เมื่อหัวหน่าทหารยามคนนั้นได้ยินเช่นนั้นก็มีภาพของโรงประมูลหวังเปาโผล่เข้ามาในความคิดของตนทันที
เมื่อจำได้เเล้วว่าเจียงหงนั้นเป็นหลานสาวตนหนึ่งของผู้อาวุโสชางฟู่ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงสุดในโรงประมูล
” ข้าขออภัยด้วยคุณหนูเจียงที่ข้าไม่ได้รับรู้ว่าท่านมายังเมืองเเห่งนี้ทางเราจะได้เตรียมการต้อนรับไว้ก่อน ”
เจียงหงได้เเสดงสีหน้าเรียบเฉยเเละโบกมือให้พร้อมกล่าวออกมาว่า
” ไม่เป็นไรข้าเเค่อยากมาเเบบเงียบเชียบเพื่อไม่เป็นจุดสนใจ ”
หัวหน้าของทหารชายเเดนคนนั้นได้กล่าวตอบเจียงหงกลับไป
” ข้าน้อยทราบเเล้วขอรับ ”
เมื่อกล่าวจบก็ได้ส่งสัญญาณมือให้ทหารยามเหล่านั้นเปิดทาง
เฟยหลงที่เห็นว่าในที่สุดก็สามารถเข้ามายังด้านในของเมืองชายเเดนได้จึงกล่าวออกมาว่า
” เเล้วพวกเราจะไปไหนกันต่อละ ”
เจียงหงที่ได้ยินดังนั้นจึงได้กล่าวตอบกลับไป
” มุ่งหน้าไปทางนั้นเเล้วเจ้าจะเจอกับบ้านหลังหนึ่งที่ท่านปู่ของข้าซื้อไว้สำหรับมาพักผ่อนเมื่อมาเมืองชายเเดนทางตอนเหนือ ”
รถม้าที่ถูกลากโดยสัตว์อสูรระดับสูงนั้นเป็นจุดเด่นอย่างยิ่งเมื่อเข้ามายังภายในเมือง
” ผู้มีอำนาจท่านไหนกันถึงมายังเมืองชายเเดนในตอนนี้ ”
” ใช่ตอนนี้สัตว์อสูรนั้นบุกโจมตีทางป้อมปราการอย่างบ้าคลั้งทางฝั่งเราได้เปรียบเพราะกำแพงเมืองเเละกับดักต่างๆที่เตรียมไว้ระหว่างที่พวกมันถอยกลับไป ”
” ชั่งเถอะรู้ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยว่าคนในรถม้านั้นมาทำไม ”
้เท่าที่เฟยหลงสังเกตุเห็นตอนนี้คือเหล่าทหารที่เดินลาตะเวนอย่างต่อเนื่องในเมืองพร้อมกับบรรยากาศที่เคร่งเครียดราวกันว่าจะมีการบุกของสัตว์อสูรตลอดเวลา
เเละเท่าที่สังเกตุเห็นทหารเหล่านั้นมีระเบียบวินัยอย่างมากไม่มีคนที่ทำตัวเกียจคร้านเลยเเม้เเต่น้อย
” ทหารเดินล่าตะเวนกระจายทั่วเมืองเยอะเเยะบรรยากาศเมืองนี้ก็ไม่ถืิว่าหดหู่เท่าที่ดูจากโรงเตี๊ยมที่หนาเเน่นไปด้วยผู้คน ”
ซูซ่านที่ได้เห็นบรรยากาศเหล่านี้ผ่านทางหน้าต่างของรถม้าก็ได้กล่าวออกมา
” ท่านพี่เฟยหลงทำไมพวกเขาเหช่านั้นถึงยังดื่มฉลองกันอย่างมีความสุขละ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” นั้นก็เพราะว่าพวกเขานั้นฉลองกันการที่ตนนั้นยังมีชีวิตอยู่เเละพวกเขาก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นั้นจะได้มีโอกาศกลับมาฉลองอีกหรือไม่ ”
เมืองชายเเดนมีประชากรอยู่น้อยกว่าเมืองหลวงเเต่ส่วนใหญ่จะเป็นเหล่าผู้ที่ผ่านทางมาหรือไม่ก็เป็นทหารที่ประจำการอยู่นะเมืองเเ่ห่งนี้
เสี่ยวไป๋ที่นอนหมอบอยู่ด้านข้างเฟยหลงมาตลอดก็ได้ร้องออกมา
” อ๋าว ”
ดวงตาของมันที่กำลังมีท่าทีจะหลับได้ตลอดเวลาจนกระทั้งมาถึงยังบ้านหลังหนึ่งที่เเม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าคฤหาสน์ในเมืองหลวง
เเต่ที่เเห่งนี้ให้ความรู้สึกร่มรื่นเรียบง่ายเเตกต่างจากเมืองหลวงที่วุ่นวายอยู่ตลอกเวลา
เมื่อพวกเฟยหลงได้เเยกย้ายกันไปทำสิ่งต่างๆที่ตนต้องการเรียบร้อยเเล้วก็ได้มารวมตัวกันเพราะว่าเจียงหงนั้นจะพาไปหาคนๆหนึ่ง
” ท่านพี่เฟยหลงท่านคิดว่าพี่สาวเจียงนั้นจะพาพวกเราไปพบใครกันเหรอ ”
เฟยหลงได้ตอบซูซ่านกลับไปว่า
” ข้าก็ไม่รู้เหมืินกันทำไมเจ้าไม่ถามนางละ ”
ทั้งสี่ได้ขึ้นรถม้าที่ถูกลากโดยสัตว์อสูรตรงไปยังทางตอนเหนือของเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบเเละตรงกลางมีป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
รถม้าที่ถูกลากมาโดยสัตว์อสูรได้ถูกปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดายเเละเจียงหงก็ได้เดินออกมาจากรถม้าพร้อมกับกล่าวออกมาว่า
” ที่นี่เเหละที่ข้าจะพาท่านอาจารย์กับน้องสาวซูมาทำความรู้จักคนผู้หนึ่งไว้ ”
เฟยหลงซูซ่านเสี่ยวไป๋ได้เดินตามเจียงหงไปพบกับกับบุคคลผู้หนึ่งซึ่งดูจากสถานที่เเห่งนี้ที่คนผู้นั้นต้องมีอำนาจมากพอตัวในเมืองชายเเดนเเห่งนี้