เหล่าทหารที่กำลังต่อสู้อยู่เริ่มล่าถอยไปยังช่องว่างของค่ายกลลวงตาที่ถูกเฟยหลงสรา้งขึ้นมาเเละพยาทคงความเสถียพรมันเอาไว้
” รีบไปเร็วเข้า ”
จ้าวเฉินไดก็ได้กล่าวถามออกมาว่า
” ช่องว่างนี้จะคงอยู่ได้อีกนานเเค่ไหน ”
เฟยหลงได้ลองคำนวณเวลาทั้งหมดที่ตนน่าจะสร้างได้เพราะตอนนี้พลังปราณเเละพลังวิญญาณของเฟยหลงนั้นเป็นเพียงเเค่ขอบเขตวิญญาณเท่านั้น
การที่สามารถเเทรกเเทรงค่ายกลลวงตานี้เเล้วเฟยหลงต้องใช้ความสามารถที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
” เวลาที่มีทั้งหมดเพียงเเค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น ”
เจียงเเละซูซ่านที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวถามเฟยหลงออกมา
” ท่านพี่เฟยหลงเเล้วหลัจากนี้พวกเราจะต้องทำอย่างไรดี ”
” ท่านอาจารย์ถ้าหนีออกจากค่ายกลลวงตานี้เเล้วเรียบร้อยพวกเราจะทำอย่างไรต่อไป ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบทั้งสองกลับไปว่า
” ข้าก็พอจะมีเเผนการอยู่บ้างไม่มาก็น้อย ”
เเละเฟยหลงได้มองทหารซ่กศพเหล่านี้ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมซึ่งมีเพียงเเต่ตัวเฟยหลงเท่านั้นที่ได้ยิน
” ไม่คิดเลยว่าพวกมันยังจะเริ่มเคลื่อนไหวในยุคนี้หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ”
” สงครามครั้งนั้นจะต้องปรากฏออกมาอีกอย่างเเน่นอนเมื่อถึงเวลานั้น…………………………. ”
เฟยหลงได้เงัยบไปเเล้วกล่าวกับซูซ่านเเละเจียงหงว่า
” พวกเราก็รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ”
ซูซ่านเเละเจียงหงได้ตอบกลับมาพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
” ค่ะท่านพี่เฟยหลง ”
” ค่ะท่านอาจารย์ ”
เฟยหลงได้ใช้พลังปราณที่เหลืออยู่ไม่มากในตอนนี้ในการเเสดงทักษะยุทธ์อย่างหนึ่งออกมา
เเล้วรีบฝ่าออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเฟยหลงออกมาไม่นานเเล้วช่องว่างนั้นก็คอ่ยๆหายไปในที่สุด
เเต่ว่าพวกทหารซากศพเหล่านั้นเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากค่ายกลลวงตานี้เลยเเละตามพวกเขาออกมาจากอย่างรวดเร็ว
” โฮกกกกกกกกกกกก ”
” โกร๊วววววววววววววววว ”
เสียงคำรามต่างๆดังก้องไปทั่วเหล่าทหารของจ้าวเฉินที่ออกมาจากค่ายกลลวงตาได้เรียบร้อยเเล้วก็รีบจัดขวบนทัพตั้งรับการโจมตีของทหารซากศพเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
” เร็วเข้าจัดกระบวนทัพ ”
” ตั้งเเนวป้องกันทหารซากศพเหล่านี้ ”
จ้าวเฉินที่กำลังจะเข้าไปโจมตีเหล่าทหารซากศพด้วยพลังของตัวจ้าวเฉินนั้นบวกกับขวานศึกขนาดใหญ่
ไม่มีทหารซากศพตนไหนเลยที่สามารถหยุดยั้งได้เเต่เเล้วตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้กล่าวออกมา
” ท่านเเม่ทัพจ้าวข้าว่าท่านควรเก็บเเรงไว้สู้จะดีกว่า ”
เหตุที่เฟยหลงได้กล่าวออกไปแบบนั้นเพราะว่าเผ่าปีศาจตนนั้นสามารถควบคุมทหารซากศพได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้คงจะมีพลังอยู่ที่ขอบเขตหลอมรวบ
เป็นอย่างน้อยเเน่นอนทหารซากศพหลายร้อยได้ตกตายลงเรื่อยๆเเละทางทหารของจ้าวเฉินก็เช่นกันเพียงเเต่ว่า
” ทหารซากศพเหล่านี้นั้นไม่ได้มีสติปัญญาเท่ากับตอนที่มีชีวิตอยู่เเต่ว่าสิ่งที่พวกเรามีนั้นคือสิ่งที่พวกมันไม่มีเเม้ว่าพวกมันตะเเข็งแกร่งมากถ้าสู้กันเเบบตัวต่อตัว ”
” เเต่พวกเรายังมีกระบวนทัพหลากหลายรูปแบบจงใช้มันรับมือกับทหารซากศพพวกนี้ซะ ”
จ้าวเฉินได้กล่าวออกมาเพื่อกระตุ้นทหารของเขา
ทหารของจ้าวเฉินได้ใช้กระบวนทัพต่างๆรับมือกับทหารซากศพที่ไม่มีสติปัญญาเหล่านี้ได้อย่างดีเเต่เนื่องด้วยจากการที่กลายเป็นทหารซากศพเเล้วพลังของคนๆนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมายทำให้ทั้งสองฝั่งตอนนี้
เฟยหลงได้ถูกล้อมอยู่ตรงกลางของทหารเหล่านี้ได้เฝ้ามองไปยังทิศทางหนึ่งเหมือนกับว่ากำลังเฝ้ารออะไรอยู่ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เเผ่งเบา
” ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทนรอกองทัพที่เจ้าสร้างขึ้นมาถูกทำลายไปเรื่อยๆอย่างนี้เเน่นอน ”
เเละตอนนั้นเองที่มีกลุ่มหมอกสีดำปรากขึ้นด้านหลังทหารซากศพเหล่านั้น