ซูซ่านที่ได้เห็นดังนั้นจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า
” ท่านพี่เฟยหลงหยุดทำไมหรือ ”
เฟยหลงที่ได้ยินคำถามของซูซ่านก็ได้กล่าวตอบกลับไป
” พอดีข้าเจอของน่าสนใจนิดหน่อยนะ ”
ซูซ่านที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวว่าเป็นของน่าสนใจจึงมองไปยังตรงทร่เฟยหลงหยุดและกล่าวถามกับเฟยหลง
” อยู่ตรงไหนเหนอท่านพี่เฟยหลงสิ่งที่ท่านบอกว่ามันน่าสนใจ ”
เฟยหลงที่ได้ยินคำกล่าวซูซ่านจึงกล่าวตอบกลับไป
” มันก็อยู่ตรงหน้านี่ไงละ ”
ซูซ่านกลาดสายตามองตรงหน้าของเฟนหลงก็ได้เจอกับชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ซึ่งด้านหน้าของเขานั้น
มีผ้าผืนหนึ่งปูเอาไว้และมีของต่างๆมากมายตั้งเรียงรายอยู่บนผ้าผืนนั้นเฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปและกล่าวถามออกไปว่า
” ผู้อาวุโสข้าขอทราบได้ไหมว่าของตรงหน้าท่านนั้นท่านขายหรือไม่ ”
ชายชราที่ได้ยินเสียงของเฟยหลงจึงกล่าวโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
” เจ้าเเน่ใจหรือว่าจะซื้อของพวกนี้ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบชายชราคนนั้นอย่างมั่นใจ
” ข้าจะซื้อเเน่นอนถ้าท่านยอมขายให้กับข้า ”
เมื่อชายชราได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวถามเฟยหลงต่อไปอีกว่า
” งั้นเจ้าอยากซื้อสิ่งไหนละ ”
เฟยหลงทั่ได้ยินคำกล่าวของชายชราดังนั้นจึงกล่าวตอบไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” ข้าซื้อทั้งหมด ”
เมื่อชายชราได้ยินว่าเฟยหลงนั้นต้องการซื้อทั้งหมดจึงกล่าวถามอีกครั้ง
” เจ้าเเน่ใจนะว่าจะซื้อทั้งหมด ”
เฟนหลงได้กล่าวตอบหลับไปว่า
” เเน่นอนข้าจะซื้อ ”
ชายชราที่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวกับเฟยหลง
” งั้นเจ้าสัญญากับข้าอย่างหนึ่งได้ไหม ”
เฟยหลงที่ได้ยินคำถามที่ของชายชราก็ได้กล่าว
” เเล้วสัญญาอะไรละ ”
ชายชราที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมาว่า
” เจ้าสัญญาว่าฟังเรื่องราวของชายชราธรรมดาคนหนึ่งไหมละ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมาว่าชายชราตรงหน้าของเข้านั้นจะเล่าเรื่องราวอะไรให้เขาฟัง
” ในอดีตตระกูลของข้านั้นเป็นตระกูลขนาดกลางในเมืองเเห่งนี้เเต่เเล้ววันหนึ่งบรรพบุรุษของข้านั้นได้พบเจอกับสิ่งหนึ่งโดยบังเอิญ ”
” และด้วยสิ่งนั้นทำให้ตัวเขาในเวลานั้นได้มีพลังเพิ่มขึ้นอยากมากมายเเต่เเล้ววันหนึ่งท่านก็ได้จากไปยังสถานที่เเห่งหนึ่งและทิ้งของเหล่านี้ไว้ให้โดยที่เขานั้นไม่ได้กลับมาอีกเลย ”
” ตระกูลของข้านั้นอยู่มานานหลายร้อยปีเเต่พลังของเรานั้นเริ่มเสื่อมถอยลงจนกระทั้งมาถึงรุ่นของข้าและพี่น้องของข้านั้นไม่มีใครมีพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะที่มากพอทำให้พวกเราตกต่ำถึงทุกวันนี้ ”
เมื่อชายชรากล่าวจบก็ได้ถอนหายใจยาว
” เห้อ……………..ขอบใจเจ้ามากที่รับฟังเรื่องราวของชายชราเเปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานาน ”
” สิ่งเหล่านี้ข้าจะขายให้เจ้าทั้งหมดเลยข้าเอาเเค่หนึ่งพันเหรียญทองเท่านั้น ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบชายชรากลับไปว่า
” ตกลง ”
เมื่อเฟยหลงพูดจบก็ได้ให้เหรียญทองหนึ่งพันเหรียญพร้อมเก็บสิ่งของทั้งหมดเข้ากระเป๋ามิติและเตรียมจะจากไป
ชายชราที่นั่งก้มหน้าอยูาก็ได้เก็บเหรียญทองทั้งหมดลงกระเป๋าและกล่าวว่า
” นี่เจ้าช่วยรอก่อนได้ไหม ”
เฟยหลงได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวถามชายชรา
” ผู้อาวุโสมีเรื่องอะไรอีกอย่างนั้นเหรอ ”
ชายชราได้ตัดสินใจหยิบม้วนกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งซึ่งสภาพเก่าและมีสีน้ำตาลพร้อมกับกล่าวกับเฟยหลงว่า
” รับนี้ไป ”
เฟยหลงที่เห็นม้วนกระดาษนั้นจึงมองมันด้วยความใคร่รู้แล้วกล่าวถามชายชรา
” ผู้อาวุโสนี้มันคือม้วนกระดาษอะไรเหรอ ”
ชายชราที่ได้ยินคำถามของเฟยหลงจึงกล่าวตอบกลับไปว่า
” บรรพบุรุษของข้าได้ทิ้งคำกล่าวเอาไว้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้านั้นไม่มีพลังพอที่จะปกป้องมันไว้ก็อย่าได้เผยมันออกมาเด็จขาด ”
” เเต่ถ้าวันหนึ่งเจ้ารู้เเล้วว่าไม่สามารถปกป้องมันได้ต่อไปหรือไม่ก็พวกเจ้านั้นไม่สามารถตามหาสถานที่ในม้วนกระดาษนี่ได้จงมอบให้กับคนที่คู่ควร ”
ชายชราก็ได้กล่าวต่อไปด้วยเสียงที่หนักเเน่นอีกว่า
” ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะต้องใช่คนเเบบเดียวที่บรรพบุรุษข้ากล่าวไว้เเน่นอน ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงรับม้วนกระดาษนั้นมาและกล่าวออกไป
” ขอบคุณมากผู้อาวุโส “