สัตว์อสูรที่เกิดจากค่ายกลนี้กำลังต่อสู้กับเจียหงที่ไม่ยอมเเพ้เเละตั้งใจจะทำลายค่ายกลนี้ให้ได้เพื่อพิสูจน์ว่าค่ายกลนี้นั้นไม่เเข็งแกร่งเท่าที่เฟยหลงกล่าวออกมา
” โฮกกกกกกกก ”
สัตว์อสูรได้คำรามออกมาเเละปล่อยพลังปราณออกมาก่อรูปขึ้นคล้ายกับบอลน้ำพุ่งเข้าใส่ตัวเจียหง
ตัวเจียงหงเองได้พยามป้องกันบอลน้ำเหล่านั้นเเล้วเเต่ยังมีบางลูกที่โดนตัวของนางเเละทำให้มีอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้คิดในใจว่า
” ข้าว่าเเค่นี้คงจะพอเเล้วละถ้ามากไปกว่านี้ถึงเเม้ข้าจะสามมารถควบคุมค่ายกลได้อย่างง่ายดายเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับชีวิตนาง ”
” เเต่สำหรับตัวนางในตอนนี้นั้นเวลาคือสิ่งมีค่าที่ไม่อาจเสียไปได้อย่างเปล่าประโยชน์ ”
เฟยหลงที่เห็นว่าตัวเจียงหงในตอนนี้ได้มีสภาพยุ่งเหยิงมากเมื่อเทียบกับตอนเเรกจึงตัดสินใจหยุดค่ายกลนี้
ตัวเจียงหงที่กำลังเผชิญหน้ากับค่ายกลที่เเข็งแกร่งนี้เเม้ว่าจะสามารถต่อสู้กับมันได้เเต่สุดท้ายเเล้วตัวค่ายกลที่เเท้จริงนั้นไม่ได้รับความเสียหายเเม้เเต่น้อย
เมื่อสัตว์อสูรที่เกิดจากค่ายกลได้สลายหายไปเจียงหงก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเฟยหลงนั้นได้เป็นคนหยุดค่ายกลเอาไว้เเล้วกล่าวถามออกมาด้วยความไม่ยินยอม
” ทำไมถึงหยุดค่ายกลละข้าเกือบเอาชนะมันได้เเล้ว ”
เฟยหลงที่เห็นว่าตัวเจียงหงนั้นยังดื้อรั้นที่จะสู้กับสัตว์อสูรที่เกิดจากค่ายกลที่เขาสร้างขึ้นมาต่อก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เเม้ว่าเจ้าจะสู้ต่อไปผลลัพธ์นั้นได้กำหนดไว้เเล้วว่าด้วยตัวของเจ้าตอนนี้นนั้นไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้อย่างเเน่นอน ”
เจียหงยังไม่ฟังคำกล่าวจองเฟยหลงเเละใช้กระบี่ของตัวนางชี้มาทางเฟยหลงพร้อมกล่าวออกมา
” เจ้าคิดว่าตัวข้าจะพ่ายเเพ้เพราะเรื่องเเค่นี้เหรอข้านั้นไม่……………… ”
ก่อนตัวนางจะได้กล่าวจบก็ได้ไอออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ซีดลง
” เเค่ก เเค่ก ”
เฟยหลงที่เห็นว่าตัวเจียงหงนั้นยังคงดื้อดึงว่าจะสู้ต่อเเทนที่เฟยหลงจะโกรธกลับกลายเป็นว่าตัวเฟยหลงนั้นยิ่งชื่นชอบนางขึ้นไปอีกเเละคิดว่า
” ตัวนางนั้นไม่มีทางยอมเเพ้กับสิ่งที่รู้อยู่กับใจว่าตนนั้นไม่มีทาทำลายค่ายกลนี้ได้เเต่กลับไม่เลือกยอมเเพ้เเละเผชิญหน้ากับมันบวกกับพรสวรรค์ที่มีอยู่………………. ”
” นี่อาจจะเป็น………….. ลูกศิษย์ที่ข้าเฟยหลงต้องการก็ได้ ”
เเม้ว่าในชัวิตที่เเล้วของเฟยหลงนั้นจะเป็นเซียนที่อยู่บนจุดสูงสุดเเต่ตัวเขานั้นก็มีเป็นคนที่เรียกได้ว่าไม่มีลูกศิษย์เเบบจริงๆเลยเเม้เเต่คนเดียว
เพราะว่าตัวเฟยหลงในชีวิตนี้เเละชีวิตที่เเล้วไม่เเตกต่างกันเลยที่ไม่สารถจดจำได้ว่าครอบครัวของตนคือใคร
เฟยหลงได้เห็นว่าเจียงหงนั้นมีอาหารบาดเจ็บอยู่บ้างถึงเเม้ว่าจะสามารถรักษาให้หายได้ซึ่งต้องใช้เวลาไม่มากโดยเม็ดยาที่เฟยหลงปรุงขึ้นมา
” รับสองสิ่งนี้ไปเเล้วกลับไปพักซะเถอะถ้าเจ้าอยากจะทำลายค่ายกลอีกเจ้าก็มาได้ทุกเมื่อ ”
สิ่งที่เฟยหลงนั้นได้ใช้พลังปราณโยนให้กับตัวเจียงหงก็คือเม็ดยาเเละสูตรเม็ดยาที่เฟยหลงได้สร้างขึ้นมาในชิวิตก่อนซึ่งระดับไม่ได้สูงมาก
เจียงหงที่เห็นทั้งสองสิ่งที่เฟยหลงได้มอบให้กับนางนั้นก็ได้กล่าวถามกลับไปว่า
” ทำไม…………….. ถึงให้สิ่งเหล่านั้กับข้า ”
เฟยหลงไม่ได้กล่าวอะไรให้มากความต่อไปเเล้วเดินไปยังคฤหาสน์
เจียงหงที่เห็นดังนั้นจึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นจนอยากเขวี้ยงสิ่งที่เฟยหลงให้มาทิ้งเเต่สุดท้ายเเล้วก็ได้เเต่ลดมือที่กำลังเขวี้ยงสิ่งเหล่านั้นลง
เเละมองเฟยหลงที่เดินจากไปอย่างเงียบๆเเล้วก้มหน้าลงมองทั้งสองสิ่งที่เฟยหลงมอบให้โดยกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงที่เบาอย่างมาก
” ข้า………….จะก้าวข้ามท่านให้ได้คอยดูมันต้องมีสักวันที่ข้าทำสำเร็จ………..ท่านอาจารย์ ”