ข่าวการบุกโจมตีของสัตว์อสูรก่อนเวลาได้เเพ่รขยายไปทั่วเมือหลวง
” ทำไมครั้งนี้สัตว์อสูรเหล่านี้ถึงบุกมาโจมตีเร็วขึ้นกว่ากำหนด ”
” ใช่ครั้งนี้มันเเปลกมากเพราะอะไรกันถึงทำให้เกิดการบุกโจมตีก่อนกำหนด ”
” เเต่ที่เเน่นอนคือตอนนี้พวกชนชั้นสูงเเละราชวงศ์ได้ส่งทหารของตนไปเข้าต่อสู้กับสัคว์อสูรเเล้ว ”
” พวกเราได้เเต่หวังว่าการบุกโจมตีครั้งนี้จะจบลงโดยที่ทางกองทัพไม่เสียหายมากจนเกินไป”
เฟยหลงที่ได้ยินการพูดคุยของเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมาซึ่งพวกเจาเหล่านั้นกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวเดียวกัน
ทางด้านนเฟยหลงนั้นเเม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีของสัตว์อสูร
ซูซ่านเจียงหงหรือเเม้เเต่เสียวไป๋ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่จะต้องทำต่อไปจึงตัดสินใจกลับไปยังคฤหาสน์ของพวกเขา
เฟยหลงที่เดินอยู่อย่างเงียบสงบก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า
” เหล่าผู้คนในเมืองเเห่งนี้ที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับสัตว์อสูรบุกโจมตีนั้น………. ดูเหมือนว่าเมืองจะดูมีชีวิตชีวามากกว่า ”
เจียงหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวขึ้นมาเเบบนั้นจึงกล่าวตอบกลับไป
” ใช่เเล้วท่านอาจารย์ท่านน่าจะคิดว่าเมืองเเห่งนี้นั้นเป็นเเบบนี้เพราะสัตว์อสูรใช่หรือไม่ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบเจียงหงตามที่ตนได้คาดการณ์เอาไว้
” ใช่เเล้วสัตว์อสูรบุกโจมตีเมืองชายเเดนทางตอนเหนือนั้นนั้นมันเป็นเรื่องที่ดีเเละร้าย ”
เจียงหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นจึงกล่าวถามว่า
” ทำไมท่านอาจารย์ถึงคิดเช่นั้นละ ”
เเต่ก่อนที่เฟยหลงจะกล่าวตอบดูเหมือนว่าตะช้ากว่าซูซ่านไปก้าวหนึ่ง
” ถ้าให้ข้าเดาละก็สัตว์อสูรที่บุกโจมตีนั้นเเม้ว่าจะมีความน่ากลัวอยู่มากเเต่สำหรับเหล่าคนที่ถือโอกาศนี้ให้เป็นประโยชน์โดยการล่ามันเเล้วนำส่วนต่างๆไปขาย…….. ”
เจียงหงไม่ได้คิดว่าซูซ่านจะกล่าวสิ่งที่ตัวซูซ่านคาดการณ์ออกมาอย่างถูกต้อง
” ใช่เเล้วเป็นอย่างที่น้องสาวซูกล่าวออกมา ”
เฟยหลงไม่ได้กล่าวขัดทั้งสองที่กำลังพูดคุยเรื่องราวต่างๆต่อไปเเละเดินไปพร้อมกันจนถึงคฤหาสน์เเละเเยกย้ายกันไปทำสิ่งที่ตนต้องการ
เฟยหลงนั้นได้เริ่มปรุงยาเเละบ่มเพาะอีกครั้งโดยที่ทางด้านเสี่ยวไป๋ซูซ่านเเละเจียงหงนั้นคงจะบ่มเพาะเหมือนกับตน
เวลาผ่านไปหลายวันจนกระทั้งเฟยหลงที่ออกจากการบ่มเพาะเเล้วได้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เเละจิบชาที่ตัวเขาเป็นคนชงมันขึ้นมา
ข้างๆมีเสี่ยวไป๋ที่กำลังต้องมองขวดหยกที่ด้านมนนั้นมีเม็ดยาจำนวนหนึ่งบรรจุอยู่ด้านใน
” อ๋าว ”
ซูซ่านเเละเจียงหงนั้นได้เดินมาทางเฟยหลงพร้อมกันซึ่งเฟยหลงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ทั้งสองไปสนิทกันตั้งเเต่ตอนไหน
เมื่อซูซ่านเเละเจียงหงสังเกตุเห็นเฟยหลงจึงกล่าวถามออกมา
” ท่านพี่เฟยหลงท่านมาอยู่ตรงนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่ ”
” ข้าไม่คิดว่าท่านอาจารย์จะมีด้านเเบบนี้เหมือนกัน ”
เฟยหลงได้วางถ้วยชาลงบนโต๊ะขนาดเล็กที่ทั้งสองไม่ทราบว่าเฟยหลงนั้นไปนำมันมาจากไหนกัน
” พวกเจ้านี้เองข้าออกมาจากการบ่มเพาะนานเเล้วเเต่ข้าไม่เห็นว่าพวกเจ้าทั้งสองไม่อยู่ในคฤหาสน์จึงได้หาสถานที่เเละนั่งจิบชาเพื่อรอ ”
เจียงหงที่ได้ยินเฟยหลงนั่งจิบชาอย่างสบายใจอยู่จึงกล่าวถามออกมาว่า
” ท่านอาจารย์ท่านรู้ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกับการบุกโจมตีของสัตว์อสูรเเล้วหรือไม่ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบกลับไปด้วยท่าทางอันเฉื่อยชา
” ไม่ข้ายังไม่ได้ออกจากคฤหาสน์เเห่งนี้ไปไหนเพียงเเค่นั่งจิบชาอยู่กับเสี่ยวไป๋ที่นั่งเป็นเพื่อนข้า ก็เท่านั้น ”
เจียงหงที่เห็นท่าทีของเฟยหลงไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี
” ตอนนั้นข้าคิดว่ากองทัพที่ส่งไปนั้นคงจะสามารถเอาชนะสัตว์อสูรเหล่านั้นได้เเค่สุดท้ายเเล้ว………….กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น