เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 96 การรวบตัวของสัตว์อสูร

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงได้เดินเข้าไปตรวจสอบศพของสัตว์อสูรตัวนั้นซึ่งเมื่อดูเเล้วก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ

” ไม่มีอะไรที่แปลกไปเลยงั้นที่เห็นมันพุ่งเข้าโจมตีเเบบไม่คิดชีวิต ”

เฟยฟลงได้ครุ่นคิดเรื่องราวที่เหมือนกับตอนนี้ที่ตนเคยพบเจอในอดีตตอนเป็นเซียน

เฟยหลงที่ได้เห็นอย่างนั้นจึงกล่าวกับทั้งสองว่า

” เราไปกันต่อเถอะ ”

โดยที่ทั้งสามได้เดินเข้าไปในส่วนลึกของป่าที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้เพราะในนั้นมีสัตว์อสูรที่มีพลังเเข็งแกร่งมากมายอาศัยอยู่

โดยที่ระหว่างทางนั้นได้พบเจอกับสัตว์อสูรพุ่งเข้าโจมตีพวกเฟยหลงเหมือนตอนเเรกที่เข้ามายังป่าเเห่งนี้

ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกประหลาดให้ความรู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปเท่านั้นเหมืินกับว่วป่าเเห่งนี้มีเพียงทางเข้าไม่มีทางกลับออกไป

ซูซ่านที่ได้เห็นบรรยากาศ​รอบจึงเดินมาอยู่ใกล้กับเฟยหลงมากกว่าเดิมส่วนเสี้ยวไป๋ที่นั้นได้เดินตามซูซ่าน

” ท่านพี่เฟนหลงทำไมบรรยากาศจองป่าถึงได้น่าขนลุกแบบนี้ละ ”

เสี่ยวไป๋ก็ได้ร้องขึ้นมาเหมือนกัน

” อ๋าว ”

เฟยหลงได้มองสภาพรอบอย่างสงบและกล่าวออกมาอย่างช้าว่า

” มันก็เรื่องปกตินิที่ป่าที่อยู่ลึกจะเป็นแบบนี้เเล้วพวกเจ้าทั้งสองจะขาดหวังอะไรกับป่าลึกละ ”

เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงของเฟยหลงที่กล่าวออกมาจึงเงียบลงโดยที่ไม่มีใครส่เสียงอีกและเดินตามเฟยหลงไปเรื่อย

จนกระทั่งเฟยหลงหยุดเท้าลงอย่างกะทันหัน​ทำให้ซูซ่านได้ชนเข้ากับแผ่นหลังของเฟยหลงซึ่งทำให้จมูก​ของนางเจ็บจนร้องออกมา

” โอ้ย ”

ซูซ่านที่ก็ได้หยุดเดินต่อไปเพราะจมูกของนางชนเข้ากับแผ่นหลังของเฟยหลงทำให้เสี่ยวไป๋ที่เดินตามนางมาก็ได้ชนเข้ากับขาของนางเช่นกัน

” อ๋าว ”

เสี่ยวไป๋ที่เห็นว่าทั้งสองหยุดเดินจึงสงสัยซูซ่านก็กำลังจะกล่าวถามเฟยหลงแต่ได้เห็นเฟนหบงใช้มือของเขาปิดปากของซูซ่านพร้อมกล่าวว่า

” เจ้าเงียบก่อน ”

ซูซ่านที่โดยเฟยหลงใช้มือปิดปากของนางอย่างกะทันหันจึงรู้สึกเขินอายจนหน้าของนางเริ่มจะมีสีเเดง

ซูซ่านที่รวบรวมสติกลับมาได้จึงได้พยักหน้า​เพื่อเป็นการบอกเฟยหลงว่านางเข้าใจเฟยหลงจึงปล่อยมือแล้วกล่าวกับซูซ่านด้วยเสียงที่เบามากมีเเค่นางและเสี่ยวไป๋ที่ได้ยิน

” พวกเจ้าลองมองไปที่ข้างหน้าแล้วเจ้าอาจจะเข้าใจเหตุผล​ผลที่ข้าบอกให้พวกเจ้าเงียบ ”

เมื่อทั้งสองได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าแล้วซูซ่านก็กล่าวตอบเฟยหลงว่า

” คะท่านพี่เฟยหลง ”

ซึ่งภาพข้างหน้านั้นได้ปรากฏ​ฝูงสัตว์อสูรมากมายที่กำบังยืนล้อมรอบต้นไม้ต้นหนึ่งที่ไม่ใหญ่มาก

ซูซ่านที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวถามเฟยหลง

” หรือว่าที่สัตว์อสูรพวกนั้นเเปลกไปจะเป็นเพราะเจ้าต้นไม้ต้นนั้นที่อยู่กลางวงล้อมของเหล่าสัตว์อสูร ”

เฟยหลงจึงได้กล่าวชมซูซ่านพร้อมรอยยิ้มที่คาดการณ์​สิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยที่อ้างอิงจากภาพและเรื่อวที่เฟยหลงกล่าว

” ใช่เเล้วละข้าไม่คิดว่าเจ้าจะคาดเดาได้เทียบกับตัวเจ้าเมื่อก่อนแล้วเจ้าฉลาดขึ้นมากเลย ”

ซูซ่านที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเหมือนกับชื่นชมหรือกล่าวหาว่านางเมื่อตอนที่พบกับเฟยหลงนั้นโง่เขลา​อย่างนั้นหรือ

ซูซ่านจึงกล่าวถามเฟยหบงด้วยเสียงที่เหมือนโกรธเเต่สำหรับเฟยหลงแล้วนั้นมันเหมือนกับว่าความโกรธของนางนั้นดูน่ารักมากในสายตาเฟยหลง

” ท่านพี่เฟยหลงข้าไม่คุยกับท่านด้วยเเล้ว ”

เฟยหลงที่ได้ยินดัวนั้นจึงกล่าวอธิบายให้นางเข้าใจ

” ข้าไม่ได้หาว่าเจ้าโง่เขลา​เเต่เจ้านั้นฉลาดมากขึ้นโดยที่ข้าอดที่จะกล่าวชื่นชมเจ้าไม่ได้ ”

ซูซ่านได้ตอบเฟยหลงกลับไปว่า

” เป็นเพราะที่ผ่านมาท่านพี่สอนข้าข้าจึงทำได้ ”

ตอนนั้นเองที่การสนทนาของซูซ่านและเฟยหลงก็ต้องจบลงเพราะว่าเหล่าสัตว์อสูรทั้งหมดนั้นได้คำรามออกมา

” โฮก “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท