หลานเฟินที่ได้ยินดังนั้นก็กล่าวตอบกลับไปด้วยท่าทางที่จริงจังอยู่พอสมควร
” ใช่เเล้วตอนนี้มันใกล้ครบเวลาสิบปีที่วารีหวนคืนจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ”
” สิ่งๆนี้นั้นจะต้องมีคนต้องการมากมายอย่างเเน่นอนรวมถึงทันจะเป็นสิ่งดึงดูดเหล่อัจฉริยะจากขุมพลังต่างๆมารวมกัน……… ท่านไม่คิดว่ามันน่าสนุกงั้นเหรอ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบาพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย
” คิดไม่ถึงว่าข้าจะเจอคนที่มีนิสัยคล้ายยคลึงกับข้าอยู่บ้าง ”
” เพราะว่านอกจากวารีหวนคืนเเล้วจ้าอยากจะมานั่งผ่อนคลายเเล้วปล่อยให้คนเหล่านั้นสู้กันมันก็เป็นสิ่งที่น่าบันเทิงใจอย่างหนึ่ง ”
ทางด้านเจียงหงเเละซูซ่านนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของเฟยหลงก็ได้เเต่มองหน้ากันด้วยความสับสน
” ท่านพี่เฟยหลงมีนิสัยเเบบนี้ด้วยอย่างงั้นเหรอ ,
” น้องสาวซูเจ้าอยู่กับท่านอาจารย์มานานกว่าข้าเเล้วเจ้าไม่รู้นิสัยเเบบนี้ของท่านหรอกหรือ ”
ซูซ่านส่ายหน้าเป็นคำตอบเสี่ยวไป๋ที่นั่งฟังซูซ่านกับเจียหงพูดจึงกล่าวออกมาว่า
” มันก็เป็นอย่างนั้นเเน่เหรอ……………พี่ใหญ่นั้นเป็นคนชอบทไอะไรตามใจชอบอยู่เเล้วเเละบางครั้งก็ไม่ได้รับฟังความเห็นสักเท่าไหร่ ”
ตอนนี้หญิงสาวสองนางเเละหนึ่งสัตว์อสูรได้มองหน้ากันไปมาด้วยความมึนงงส่วนทางด้านเฟยหลวนั้นยังคงพูดคุยกับหลานเฟินต่อไปอย่างราบเรียบจนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งขั่วยาม
เฟยหลงจึงเป็นคนขอตัวกลับเพราะมีเรื่องต้องไปทำ
” ข้าคงจะต้องขอตัวก่อนเพราะตอนนี้นั้นยังมีเรื่องราวบางอย่างที่ต้องทำ ”
เเมื่อพวกเฟยหลงจากไปหลานเฟินก็ได้นั่งอยู่ที่เดิมเเล้วกล่าวออกมด้วยรอยยิ้มที่สดใสเเละเต็มไปด้วยความอยากรู้
” ดูเหมือนว่าคราวนี้จะมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นเเน่นอนข้าอดใจรอไม่ไหวเเล้วที่จะให้มันเกิดขึ้น ”
ทางพวกเฟยหลงได้จองห้องพักก่อนที่จะเเนกย้ายกันไปพักเพราะการเดินทางที่ผ่านมานั้นคงทำให้พวกซูซ่านเหนื่อยล้าไม่น้อย
เฟยหลงที่อยู่ในห้องพักนั้นก็ได้มีเสี่ยวไป๋อยู่เป็นเพื่อนได้กล่าวออกมาว่า
” พี่ใหญ่ท่านช่างใจร้ายเหลือเกินกับตัวข้าที่ปล่อยให้ตัวข้าเป็นของเล่นของยัยผู้หญิงบ้าคนนั้นเอาไปกอดเล่น ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยราวกับว่าจะหลับตลอดเวลา
” โอ้…………..มันอาจจะกับเจ้ามากกว่าเพราะนางนั้นก็ทีความงดงามพอตัวการที่เจ้าได้ใกบ้ชิดนางขนาดนั้นก็ถือว่าดีเเล้ว ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวถึงตรงนี้ก็ได้หลับตาลงราวกีบหลับไปเเล้วจึงทำมห้เสี่ยสไป๋หมดคำกบ่าวที่จะบอกเฟยหลงเเต่ที่จริงเเล้วนั้นเฟยหลงกำลังเข้าไปถามหาเรื่องราวบางอย่างจากดาบทั้งสองเล่มอยู่
โลกสีดำเเละสีขาวที่ถูกเเบ่งครึ่งยังคงอยู่เหมือนเดิมพร้อมกับเด็กชายในสุดสีดำเเละเด็กหญิงในชุดสีขาวคนเดิม
เฟยหลงที่เห็นทั้งสองก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความเเปลกใจว่า
” พวกเจ้ามีเรื่องอะไรจะบอกข้าอย่างนั้นเหรอ ”
เด็กทั้งสองมองหน้ากับก่อนที่เด็กผู้หญิงชุดสีขาวเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
” เมื่อตอนนั้นข้าสัมผัสได้ถึงเศษชิ้นส่วนดาบของข้านะ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างมากก่อนที่จะกล่าวถามต่อไป
” เเล้วตอนนนี้มันอยู่ที่ไหรเหรอ ”
เด็กผู้หญิงคนนี้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยท่าทีครุ่นคิดอย่างหนัก
” ข้าก็ไม่รู้เหมือนกับว่ามันอยู่ตรงไหนราวกับมีบางสิ่งบางอย่างปิดบังเอาไว้ทำให้ข้าไม่สามารถสัมผัสมันได้อีก………… มีเพียงเเต่ตอนนั้นคนครั้งเดียวเเล้วก็ไม่รู้สึกถึงมันอีกเลย ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้ครุ่นคิดอย่าง
” ปิดบังสัมผัสที่สื่อถึงกับของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณได้นั้นจะเป็นค่ายกลหรือมิติโบราณละ”
เเละนอกจากสองอย่างนี้เเล้วเฟยหลงยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันเเน่
___________________________________________
เรื่องเทพจักรพรรดิสงครามนี้เป็นนิยายเเนวกำลังภายในเรื่องเเรกที่เขียนขึ้นมาถ้าผิดพลาดยังไงก็บอกได้