เฟยหลงได้พูดคุยอยู่กับพวกซูซ่านอยู้ชั่วครู่ดอ่นที่จะกลับเข้าไปในห้องลับเเละก่อนไปก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ข้าจะทำบางอย่างที่สำคัญมากถ้าไม่มีเรื่องอะรก็อย่าไปรบกวนข้าละ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยความสงสัย
” พี่ใหญ่ท่านต้องการทำอะไรเหรอถึงต้องบอกกับพวกข้าเเบบนี้ ”
เจียหงเเละซูซ่านต่างก็มองเฟยหลงอย่างรอคอยคำตอบเเต่สุดท้ายเเล้วเฟนหลงกลับตอบเพียงเเค่ว่า
” ข้าจะซ่อมเเซมอาวุธบางอย่างหน่อย ”
เจียหงที่ได้ยินว่าเฟยหลงต้องการซ่อมเเซมอาวุธบางอย่างก็ได้กล่าวออกมาด้วยความสนใจ
” ท่านอาจารย์จะซ่อมเเซมอาวุธอะไรเหรอ
เพราะในจความคิดของเจียงหงรู้ดีว่าท่านอาจารย์ของนางนั้นเก่งไปหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะการปรุงยาการวางค่ายกลเเล้วยังสามารถซ่อมเเซมอาวุธได้ก็แปลว่า……….. ท่านอาจารย์ยังมีคสามสามารถทางด้านหลอมอาวุธอีกด้วย
เจียหงคาดว่าทั้งประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้นั้นคงไม่มีใครที่จะสามารถเทียบเท่าเฟยหลงอีกเเล้วในอายุเพียงเเค่นี้เเม้ว่านางจะเคยสงสัยว่าเฟยหลงไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหน
เเต่เตียหงไม่คยคิดจะกล่าวถามออกมาเพราะเเต่ละคนย่อมมีความลับของตนเองกันทั้งสิ้น
ทางด้านเฟยหลงที่เห็นพวกเจียหงนั้นอยากได้คำตอบอย่างมากจึงหยิบดาบหักออกมาทั้งสองเล่มพร้อมกล่าวว่า
” นี้เเหละคือสิ่งที่ข้าจะซ่อมเเซมมัน ”
เจียหงซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋ที่เห็นดาบหักทั้งสองเล่มบนใบดาบยังมีสนิมขึ้นอยู่เต็มไปหมดด้ามจับของมันก็ไม่ได้ดูสวยงามอะไรมันเหมือนกับดาบธรรมดาทั่วไป
เสี่ยวไป๋เป็คนเเรกที่กล่าออกมา
” พี่ใหญ่ท่านต้องการจะซ่อมดาบหักทั้งสองเล่มนี้เเน่เหรอ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบอย่างหนักเเน่น
” ใช่ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นเชิงเเนะนำ
” ข้าว่า…………. ท่านไปซื้อดาบเล่มอื่นดีกว่าไหม……… สภาพเเบบนี้มันยังจะซ่อมได้เเน่เหรอพี่ใหญ่……….. ข้าว่าทิ้งมันไปดีกว่าไหม”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” เจ้าคิดว่าดาบนี้มันไม่มีอะไรดีเลยเเละมันยังเป็นเเค่ดาบหักที่ใบขึ้นสนิมเต็มไปหมดพร้อมกับไม่มีกลิ่นไอความแข็งแกร่งออกมาเล่ยใช่ไหม ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าพร้อมกช่าวออกมาด้วยความลังเล
” ใช่………. ข้าคิดเเบบนั้นเเละพี่หญิงเจียงก็คงจะคิดเเบบข้าด้วย ”
เมื่อเสี่ยวไป่กล่าวถึงตรงนี้ก็ได้ได้มองไปทางเจียหงด้วยสายตาว่าท่านคิดว่าข้าจะยอมโดนคนเดียวเหรอ
ทางเจียหงที่เห็นอย่างนั้นอยากจับไใเสั่ยวไป๋ที่กำลังมองนางสายตาเเบบนั้นก็ได้รู้สึกเเน่หน้าอกเพราะความโกรธเเ้วเเอบด่าเสี่ยวไป๋ในความคิด
” เจ้าเเมวบ้าเจ้าคนทรยศ………. ถึงเเม้เจ้าจะไม่ใช่คนจริงๆก็เถอะ ”
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็คิดขึ้นในใจว่า
” เสี่ยวไป๋……. เหมือนจะได้รับนิสัยเเบบนี้จากความทรงจำสืบทอดจากบรรพบุรุษของมันใช่ไหม ”
เมื่อคิดไปคิดมาเฟยหลงก็เลิกสนใจเรื่องนั้นเเล้วกล่าวถ่มกับซูซ่านว่า
” เเล้วเจ้าละคิดยังไงกับดาบเล่มนี้ ”
ซูซ่านที่ได้ยินว่าเฟยหลงกล่าวถามตนเองออกมาอย่างฉับพลันก็ได้กล่าวออกมาด้วยความลังเล
” ข้าว่าท่านพี่เฟยหลงต้องมีเหตุผลเเน่นอนในการซ่อมเเซมดาบหักทั้งสองเล่มนี้เเละมันอาจจะมีพลังมากกว่าที่ตาเห็นก็เป็นได้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังซูซ่านกล่าวออกมาดังนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะกล่าวออกมา
” พวกเจ้าควรเรียนรู้จากนางบ้างนะในเรื่องของการสังเกตุเเละการมองเรื่องราวโดยรวม ”
เจียงหงเเละเสี่ยวไป๋ก็ได้เเต่หลบสายตาของเฟยหลงด้วยความละอายใจเพราะเฟยหลงก็พึ่งจะเตือนเรื่องพวกนี้ไปไม่นานเเต่นางกับเสี่ยวไป๋กลับลืมไปเสียเเล้ว
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้ยื่นดาบหักเล่มหนึ่งที่มีขนาดปกติถ้าเทียบกับอีกเล่มไปให้เสี่ยวไป๋ด้วยรอยยิ้มมุมปากก่อนที่จะกล่าวว่า
” เจ้าจะลองทบสอบดูก็ได้…………. เเล้วหากเจ้าสามารถทำลายดาบเล่มนี้ได้ข้าจะปรุงเม็ดยาบางอย่างให้เจ้า ”