ทางด้านเฟยหลงนั้นได้เดินเจ้าไปยังคฤหาสน์เหลือเพียงเเค่ซูซ่านเสี่ยวไป๋เเละเจียงหงมี่ตอนนี้กำลังมองหน้ากัน
ซูซ่านที่เห็นว่าเจียงหงนั้นไม่ได้ขยับเเละยืนอยู่กับที่ก็ได้กล่าวถามขึ้นมา
” พี่สาวเจียงท่านรีบไปรักษาตัวก่อนเถอะถ้ายืนอยู่เเบบนี้อาการบาดเจ็บมันอาจจะเเย่ลงก็ได้ ”
เจียงหงนั้นรู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของนางนั้นไม่ได้สาหัสถึงขั้นนั้นเำราะนางก็เป็นถึงนักปรุงยาคนหนึ่งถ้าไม่สามารถรู้ว่าตัวนั้นมีสภาพเป็นยังไง
ชีวิตนี้ของตัวเจียงหงคงจะไม่ขอกลับไปปรุงยาอีกเลยเเต่ในเมื่อซูซ่านหญิงสาวที่นางนั้นเห็นเป็นน้องสาวคนหนึ่งได้กล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงจึงกล่าวตอบกลับไปว่า
” อืม…………… ข้าเเค่คิดเรื่องราวอะไรนิดหน่อยนะ ”
ซูซ่านที่เห็นว่าเจียงหงนั้นยังทำตัวสบายใจทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บอยู่นั้นจึงได้ไปดควตัวเจียงหงให้เดินตามนางไปพร้อมกล่าวออกมา
” รีบไปเถอะพี่สาวเจียงอย่ายืนนิ่งเเบบนั้น ”
เจียงหงได้เดินตามซูซ่านไปเเต่เเล้วเมืาอเดินมาได้ชั่วครู่ซูซ่านก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเเผ่วเบา
” คือว่า………….. ห้องของพี่สาวเจียงไปทางไหน…….. ”
เจียงหงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยเเล้วหล่าวออกมาว่า
” อยู่ห้องนั้น ”
เเละเจียงหงก็ได้ชี้นิ้วของนางไปที่ห้องข้างๆเเละกล่าวออกมา
” ข้ายกห้องนี้ให้เจ้าละกัน ”
…………………………….
วันเวลาผ่านไปซูซ่านเฟยหลงเสี่ยวไป๋เเละเจียงหงนั้นได้ทำการบ่มเพาะกันอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะทางด้านเฟยหลงนั้นได้สอนเต๋าเเห่งการปรุงยาเเละเทคนิคลับให้กับตัวเจียงหงไปเล็กน้อยเเต่สำหรับตัวเจียงหงเเล้วนั้นมันกลับเป็นสิ่งที่เปิดโลกเเห่งความรู้ใบใหม่ให้กับนาง
เเม้ตอนเเรกเจียงหงคิดว่าเฟยหลงคงถ่ายทอดการปรุงยาที่ตัวนางคิดว่าอาจจะเหนือกว่าของปู่นางเเต่ไม่น่าจะมากนัก
สุดท้ายเเล้วความคิดเหล่านั้นได้หายไปหลังจากที่ตัวนางได้รับรู้เรื่องราวต่างๆจากเฟยหลง
” เฮ้อ……………. ตัวท่านอาจารย์นั้นมีความรู้มากเเค่ไหนกันนะเทียบกันตัวข้าเเล้วคงเหมือนที่ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่าตัวข้าเเค่กบก้นบ่อน้ำที่เห็นเพียงท้องฟ้าในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น ”
ตัวเจียงหงนั้นที่ได้เดิมพันกับเฟยหลงว่าถ้านางเเพ้ต้องเรียกตัวเฟยหลงว่าท่านอาจารย์ซึ่งผลลัพธ์ก็เฟยหงได้ชนะการเดิมพัน
ทำให้ตัวเจียงหงต้องเรียกเฟยหลงว่าท่านอาจารย์เเม้ตอนเเรกเจียงหงนั้นจะรู้สึกแปลกๆที่ต้องเรียกเฟยหลงว่าท่านอาจารย์
เเต่เมื่อเวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆเจียงหงกลับเรียกเฟยหลงว่าท่านอาจารย์ได้อย่างราบเรียบเเตกต่างกับตอนเเรกที่เฟยหลงสอนเต๋าเดห่งการปรุงยาให้นาง
” ตู้ม ”
ตอนนั้นเองที่ลานเเห่งหนึ่งในเขตของคฤหาสน์เจียงหงได้เห็นเหล่าพลังปราณจำนวนมากถูกดูดกลืนเข้าไปยังใจกลางที่มีเฟยหลงนั่งอยู่
เจียหงท่เห็นเหตุการณ์นี้ได้กล่าขึ้นมาว่า
” ท่านอาจารย์คงจะทะลวงขั้นพลัง ”
เเละในตอนนั้นเองตัวซูซ่านได้เดินออกมาจากคฤหาสน์เเละมองไปยังทิศทางที่มีกลังปราณจำนวนมากรวมอยู่
เเล้วกลับมามองเจียหงที่กำลังมองไปทางเดียวกับตัวนางพร้อมกับกล่าวออกมา
” ท่านพี่เฟยหลงคงทะลวงขั้นพลังอีกเเล้วใช่ไหมพี่สาวเจียง ”
เจียหงได้ตอบกลัลไปว่า
” ใช่เเล้วตัวข้านั้นไม่สามารถเทียบกับตัวท่านอาจารย์ได้เลย ”
เเละตอนที่เจียงหงกำลังพูดอยู่นั้นเองเฟยหลงได้มาปรากฏตัวอยู่ทางด้านหลังของทั้งพร้อมกล่าวว่า
” เจ้าอย่าได้ดูถูกตัวเองไปที่ข้าสามารถทะลวงขั้นพลังได้อย่างราบรื่นเเละรวดเร็วเป็นเพราะเหตุผลบางอย่าง ”
” ซึ่งมันเป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้ข้าได้พบเจอกับสิ่งเหล่านั้น ”
เจียงหงได้เเอบบ่นอยู่ในใจว่า
” ท่านอาจารย์ชอบทำตัวเหมือนพวกนักปราชญ์ที่รอบรู้มากมายราวกับว่ามีชีวิตมายาวนาน “