เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 242 เสี่ยวไป๋ผู้ถูกกระทำ

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เวลาผ่านไปไม่นานเฟยหลงก็ได้ยินเสียงของหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวออกมาว่า

” ถึงเมืองชายเเดนเเล้วละ ”

เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวจบก็ได้ปล่อยเฟยหลงออกมาจากพื้นที่มิติในป่าที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองชายเเดน

“ดูเหมือนว่ามีเจ้าอยู่ก็เดินทางสะดวกดีเหมิือกัน ”

หม้อปรุงยาหยูหงอยากจะกระอักเลือดออกมาอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นเเต่ตัวมันรู้ดีว่าถึงกล่าวออกมาก็ไร้ประโยชน์​จึงเลือกที่จะกลับไปบนตัวเฟยหลงอย่างเงียบๆ

เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้กล่าวถามหม้อปรุงยาหยูหงอีกเเล้วนำชุดที่อยู่ในถุงมิติมาเปลี่ยนก่อนจะเดินไปทางเมืองชายเเดนที่ตอนนี้สภาพเเตกต่างกับครั้งเเรกที่ตัวเฟยหลงมาอย่างมาก

กำแพงจำนวนมากมีร่องรอยความเสียหายจำนวนมากทางด้านประตูเมืองได้เปิดอยู่เเละยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าออกไม่มากเพราะ

จากเหตุการณ์​ที่กองทัพซากศพนั้นยุกโจมตีเมืองอย่างหนักหน่วงทำให้เมืองชายเเดนเกือบที่จะถูกทำลายลงไปอย่างราบคาบ

เฟยหลงที่เห็นภาพเช่นนั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหาทหารยามคนหนึ่งเเล้วหยิบตราที่มีคำว่าจ้าวเขียนไว้ด้านบนขึ้นมาทหารก็ได้กล่าวออกมาด้วยความเคารพ

” นายท่านเชิญเข้าไปได้เลยขอรับ ”

เมื่อกล่าวจบทหารคนนั้นได้ปล่อยเฟยหลงผ่านออกไปอย่างง่ายดายเฟยหลงก็รีบร้อนที่จะกลับไปหาพวกซูซ่านเพราะพวกนั้นคงเป็นห่วงตัวเขาที่ออกไปจากเมืองเงียบๆโดยไม่บอกกว่าอะไร

หลังจากนั้นเฟยหลงไม่ได้หารถม้าไปส่งตัวเขาเเต่กลับหามุมเงียบๆในตรอกเเห่งหนึ่งเเละกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านเรือนอย่างเเผ่วเบาเเล้วอีกอย่างนั้นก็คือเฟยหลงจำทางไปคฤหาสน์​หลังนั้นได้อย่างชัดเจนใช้เวลาไปไม่นานก็มาถึง

ทางหน้าประตูไม่ได้มีคนเฝ้าเวรยามเลยเเม้เเต่คนเเียวเฟนหลงจึงสามารถเปิดประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

” ข้าอยากรู้ว่าพวกเสี่ยวไป๋กำลังทำอะไรอยู่กันเเน่นะ ”

เมื่อเฟยหลงคิดไปคิดมาจึงคิดว่าการย่องเข้าไปอย่างเงียบๆดีกว่าโดยที่เฟยหลงได้ขึ้นไปแอบอยู่บนต้นไม้ที่ตัวเฟยหลงชอบไปนั่งบ่มเพาะซึ่งบนนั้นเฟยหลงได้พบกับเสี่ยวไป๋

ทางด้านเสี่ยวไป๋ที่เห็นเฟยหลงกลับมาเเล้วนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า

” พี่ใหญ่ในที่สุดท่านก็กลับมาเเล้วข้ารอท่านจนรู้สึกเบื่อหน่ายเต็มทน ”

เมื่อเฟยหลงได้ยินเสี่ยวไป๋กล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปว่า

” เสี่ยวไป๋เจ้าอย่าพูดเสียงดังข้าอยากจะดูพวกนางเงียบๆว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ”

เสี่ยสไป๋ที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเเผ่วเบา

” พี่ใหญ่ท่านทำลับๆล่อๆตัวเเบบนี้นั้น…………. ท่านคงคิดที่จะทำอะไรเเปลกๆใช่ไหมอย่างเช่นเเอบดู…………. ”

เมื่อเสี่ยสไป๋กล่าวถึงตรงนี้ก็ได้ใช้สายตาที่บ่งบอกว่าท่านก็รู้ว่าข้าหมายถึงอะไรเฟยหลงที่เห็นอย่างนั้นก็จับหางของเสี่ยวไป๋เเละทำให้มันห้อยไปมาอยู่ตรงหน้าของเฟยหลง

” เจ้าเเมวบ้าในหัวเเกคิดเเต่เรื่องอะไรอยู่……….. ดูเหมือนจะเป็นผลจากความทรงจำของบรรพบุรุษ​ของเจ้าสินะ…………. ข้าว่าในอดีตบรรพบุรุษ​ของเจ้านั้นคงจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก”

เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้กล่าวเเย้งเเต่อย่างใดเเต่กลับขอให้เฟยหลงปล่อยมันลง

” พี่ใหญ่ปล่อยข้าลงเถอะ……….. ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าเลือดมันเริ่มไหลไปอยู่ที่หัว​ของข้าหมดเเล้ว ”

เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่คิดจะปล่อยเเละเรียกหม้อปรุงยาหยูหงอแกมาก่อนที่จะให้หม้อปรุงยาหยูหงใช้โซ่สีทองเส้นนั้นผูกตัวเสี่ยวไป๋ให้ห้อยอยู่บนกิ่งของต้นไม้ต้นนั้น

ส่วนทางด้านเฟยหลงนั้นก็ได้กระโดดลงโดยไม่ลืมกล่าวทิ้งท้ายไว้กับเสี่ยวไป๋ว่า

” ตอนนี้เจ้าก็อยู่ตรงนั้นไปก่อนเเล้วกันเดี๋ยวข้าค่อยกลับมาปล่อย ”

เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียวอันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

” พี่ใหญ่ปล่อยข้าไปเถอะข้าสัญญาว่าจะไม่พูดเเบบนั้นอีกเเล้ว ”

เเต่เฟยหลงกลับไม่ได้ใจอ่อนเเล้วกลับวางค่ายกลเล็กๆขึ้นมาเเละทำให้เสียงของเสี่ยวไป๋นั้นไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้

เสี่ยวไป๋ที่เห็นก็พอเข้าใจว่านี้เเป็นค่ายกลสกัดกั้น​เสียงตามความทรงจำที่ได้รับสืมทอดมาเมื่อทราบดังนั้นมันก็อยากพุ่งเข้าไปข่วนหน้าของเฟยหลงด้วยกรงเล็บเเล้วกล่าวออกมาว่า

” ท่านถึงสร้างค่ายกลขึ้นมาใช้อย่างสิ้นเปลืองเเบบนั้นได้ไง “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท