โสมวิญญาณที่หยุดอยู่นิ่งก็ได้เห็นเมล็ดบางอย่างหล่นลงมาตรงหน้าของมัน
ซึ่งตัวของมันรู้จักเมล็ดนี้ดีเพราะว่ามันคือหนึ่งในสมุนไพรที่ตัวมันชอบทานมากที่สุดเมื่อเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปเพื่อจะหยิบขึ้นมาทาน
เเต่เมื่อกำลังเข้าใกล้เมล็ดนั้นก็ไดเเคลื่อนที่ห่างออกไปเรื่ิอยๆเมื่ิอโสมวิญญาณเห็นดังนั้นจึงเดินตามไป
ทาางด้านเฟยหลงที่อยู่อีกฝั่งก็ได้ใช้มืิค่อยดึงเถาวัลย์เข้ามาใกล้เรื่อยโสมวิญญาณได้เดินตามเมล็ดที่ผูกไว้กับเถาวัลย์จนเฟยหลงหยุดมืิอเมื่อถึงจุดที่ต้องการ
โสมวิญญาณที่เห็นว่าเมล็ดที่ตนต้องการทานเข้าไปนั้นหยุดอยู่กับที่เเล้วก็ได้เดินเข้าไปและก็ได้มีปากขนาดเล็กที่ดูกลมกลืนไปกับตัวของมัน
และนำเมล็ดนั้นใส่เข้าไปในปากของมัน
ซูซ่านที่กำลังเฝ้ามองอยู่นั้นก็ได้กล่าวถามเฟยหลงว่า
” ท่านพี่เฟยหลงแล้วเราจะต้องรออีกนานเเค่ไหนละ ”
เฟยหลงได้ตอบซูซ่านกลัยไปว่า
” อีกไม่นานหรอก ”
เวลาได้ผ่านไปโสมวิญญาณได้ทานเมล็ดนั้นเสร็จและได้ฝังตัวลงบนดินแล้วอยู่นิ่งไม่ขยับไปไหน
เฟยหลงที่เห็นว่าได้เวลาเเล้วจึงกล่าวกับซูซ่านว่า
” รอข้าอยู่นี้ก่อนตอนที่ข้าจับมันตอนที่มันกำลังหลับ ”
ซูซ่านก็ได้ถามเฟยหลงว่า
” มันหลับเเล้วงั้นเหรอ ”
เฟยหลงได้ตอบกลับสั้นๆ
” ใช่แล้ว ”
เฟยหลงได้ใช้ทักษะยุทธ์ก้าวพริบตาอย่างรวดเร็วและไร้ซึ่งเสียงใดทั้งสิ้นเข้าไปใกล้โสมวิญญาณ
และใช้มือทั้งสองข้างดึงมันขึ้นมาทำให้โสมวิญญาณที่กำลังหลับอยุ่ตื่นขึ้นมาและดิ้นไปมาพร้อมกับชนเฟยหลง
‘ ตุบ ตุบ ตุบ ‘
ซูซ่านที่เห็นเฟยหลงโดนกระแทกจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า
” ท่านพี่เฟยหลงเป็นอะไรหรือป่าว ”
เฟยหลงได้ตอบซูซ่านกลับไปอย่างสบายๆ
” ข้าไม่เป็นไรหรอกเพราะว่าถึงเเม้ว่าโสมวิญญาณจะมีความเร็วที่มากมายมหาศาลแต่ถ้าเทียบกับเรื่องพละกำลังอาศัยเพียงขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่สี่เป็นอย่างน้อยก็สามารถจับมันได้แล้ว ”
” นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมมัรถึงจับยากแต่ถ้าจับได้แล้วมันก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ด้วยความเร็วขนาดนั้นมีน้อยคนที่สามารถจับมันได้ ”
เมื่อซูซ่านได้ฟังสิ่งที่เฟยหลงอธิบายจึงเข้าใจว่า
” ในที่สุดข้าก็รู้ว่าทำไมมันถึงจับยากและหาตัวได้ยากมากมันต้องมีโชคอย่างมากถึงจะเจอแล้วยังต้องคิดวิธีที่จะจับมันอีก ”
เฟยหลงก็ได้ยื่นโสมวิญญาณที่กำลังดิ้นรนอยู่ในกำมือขเขาให้ซูซ่านและกล่าวออกมา
” เจ้านำมันไปบ่มเพาะเถอะมันจะช่วยเจ้าได้มากเลยโดยเฉพาะกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าที่มีธาตุไม้”
ซูซ่านไดเยื่นมือของนางมารับโวมวิญญาณไปและตอบกลับไปว่า
” คะท่านพี่เฟยหลง ”
……………………………..
เวลาได้ผ่านไปสองวันตั้งเเต่ที่ซูซ่านได้บ่มเพาะโดยใช้พลังปราณบริสุทธิ์จากโสมวิญญาณก็ได้มีพลังปราณจำนวณมากล้อมรอบตัวของซูซ่านซึ่งเฟยหลงสัมผัสมันได้อย่างดี
‘ ตู้ม ตู้ม ตู้ม ‘
เฟยหลงที่กำลังนั่งบ่มเพาะอยู่ไม่ำกลก็ได้ลืมตาขึ้นมาแล้วกล่าวพึมพัมว่า
” นางบรรลุอีกขั้นแล้วหรือ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ตื่นมาตั้งเเต่หนึ่งวันที่เเล้วจากกลิ่นหอมที่ทำให้ตกอยู่ในห้วงของความฝันได้นอนหมอบอยู่ก็ได้เดินเข้าไปมกล้ๆซูซ่าน
เเต่ก่อนที่จะถึงตัวนางเฟยหลงได้ห้ามเสี่ยวไป๋้อาไว้แล้วกล่าวออกมาส่า
” เสี่ยวไป๋ตอนนี้เจ้าอย่าไปยุ่งกับนางก่อนเพราะว่าอีกตอนนี้นางต้องใช้สมาธิที้งหมดกับการเปลี่ยนแปลงพลังปราบริสุทธิ์ของโสมวิญญาณมาเป็นของตนเอง ”
เมื่อเฟยหลงได้เตือนเสี่ยวไปแล้วก็ได้แล้วก็นั่งบ่มเพาะต่อไปจนวันเวลาผ่านไปห้าวัน
ได้มีกลิ่นหอมและเเสงสีเขียวสดใสบางๆที่รอบข้างกายของซูซ่านออกมา
เฟยหลงจึงได้ออกจากการบ่มเพาะเเล้วนั่งมองเงียบกับเสี่ยวไป๋