เมื่อเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นเเล้วซูซ่านเเละเจียงหงนั้นก็มองหน้ากันอย่างสังสัยว่าการสังเกตุตรงไหนกันที่ต้องเก้ไข
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวตอบข้อสงสัยของพวกนางทั้งสอง
” ตอนที่ข้าเข้ามาเเล้วรอให้พวกเจ้าเริ่มโจมตีก่อนตรงนี้คือข้ออเเรกถ้าเป็นคนที่ต้องการการทำร้ายพวกเจ้าละก็พวกเขาจะลงมือโดนไม่รอให้พวกเจ้าโจมตีก่อน ”
” ข้อสองคือเจ้าเห็นไหมว่าทุกกระบวนท่าของข้านั้นไม่ได้มีจิตสังหารเลยเเม้เเต่น้อยซึ่งพวกเจ้าคิดว่าข้าเข้ามาในห้องลับนี้ก็เริ่มโจมตีโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้เลย ”
ทั้งสองที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเช่นนั้นก็ได้มองหน้ากันอย่างละอายใจที่พวกนางลืมเรื่อวนี้ไปเพราะรู้สึกตกใจที่มีคนฝ่าค่ายกลเข้ามาได้
เฟยหลงที่เห็นด้งนั้นก็ไม่ได้กล่าวตำหนิอะไรอีกเเต่กลับกล่าวถามถึงจ้าวเฉิน
” เเล้วเเม่ทัพจ้าวตอนนี้อยู่ไหนงั้นเหรอ ”
เจียงหงครุ่นคิดอยู่ชั่วครูห่อนจะตอบเฟยหลงกลับไป
” ถ้าให้ข้าคาดการณ์นั้นข้าคิดว่าท่านลุงใหญ่คงจะอยู่ที่ป้อมปราการเพราะยังมีเรื่องราวมากมายต้องจัดการหลังจากจบสงครางครั้งนี้ลง”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนชุดคลุมสีดำออกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายซูซ่านเเละเจียงหง
” พวกเจ้าอย่าลืมปรับปรุงสิ่งที่ข้าได้บอกไปด้วยละ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนเห็นเพียงเเค่เงาเลือนลางเท่านั้น
เจียหงเเละซูซ่านที่เห็นว่าเฟยหยหลงได้มาอย่างรวดเร็วเเล้วกล่าวเเนะนำบางอย่างเอาไว้ก่อนที่จะหายไปอีกครั้งจึงกล่าวออกมาว่า
” ท่านพี่เฟยหลงต้องรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ”
” ข้าตำได้ว่าก่อนที่ท่านอาจารย์ออกไปนั้นท่านบอกว่าจะไปจัดการธุระอย่างหนึ่งก่อนที่จะหายไปเลยโดยที่ติดต่อไม่ได้……………เเล้วอยู่ก็โผล่หน้ามาเเละหายไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ”
เจียหงก็รู้สึกแปลกใจอย่างมากเเล้วเพราะว่ายิ่งอยู่กับท่านอาจารย์มากเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าบางครั้งท่านอาจารย์เป็นคนที่เเปลกๆอยู่บ้าง
ทางด้านเฟยหลงที่ได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยที่เฟยหลงนั้นได้ใช้หลังคาของบ้านเรือนเป็นเเท่นเหยียบในการกระโดดไปมา
เพราะว่าเรื่องที่เฟยหลงได้จัดการปีศาจคนนั้นไปเเล้วก็คิดวิธีการบางอย่างออกมาจึงรีบไปหาจ้าวเฉินอย่างรวดเร็ว
” ถ้าข้าทำสำเร็จละก็ ฮึ ฮึ ฮึ ”
เฟยหลงหัวเราะออกมาก้วยน้ำสียงที่ให้ความรู้สึกชั่วร้ายเเละรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง
จ้าวเฉินที่นั่งเขียนรายงานของสงครามครั้งนี้เพื่อส่งกลับไปให้ทางราชวงศ์อยู่ก็ได้รู้หนาวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
” ทำไมมันรู้สึกหนาวขึ้นมาได้นะ ”
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นเเสงดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามายังห้องทำงานของตน
เเต่เมื่อจ้าวเฉินสังเกตุดูดีๆเเล้วนั้นกลับพบว่ามีเงาสีดำกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งมันปรากฏต่อหน้าของตนเองโดยที่เงานั้นเป็นเฟยหลงที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอย่างมากได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าต่างของที่จ้าวเฉินกำลังมองอยู่พอดี
ก่อนที่จะกระโดเจ้ามาอย่างรวดเร็วจ้าวเฉินตั้งสติอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสำรวจคนที่กระโดดเข้ามาเเละเมื่อพบว่าเป็นเฟยหลงจึงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
” ทำไมเจ้าต้อเข้ามาทางหน้าต่างคฤหาสน์ของข้าด้วยละ………..คฤหาสน์ข้าก็มีประตู ”
เฟยหลงได้ส่งยิ้มอันเปร่งประกายให้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
” ท่านเเม่ทัพจ้าวที่ข้าต้องรีบอย่างนี้เพราะว่าข้าจะมาส่งของบางอย่างให้นะ ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
” ส่งของงั้นเหรอเเล้วทำไมเจ้าต้องเข้ามาทางหน้าต่างคฤหาสน์ข้าละ ”
เฟยหลงได้เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเก้าอี้ตัวที่จ้าวเฉินนั่งอยู่เเล้วกล่าวออกมาว่า
” ข้าคิดว่าท่านต้องสนใจเจ้านี้อย่างเเน่นอน ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้เปิดถุงมิติเเล้วนำร่างของปีศาจตนนั้นออกมา
จ้าวเฉินที่นั่งอยู่ได้เห็นร่างที่เฟยหลงเอาออกมาก็ได้ดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตกตะลึง
” นี้มัน……… ปีศาจที่โดนผนึกอยู่ในถ้ำอย่างนั้นเหรอ “