เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 116 เสี่ยวไป๋ที่เปร่งประกาย

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

มันคือกำไลเเละสร้อยที่ทำจากหยกกับอัญมณีมากมายหลาดหลายรูปแบบออกมาจากถุงมิติใบหนึ้งที่เฟยหลงได้ให้กับซูซ่านเอาไว้

เสี่ยวไป๋ที่เห็นดังนั้นจึงรู้สึกแปลกใจที่เห็นสิ่งของระยิบระยับเต็มไปหมด

” อ๋าว ”

เสี่ยวไป๋ได้ลองใช้เท้าของตนสกิดสิ่งของเหล่านั้นเเละเงยหน้าของมันมองซุซ่านด้วยความเเปลกใจ

ซูซ่านที่เห็นแบบนั้นก็ได้กล่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า

” เสี่ยวไป๋เจ้าขยับมาใกล้ๆข้าหน่อยสิจ้าจะเเสดงมห้เจ้าได้้ห็นว่าของพวกนี้มันต้องใช้ยังไง ”

เสี่ยวไป๋จึงขยับเจ้ามาใกล้ซูซ่านตามที่นางกล่าวเเละตอนนั้นเองที่ซูซ่านได้หยิบสร้อยและกำไลต่างที่มีไส้สำหรับสัตว์อสูรสวมมห้เสี่ยวไป๋

ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็เสี่ยวไป๋ก็ได้เปลี่ยบเเปลงไปอย่างใหญ่หลวง

ทางด้านเฟยหลงที่กำลังปรุงเม็ดยาอยู่นั้นก็ำด้มาถึงขั้นตอนสุดท้าย

พลังปราณที่อยู่ในสมุนไพรได้ควบรวบกันเเละกลั่นตัวออกมาเป็นเม็ดยาเม็ดหนึ่งซึ่งมีสีดำ

เฟนหลงที่เห็นเม็ดยาที่ตนปรุงออกมาได้จึงกล่าวพร้อมกับมีรอยยิ้มที่มุมปาก

” ก็ถือว่าเป็นเม็ดยาที่น่าพึงพอใจที่สุดที่ข้าปรุงขึ้นมาหลังจากเกิดใหม่……. ”

” เเต่เเค่นี้ยังไม่ดีพอจ้าจะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้เเต่ปัญหา​ขนาดใหญ่ตอนนี้คือพลังปราณที่ยังไม่มีมากพอที่ข้าจะใช้ควบคุมเพลิงเพื่อปรุงเม็ดยา…………….. ”

เฟนหลงได้กล่าวต่อไปอีกว่า

” ขอบเขตการบ่มเพาะของข้าในตอนนี้ก็ถึงเวลาเเล้วที่ต้องยกระดับ ”

เฟยหลงจึงเริ่มปรุงยาที่ใช้สำหรับทะลวงขอบเขตต่อไป

‘ ขอบเขตวิญญาณ​ในที่สุดข้าก็ก้าวหน้าเเละเข้าใกล้ความต้องการของข้ามากจึ้นกล่าวเดิมเเม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อยในเป้าหมายของข้าก็ตาม’​

เมื่อเฟยหลงได้สลัดความคิดพวกนั้นทิ้งทั้งหมดและเริ่มปรุงมใเม็ดยาต่อไปโดยที่ตัวเขาไม่รู้ว่า

เสี่ยวไป๋ในตอนนี้นั้นอยากพบเจอเฟยหลงมากเเค่ไหนก็ตาม

เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปไม่มีหยุดเดินเฟยหลงก็ได้ปรุงเม็ดที่ตัวเขาต้องการเสร็จสิ้น​เเล้วจึงเปิดประตูห้องของตนออกไป

และเดินไปยังหน้าประตูห้องของซูซ่านและได้ยินเสีนงอะไรบางอย่างที่ดังอยู่ข้างในห้อง

” อ๋าว~~~~ ”

” เสี่ยวไป๋เจ้าอยู่นิ่งก่อนข้าใกล้จะใส่สร้อยเส้นนี้เสร็จ​เเล้ว ”

เฟยหลงที่ได้ยินเสียงก็รู้สึกสงสัยเเต่จากเสียงนั้นก็ไม่ได้มีเรื่องร้ายเเรงเกิดขึ้นจึงใช้มือเคาะ​ประตู

เเต่ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงของซูซ่านกบ่าวขึ้นมาว่า

” ท่านพี่เฟยหลงเข้ามาได้เลย ”

เฟยหลงที่ได้ยินเข่นนั้นจึงรู้สึกดีจึ้นมาเพราะว่า

‘ เเม่ช่วงเวลาผ่อนคลายนางก็ยังระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอเพื่อใข้สอดส่องการโจมตีของศัตรู​ที่อาจตะลงมือตอนไหนก็ได้ ‘​

‘ ไม่เสียเเรงที่ข้าเฟยหลงคนนี้ได้สอนเรื่องราวต่างๆมากมายจนเปลี่ยนสาวน้อยที่ขี้อายกบายมาเป็นสาวน้อยที่สมบูรณ์แบบ​ตามที่ข้าต้องการ ‘​

เมื่อเฟยหลงเปิดเข้าไปก็ได้พบกับซูซ่านที่ตอนนี้กำลังกล่าวออกมา

” นี่เสี่ยวไป๋เจ้าอย่าหลบข้าสิมาให้ข้าใส่ขพวกนี้ให้ครบก่อนเเล้วข้ารับรองเลยว่าเจ้าจะต้องเปบ่งประกายเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ”

เฟยหลที่ได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกแปลกใจกับคำกล่าวของซูซ่านและลองให้สายตาขอตนมองหาเสี่ยวไป๋เเต่สุดท้ายเเล้วก็ได้พบกับสิ่งๆหนึงเข้าเเล้วรู้สึกว่าตนนั้นรู้จักซูซ่านน้อยไป

โดยที่ด้านหน้าของซูซ่านปรากฏ​เสี่ยวไป๋ที่ตอนนี้กำลังจะวิ่งหนีจากซูซ่านแต่โดนนางจับไว้ทำให้หมดโอกาศที่จะหนีรอด

ซึ่งบนตัวของเสี่ยวไป๋นั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับมากมายโดยที่เฟยหลงเห็นดังนั้นจึงมองเสี่ยวไป๋ด้วยสาตาที่แปลกไปและเต็มไปด้วยการครุ่นคิด

” เสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าเจ้าเองก็มีความชอบที่จะใส่เครื่องประดับมากมายเเบบนี้ ”

” ไว้คราวหน้า​ข้าจะหลอมเครื่อประดับพวกนี้ให้เเต่พวกมันนั้นมีความสามารถในการป้องกันด้วย”

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท