เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 159 เเค่อยากไปเดินเล่น

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวถามออกมาว่า

” มันเกิดอะไรขึ้น ”

เจียงหงจึงกล่าวตอบเฟยหลงด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม​

” จากข่าวที่เมืองชายเเดนทางตอนเหนือส่งมานั้นมีสัตว์อสูรจำนวนมากกว่าทักปีที่ผ่านมาบุกโจมตีป้อมปราการ​อย่าบ้าคลั้ง ”

” เหล่าทหารของกองทัพที่ถูกส่งไปนั้นพยามต่อสู้เพื่อซื้อเวลาให้มากที่สุดเเละให้ทางราชวงศ์​ส่งทหารไปเพิ่ม ”

เฟยหลงที่ได้ยินเรื่องราวจากเจียงหงจึงหลับตาลงครุ่นคิดเรื่อวราวต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นเวลาผ่านไปครึ่งก้านธูป

เฟนหลงได้ลืมตาเเละจ้องมองไปยังทางตอนเหนือซึ่งมีเมืองชายเเละป้อมปราการที่ใช้ป้องกันการบุกโจมตีของสัตว์อสูรพน้อมกับกล่าวออกมาว่า

” พวกเจ้าไปเตรียมตัวให้พรเอมข้าจะไปยังเมืองชายเเดนทางตอนเหนือในวันนี้ ”

เจียงหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวว่าจะไปเมืองชายเเดนทางตอนเหนือจึงรู้สึกสงสัยว่าจะไปทำไมเเม้จะคิดหาเหตุผลไม่ได้สุดท้ายจึงได้เเต่กล่าวถามออกมา

” ท่านอาจารย์​ท่านจะไปเมืองชายเเดนทางตอนเหนือทำไมที่เเห่งนั้นตอนนี้เป็นสนามรบระหว่างมนุษย์​กับสัตว์อสูรที่ต่อสู้อย่างบ้าคลั้งเพื่อเอาชีวิตของกันเเละกัน ”

เฟยหลงได้มองเจียงหงเเล้วกล่าวตอบกลับไป

” เพราะว่าพวกเจ้านั้นไม่ได้มีประสบการณ์​ในการต่อสู้กับสัตว์อสูรจำนวนมากเลยเเม้เเต่น้อยข้าจึงถือโอกาศนี้นำพวกเจ้าทั้งสามไปเรียนรู้ยังไงละ ”

เจียงหงที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงเเบบนี้ก็ได้เเต่งุงงงเเละไม่สามารถเข้าใจได้ว่าท่านอาจารย์​ของนางนั้นต้องการทำเเบบนั้นเพื่ออะไร

” ท่านต้องการทำอะไรกันเเน่ ”

เฟยหลงได้ยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับกล่าวว่า

” พวกเจ้าไม่ต้องคิดมากหรอกเเค่เอาเป็นว่าหาเวลาไปเดินเล่นก็เท่านั้น ”

ซูซ่านที่เงีนบมาตลอดก็ได้กล่าวตอบเฟยหลง

” งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะท่านพี่เฟยหลง ”

เสี่ยวไป๋ที่ตอนนี้กำลังกอดขวดหยกที่บรรจุเม็ดยาจำนวนหนึ่งอยู่ด้านในก็ได้เงยหน้าของมันขึ้นมาเเละร้อง

” อ๋าว ”

” พี่ใหญ่ไปไหนข้าไปด้วยขอเเค่มีเจ้าพวกนี้ก็พอ ”

ซึ่งสิ่งที่เสี่ยวไป๋หมายถึงนั้นก็คือเม็ดยาที่อยู่ในขวดหยกนั้นเอง

เจียงหงที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงจึงไปเตรียมพร้อมในเรื่องต่างๆอย่างรวดเร็ว

ซูซ่านก็ได้อุ้มเสี่ยวไป๋กลับไปเตรียมของบางอย่างเช่นกัน

เฟยหลงที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพังก็ได้เเต่นั่งจิบชาต่อไป

เวลาครึ่งชั่วยามได้ผ่านไปเจียงหงได้กลับมาพร้อมกับซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋เเล้วกล่าวออกมาว่า

” ท่านอาจารย์​ข้าเตรียมพาหนะสำหรับใช้ในการเดินทางเรียบร้อยเเล้ว ”

เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยความเเปลกสนใจ

” งั้นเหรอถ้าเตรียมเรียบร้อยเเล้วก็นำทางข้าไป”

เจียงหงที่ได้เห็นการกระทำที่เรียบเฉยเเละน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์​ดังขึ้นมาเเบบนี้จึงรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยซึ่งสุดท้ายได้เเต่ก่นด่าเฟยหลงในใจเพียงเท่านั้น

” ข้าจะรอดูว่าสิ่งนี้นั้นสามารถทำให้ท่านแปลกใจได้หรือไม่ ”

เจียงหงได้เดินนำมายังลานหน้าคฤหาสน์​ก็พบกับรถม้าที่มีสัตว์อสูรตัวหนึ่งลากรถจึงกล่าวออกมาว่า

” ดีเเล้วละที่เจ้าเลือกใช้สัตว์อสูรเพราะว่าพวกมันนั้นสามารถลากรถม้าได้ดียิ่งกล่าวม้าธรรมดาเหล่านั้นเเละดูเหมือนว่าเจ้าตัวนี้ก็มีพลังพอควรด้วย ”

เจียงหงที่ได้ยินคำกล่าวจองเฟยหลงนั้นก็ได้เเต่ยอมเเพ้ไปในที่าุดเพราะว่าตอนนี้นั้นไม่มีอะไรที่ตนสามารถทำให้ท่านอาจารย์​ของนางเเปลกใจได้เลย

เเต่ว่าสุดท้ายเเล้วอนาคตนั้นย่อมไม่เเน่นอน

ซูซ่านที่เห็นสัตว์อสูรจึงเข้าไปไปใกล้เเละมองดูอย่างสนใจเพราะว่าตัวนางนั้นไม่เคยได้เห็นสัตว์อสูรที่เป็นมิตรกับมนุษ​ย์ยกเว้นเสี่ยวไป๋

สัตว์อสูรตัวนั้นได้กวาดตามองเฟยหลงเจียงหงเเละซูซ่านรวมถึงเสี่ยวไป๋ด้วยเเต่ว่าตัวมันนั้นหยุดสายตาอยู่ที่ซูซ่านนานกล่าวคนอื่นเล็กน้อย

เฟยหลงที่เห็นว่าทุกคนเตรียมพร้อมเเล้วนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า

” ออกเดินทางเถอะ “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท