว่างมากนัก ”
ชายชราได้มองเฟยหลแล้วกล่าวถามออกมา
” นายน้อยเฟยหลงเอ่อ….. ท่านมีคู่หมั้นไหมถ้าท่านไม่มีจ้าอยากจะเสนอหลานสาวของข้าให้นายน้อยได้รู้จักเป็นไง ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินสิ่งที่ชายชราบอกก็นิ่งเฉยแต่ก็ได้สังเกตเห็นว่าซูซ่านมีอาการแปลกไปเล็กน้อย
ซึ่งเฟยหลงก็ได้มองหน้าซูซ่านและเมื่อซูซ่านเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า
” ท่านพี่เฟยหลงมองข้าทำไมเหรอ ”
เฟยหบงได้ยิ้มแล้วตอบว่า
” ไม่มีอะไร ”
และหันหน้ากลับมาตอบชายชราชางฟู่
” ข้าไม่อาจรับข้อเสนอนี้ได้เพราะข้านั้นมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ”
แล้วเฟยหลงนำมือไปลูบหัวของซูซ่านพร้อมกับบอกลาชายชราชางฟู่
” งั้นข้าก็คงขอตัวลาเพียงเท่านี้ละ ”
” ไว้เจอกันใหม่ถ้าโชคชะตานำพา ”
ซูซ่านที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงจึงรู้สึกว่าใครกันที่เฟยหลงชอบหรือว่าจะเป็นตัวซูซ่านและเมื่อโดนลูบหัวโดยเฟยหลงนั้น
มันให้ความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นมาดแบบที่ไม่เคยจะรู้สึกมาก่อนแต่ก็ได้ตื่นขึ้นมาจากความคิดเมื่อได้ยินเฟยหลงกล่าวว่า
” เจ้าจะไท่กลับไปกับข้าหรือ ”
เมื่อซูซ่านที่ได้สติจึงกล่าวตอบเฟยหลงกลับไป
” ข้าขอโทษด้วยท่านพี่เฟยหลงข้าคิดอะไรบางอย่างอยู่ ”
และซูซ่านก็จำได้ว่ามือของเฟยหลงยังอยู่บนหัวของตนจึงกล่าวกับเฟยหลงว่า
” ท่านเอามือออกไปก่อนข้าไม่ใข่เด็กแล้วนะ ”
เฟยหลงได้เอามือที่กำลังลูบหัวของซู่ซ่านและกล่าวกับซูซ่านด้วยรอยยิ้ม
” ไม่ใช้เด็กแล้ว ”
และแล้วตอนนั้นเองที่ได้มีพนักงานชายคนหนึ่งวิ่งมาทางเฟยหลงด้วยความรีบร้อนและ้สกล่าวว่า
” รอก่อนนายน้อยเฟยหลงท่านลืมเหรียญทองที่ได้จากการประมูลของเม็ดยาปกปักวิญญาณ”
เฟยหลงก็ได้นึกเรื่องของที่เอาเข้าประมูลจึงกล่าวกับพนักงานชายคนนั้นว่า
” รีบๆหน่อยข้าไม่อยากรอนาน ”
พนักงานขายคนนั้นได้ตอบเฟยหลงกลับไปว่าอย่างนอบน้อม
” ใข้เวลาไม่นานหรอกนายน้อยข้าจะให้ท่านเซ็นอะไรเล็กๆน้อยๆก็เสร็จสิ้นแล้ว ”
เฟยหลงจึงกล่าวเร่งพนักงานชายคนนั้นว่า
” เร็วหน่อย ”
พนักงานคนนั้นได้ตอบเฟยหลงกลับ
” สักครู่ ”
เสี๋ยวไปที่ยืนอยู่ข้างเฟยหลงก็ได้ร้องขึ้นมา
” อ๋าว ”
ซึ่งท่าทางของมันเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง
เฟยหลงจึงหันหน้ากลับมามองมันแล้วกล่าวถาม
” เสี่ยวไป๋เจ้าต้องการไรเหรอ ”
แต่ก่อนที่เสี่ยวไป๋ได้ตอบกลับไปพนักงานชายคนนั้นก็ได้กล่าวกับเฟยหลงพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้และอธิยาย
” นายน้อยเฟยหลงท่านช่วยเซ็นตรงมุมล่างนี้ก็ได้แล้วเเละก็รับบัตรสมาชิกพิเศษของโรงประมูลเราไปด้วย ”
เฟยหลงที่กำลังจะเซ็นก็ได้ยินเสียงของใครที่เต็มไปด้วยจิตสังหารดังขึ้นมา
” ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเราจะได้รู้กัน ”