ซูซ่านที่ได้ยินคำตอยของเฟยหลงก็กล่าวถามอย่างสงสัย
” การเดินของพวกสัตว์อสูรมีอะไรแปลกเหรอท่านพี่เฟยหลง ”
เจียงหงก็ได้กล่าวถามออกมาเหมือนกัน
” ใช่เเล้วมันมีอะไรเเปลกไป ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบคำถามของทั้งสองว่า
” สัตว์อสูรถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ทีจำนวนมากเกินไปทำให้พวกมันต่อสู้เเย่งชิงแห่งอาหารกันเเม้ว่าจะออกมาโจมตีเมืองเเห่งนี้ทุกปีเเต่……… ”
เฟยหลงได้มองเหล่าสัตว์อสูรที่กำลังพยามฝ่าเเนวป้องกันออกมา
” มีสิ่งหนึ่งต่างออกไปในครั้งนี้นั้นก็คือการเดินของพวกมันมีระเบียบเเบบเเผนกว่าการบุกเเบบบ้าคลั่งที่ไม่สนใจอย่างอื่น ”
เจียงหงเเละซูซ่านที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงได้เเต่จ้องมองกันเเล้วก็มีถามคำถามที่เหมือนกันออกมาในเวลาเดียวกัน
” ถ้างั้นเเปลว่ามีใครหรืออะไรคอยสั่งการพวกมันอย่างงั้นเหรอ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบทั้งสองคนกลับไปว่า
” นั้นเป็นเพียงการคาดการณ์ของข้าเท่านั้นส่วนความจริงนั้นต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง ”
เจียงหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาว่าเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นเเต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงทำให้เจียงหงรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อเฟยหลงได้ยืนมองการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสัตว์อสูรอยู่จนเวลาผ่านไปเเละกล่าวออกมาว่า
” พวกเรากลับกันเถอะ ”
ซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋ได้เดินตามเฟยหลงไปอย่างรวดเร็วเจียงหงนั้นได้มองกำแพงอีกครั้งก่อนจะรีบเดินตามพวกเฟยหลงไป
เเต่เเล้วตอนนั้นเองที่มีเสียงระเบิดที่ดังสนั่นเกินขึ้น
” ตู้ม………………. ”
เหล่าทหารบนกำแพงเมืองได้รู้สึกตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมาเเละเสียงคำรามดังขึ้น
” โฮกกกกกกกกกกกกกก ”
รองเเม่ทัพที่ประจำการอยู่ตอนนั้นก็ได้ตะโกนเรียกทหารคนหนึ่งให้ไปส่งข่าว
” รีบไปเร็วเข้าบอกกับท่านเเม่ทัพเร็วว่ามีสัตว์อสูรระดับสูงบุกมา ”
ทหารนายนั้นได้กล่าวตอบรับเเละรีบจากไป
” ขอรับท่ารองเเม่ทัพ ”
เฟยหลงได้มองไปยังตรงด้านหลังของกองทัพสัตว์อสูรเเละได้เห็นหมาป่าขนาดใหญ่ที่มีขนสีดำสนิทเหมือนท้องฟ้าที่มืดมิดตอนกลางคืน
มันได้จ้องมองมาทางด้านกำแพงขนาดใหญ่ที่ขางกั้นอยู่เหล่าสัตว์อสูรที่กำลังเดินอยู่ได้หบีกทางให้ปกับสัตว์อสึรหมาป่าตัวนั้น
ในดวงตาของสัตว์อสูรตนนั้นมีความหวาดระเเวงจดจ้องทางด้านกำแพงที่ขวางกันอยู่เหมือนกับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเเม้จะน้อยนิด
ดังนั้นสัตว์อสูรหมาป่าก็ได้คำรามออกมา
” โฮกกกกกกกกกกกกก ”
เหล่าวัตว์อสูรที่กำลังบุกโจมตีอย่างบ้าคลั้งอยู่นั้นก็ได้เริ่มคำรามออกมาเช่นกัน
” โฮกกกกกกก ”
” แกว๊กกกก ”
…………………….
เสียงคำรามของสัตว์อสูรได้ทวีความรุนเเรงยิ่งขึ้นเเละพวกมันก็เร่งความเร็วของการบุกขึ้นอย่างบ้าคลั้งกว่าเก่า
เจียงหงที่เห็นสถานการณ์ในตอนนี้ก็ไดเกล่าวออกมาว่า
” ไม่ดีเเน่สัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นเพียงเเค่เสียงึำรามก็กล่าวได้ว่าเหนือยิ่งกว่าขอบเขตวิญญาณไปไกลเเล้ว……………. ”
เฟยหลงได้จ้องมองสัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นเเล้วกว่าออกมาว่า
” ขอบเขตหลอมรวม………. ”
เพียงเเค่เสียงคำรามก็สามารถทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกกดดันอย่างมาก
เเม้เเต่เจียงหงก็ยังย่นคิ้วของนางลงซูซ่านก็ได้มองไปทางที่าัตส์อสูรหมาป่าตัวนั้นอยู่เช่นกันส่วนทางด้านเสี่ยวไป๋ตอนนี้นั้นกำลังจ้องมองเหล่าสัตว์อสูรตั้งหลายรวมถึงสัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นด้วย
ซูซ่านที่เห็นว่าเฟยหลงยังยืนนิ่งอยู่จึงกล่าวถามออกไป
” ท่านพี่เฟยหลงพวกเราจะทำยังไงดี ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบซูซ่านกลับไปสั้นๆว่า
” เพียงเเค่รอเท่านั้น ”
ซูซ่านไม่เข้าใจว่าเฟยหลงนั้นยังสงบอยู่เพราะอะไรเเละเมื่อมองเจียงหงก็เห็นว่ายังยืนนิ่งเหมือนเฟยหลงจึงได้เเต่เก็บความสงสัยเอาไว้
จนกระทั่งเฟยหลงได้ก่าวออกมาว่า
” มาเเล้ว “