เฟยหลงจึงได้พุ่งเข้าประชิดตัวของสัตว์อสูรด้วยความเร็วสูงสุดเเต่สัตว์อสูรตนนั้นไม่ยอมให้เฟยหลงทำเช่นนั้นได้เเละโจมตีด้วยคลื่นขนาดใหญ่ใส่เฟยหลงอย่างต่อเนื่อง
” ตู้ม ตู้ม ตู้ม ”
เฟยหลงได้เคลือ่นที่หลบคลื่นที่ใกล้ข้ามาจนในที่สุดก็มีโอกาศจัดการกับสัตว์อสูรตนนั้นได้
ฝ่ามือของเฟยหลงได้เปร่งเเสงบางอย่างออกมาสัตว์อสูรที่เห็นดังนั้นก็รับรู้ได้ถึงอันตรายเเละพุ่งเข้ามาหยุดการโตมตีของเฟยหลง
เเต่เฟยหลงที่เห็นสัตว์อสูรกำลังพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เจ้าช้าไปก้าวหนึ่ง ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบฝ่ามือที่เปร่งเเสงสีฟ้าอ่อนได้สบัดไปทางสัตว์อสูร
” สะบั้นวายุ ”
เเละตอนนั้นก็ได้มีคลื่นดาบที่เเฝงไปด้วยพลังปราณของเฟยหลงเเละพุ่งผ่านลำคอของสัตว์อสูรตนนั้นอย่างรวดเร็ว
” พรึบ ”
สัตว์อสูรที่ถูกเฟนหลงโจมตียังไม่ตายโดยทันทีเเต่รวบรวมพลังที่เหบืออยู่ทั้งหมดคิดจะลากเฟยหลงไปด้วย
” โฮก ”
เเต่เฟยหลงได้คาดเอาไส้เเล้วว่าจะต้องมีเรื่องเเบบนี้เกิดขึ้นเเละตอนนั้นเองสัตว์อสูรก็ได้เห็นว่ามืออีกข้างของเฟยหลงก็เปร่งเเสงเหมือนกัน
” แกอย่าคิดว่าข้านั้นไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้สิว่าเเกนั้นจะทำอะไร ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้สบัดฝ่ามือในเเนว
นอนเเละปล่อยคลื่นดาบออกไป
” สะบั้นวายุ ”
สัตว์อสูรได้รู้สึกว่าช่วงขีวิตสุดท้ายก่อนมันตายสิ่งที่มันนึกเสียใจที่สุดก็คือการมาหาเรื่องกับมนุษย์คนนี้
เเม้ว่าในช่วงขีวิตของมันจะเคยสังหารมนุษย์มาเเล้วหลากหบายคนเเต่ไม่คิดว่าวันหนึงตัวมันเองนั้นจะจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของมนุษย์
” ตุบ ”
เสียงร่างกายของสัตว์อสูรได้ล้มลงไปเฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงเจ้าไปเก็บเเก่นอสูรเเละนำเนื้อของมันมาบางส่วน
เวลาได้ล่วงเลยไปด้านหน้าเฟยหลงได้มีเศษกระดูกของสัตว์อสูรตั้งอยู่
เเละมีกองไฟที่มอดไหม้อยู่ตรงข้ามกับเศษกระดูกเฟยหลงได้นั่งเเหงนมองท้องฟ้าเเละกล่าวออกมา
” ถึงเเม้ว่าข้าจะสามารถสังหารสัตว์อสูรตนนั้นได้เเต่ทักษะยุทธ์ที่ข้าได้ใช้นั้นมันเผาผลาญพลังปราณของข้าไปเยอะเหมือนกันก่อนใช้ต้องคิดให้รอบคอบหน่อย ”
ทักษะยุทธ์ที่เฟยหลงได้ใข้กำตัดสัตว์อสูรตนนั้นมีชื่อว่า สะบั้นวายุ ซึ่งเป็นทักษะยุทธ์ระดับวิญญาณขั้นสูงเเละเป็นทักษะที่เฟยหลงเคยใช้เมื่อชีวิตที่เเล้ว
นี้จึงเป็นเหตุผลที่เฟยหลงสามารถใช้ทักษะยุทธ์นั้นได้อีกในขีวิตนี้โดยไม่ผ่านการฝึกฝน
เเละทักษะยุทธ์หมัดทลายศิลากับก้าวพริบตานั้น
ที่เฟยหลงต้องมาฝึกฝนอีกครั้งเพราะว่าตัวเขานั้นได้ทักษะยุทธ์นี้มาหลังจากอยู่ขอบเขตวิญญาณเเล้ว
ทำให้ทักษะยุทธ์เหล่านี้ที่เเม้ว่าจะเป็นระดับสูงในขอบเขตก่อกำเนิดเเต่ทักษะยุทธ์นั้นเทียบไม่ได้เเม้เเต่ทักษะยุทธ์ระดับวิญญาณขั้นต่ำ
เฟหยลงที่เห็นว่าควรเรี่มการทะลวงขั้นได้เเล้วก็เริ่มลงมือทันที
” มาเริ่มกันเลยเถอะ ”
พลังปราณที่อยู่ในอากาศได้ถูกเฟยหลงดูดซับเจ้ามาเเลัตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้หยิบเม็ดยาเม็ดหนึ่งออกมาจากถุงมิติ
ในดวงวิญญาณของเฟยหลงตอนนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงเพราะเเม้ว่าเฟยหลงจะสูญสิ้นพลังปราณจนหมดในเหตุการณ์ตรงหน้าผาบรรพกาล
เเต่ดวงวิญญาณของเฟยหลงนั้นได้หนีรอด
ออกมาเเละเข้ามาสิงยังร่างใหม่นี้โดยที่ดวงญวิญาณ
นั้นของเฟยหลงไม่ได้รับความเสียหาญเลยหลังจากตรวสสอบเฟยหลงก็พบกับข้อได้เปรียบนี้
ซึ่งขอบเขตวิญญาณนั้นจะเป็นการทำให้ดวงวิญญาณของคนๆนั้นมีความเเข็งแกร่งเเละบริสุทธิ์ขึ้นเเละทำให้พลังปราณบริสุทธิ์พร้อมกับมีความหนาเเน่นเพิ่มขึ้นอีก
” ข้าจะต้องทำมันให้สำเร็จ ”
เเต่ดวงวิญญาณของเฟยหลงได้ก้าวผ่านมาเเล้วทำให้การก้าวผ่านครั้งนี้นั้นเหมือนกับการท้าทายสวรรค์เเล้วทำให้เกิดเสียงดังขึ้นจากบนท้องฟ้่า
” โครม โครม “