เฟยหลงที่เห็นว่าเสี่ยวไป๋กำลังมองโครงกระดูกสัตว์อสูรนั้นอย่างเเค้นเคืองจึงกล่าวออกมาว่า
” เสี่ยวไป๋เจ้าก็น่าจะรู้นะว่าถ้ามันมีจิตวิญญาณเหลืออยู่เเละดูเหมือนว่าจะอยู่มานานพอควรเเบบนี้เเม้นี้จะเป็นเพียงเเค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณ ”
” เเละอย่างต่ำจิตวิญญาณนี้ในอดีตต้องเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขอบเขตหลอมรวมเป็นอย่างต่ำซึ่งจากที่มันผ่านการเวลานั้นไปพอสมควรพลังอำนาจของมันคงจะลดลงอย่างมาก ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้เฟยหลงก็ได้มองเสี่ยวไป๋ด้วยสายตาที่เเฝงไปด้วยการเตือนอันมากมาย
” เเละด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เจ้ายังมีชีวิตอยู่ยังไงละ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเสียใจเเล้วเดินคอตกไปมาอยู่รอบตัวเฟยหลง
ซึ่งเฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ม่ได้คิดตำหนิเสี่ยวไป๋อีกต่อไปก่อนจะกล่าวออกมาว่า
” เเต่ก่อนอื่นผลวารีพิสุทธิ์นั้นเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่างมากมนตอนนี้เเต่เพราะเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นยังคงปกป้องมันอยู่เเม้จะผ่านกาลเวลามานานเเต่ยังคงไม่สลายหายไปจากโลกใบนี้ ”
” จากที่ข้าลองคำนวณดูเเล้วการที่จะเเย่งผลวิญญาณพิสุทธิ์จากมันได้นั้นมีโอกาศเพียงเเค่หนึ่งส่วนสิบเท่านั้น ”
เสี่ยวไป๋ที่ตั้งใจฟังสิ่งที่เฟยหลงกล่าวออกมาเมื่อได้ยินเช่นั้นก็ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงี่เต็มไปด้วยความหมดหนทาง
” อ๋าว~~~ทำยังไงดีเห็นของมีค่าอยู่เเค่เอื้อมเเต่การที่เราไม่สามารถหยิบมันมาครอบครองได้นั้นมันช่างน่าหดหู่เหลือเกิน ”
เฟยหลงที่ได้ยินเสี่ยวไป๋กล่าวออกมาเช่นนั้้นก็ได้ตอบกลับไป
” เสี่ยวไป๋เจ้าคิดว่าของเเค่นี้จะสามารถรั้งข้าไว่ไม่มห้เก็บผลวารีพิสุได้อย่างนั้นเหรอ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้มีดวงตาที่เปร่งประกายอย่างรวดเร็วก่อนที่ตะกล่าวถามเฟยหลงอย่างรีบร้อน
” มีหนทางจริงๆงั้นเหรอพี่ใหญ่ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเสี่ยวไป๋กล่าวถามมาเเบบนั้นก็ได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หนักเเน่นว่า
” ถ้าเป็นคนอื่นที่มาพบมันก็คงจะล้มเลิกความคิดในการครอบครองมันไปแล้วเพราะเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นเเต่สำหรับตัวข้าเเล้วนั้นใช่ว่าจะไม่มีทางกำจัดมันออกไปได้ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้เริ่มการเตรียมตัวเเย่งชิงผลวารีพิสุทธิ์ผลนี้มาไว้ในครอบครองเเต่เเล้วตอนนั้นเองที่หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาว่า
” นี่เจ้าหนูเจ้าอยากได้ผลวารีพิสุทธิ์นั้นเหรอข้าช่วยเจ้าได้นะ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเสียงหม้อปรุงยาหยูหงดังขึ้นมาอย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้านี้มันต้องการสิ่งตอบเเทนอย่างเเน่นอน
ซึ่งมันเป็นไปอย่างที่เฟยหลงได้คิดไว้จริงเพราะหลังจากนั้นไม่นานหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เเล้วข้าจะได้อะไรหลังจากช่วยเจ้าละ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธเเต่กลับกล่าวออกมาว่า
” เจ้าต้องการอะไรว่ามา ”
หม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินเข่นั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ
” มันต้องอย่างนี้สิข้าจะช่วยเจ้ารั้งเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นเอาไว้เองส่วนเจ้าก็ไปเก็บผลวารีพิสุทธิ์ ”
” เเต่………. ข้าต้องการสมบัติหรืออะไรก็ได้ที่มีคุณสมบัติของธาตุไฟมาให้ข้าจึงจะช่วยเจ้าได้เเละของที่เจ้าต้องให้ข้าเพื่อช่วยคือเเร่ที่มีคุณสมบัติไฟเเละไม้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวถามหม้อปรุงยาหยูหงกลับไปว่า
” เจ้าต้องการสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร ”
หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวตอบเฟยหลงกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่หาง่าย
” ก็ข้าต้องการดูดซับพลังจากของพวกนั้นมาซ่อมเเซนตัวข้าอยู่เเล้วเจ้าไม่เห็นสภาพของข้าเหรอ………..ตัวข้าได้รับความเสียหายมาเป็นจำนวนไม่น้อย ”
” จะให้ข้าดูดซับพลังปราณจากธรรมชาติเพื่อซ่อนเเซมตัวเองละก็ต้องใช้เวลาอีกกี่ปีกันกว่าจะซ่อมเเซมตัวข้าทั้งหมดให้สำเร็จ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็กล่าวออกมาว่า
” ได้ข้าสัญญาว่าจะหาให้ “