ทางด้านเหล่าผู้บ่มเพาะเเละพวกหลินหยางที่ได้เดินเข้าไปในวิหารโบราณด้านในเต็มไปด้วยหมอกมากมายบางที่เล็กน้อยบางที่มีจำนวนมากจนเเทบตะไม่สามารถมองเห็นรอบด้านในระยะใกล้ได้เลย
เหล่าผู้บ่มเพาะที่เห็นดังนั้นก็ได้เเยกย้ายกันไปตามเส้นทางที่ตนเองเลือก
โดยได้มีผู้บ่มเพาะกลุ่มหนึ่งได้ตัดสินใจเดินเข้าไปใจกลางพื้นที่ๆมีหมอกหนา
ทางด้าในหลังประตูของวิหารนั้นเต็มไปด้วยตึกอาคารบ้านเรืือนที่โดนทำลายกลายเป็นซากประกหักพังจำนวนมาก
เเม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกทำลายลงไปแล้วเเต่กลิ่นไอของความโบราณเเละลึกลับยังคงเเผ่ออกมาอย่างเเต่เนื่อง
บรรนากาศรอบด้านล้วนเต้มไปด้วยความมืดมนราวกับที่เเห่งนี้นั้นเป็นหลุมฝังศพที่มีซากศพถูกฝังเอาไว้นับไม่ถ้วนตั้งเเต่อดีต
” สถานที่นี้มัน………….. ”
” ข้ารู้สึกเหมือนเดินเข้ามาในหลุมฝังศพเลย ”
” เมื่อข้าได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้นั้น…………. ข้าก็รู้สึกหนาวเเปลกๆ ”
” พวกเจ้ารู้สึกหนาวบ้างไหม ”
ในตอนนั้นเองที่พวกเขาเห็นเริ่มที่จะเดินเข้าไปโดนไม่รั้สุดหม่ยปลายทางว่ามันจะมีจุดจบตรงที่เเห่งใด
จนกระทั่งพวกเขารู้สึกตัวอีกทีก็ได้เเยกกับเหล่าสหายไปเป็นที่เรียบร้อย
” พวกเจ้าหายไปไหนกันหมด ”
” อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียวสิ ”
ระหว่าที่ชายคนนั้นกำลังพูดอยู่ก็ได้มีเงาใครบางคนเดินเข้ามาจับไหล่เขาเบาทำให้ชายคนนั้นรู้สึกตกใจอย่างมาก
เเละได้กำลังจะต่อยสวนกลับไปเเต่กลับได้ยินเสียงของชายคนญี่ปุ่นนดังขึ้นขัดจังหวะก่อน
” นี่ข้าเองเจ้าจะตกใจทำไม ”
เมื่อชายคนนั้นเพ่งสายตามองดูก็ได้พบว่าเเท้ที่จริงเเล้วชายคนนั้นเป็นสหายของตนเอง
” ข้าก็รู้สึกตกใจหมดเจ้าจะเข้ามาเเบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจดีนะที่ข้าไม่ได้ใส่การโจมตีไปเต็มเเรง”
” ไม่งั้นคิดจะหยุดการโจมตีของตนเองอย่างกะทันหันละก็มีหวังได้โดนพลังนั้นสะท้อนกลับมาโดนตนเองอย่างเเน่นอน”
สหายของลงขายคนนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปว่า
” ใช่ดีจริงที่เจ้ายั้งมือเอาไว้…………. ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ใบหน้าของสหายผู้บ่มเพาะคนนั้นได้เเปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายเเละเต็มไปด้วยความกระหายเลือดอย่างมาก
ราวกับเปลี่ยนกลายเป็นคนละคนกันอย่างสิ้นเชิง
” ไม่งั้นข้าคงต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวเเรงในการจัดการเจ้าอย่างไรละ ”
ผู้บ่มเพาะคนนั้นทีเห็นสหายได้อยู่ก็เเปรเปลี่ยนเป็นปีศาจที่มีใบหน้าบิวเบี้ยวราวกับถูกสาปก็ได้ตื่นตกใจ
” เเก…………. มันไม่ใช่สหายข้าเเกเป็นใครกันเเน่ ”
ร่างกายของขายคนนั้นตอนนี้ได้ถูกพลังบางอย่งพันธนาการเอาไว้
สหายของผู้บ่มเพาะคนนั้นก็ได้ยิ้มออกมาเเล้วกล่าวว่า
” นับได้ว่าเป็นเกียรติสำหรับเจ้าก็เเล้วกันที่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังข้า ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้นสหายของชายคนนั้นก็ไก้เปร่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
ทางด้านหลีเหวินหลินหยางกำเดินไปในเส้นทางเดียวกันนั้นทางด้านหลินหยางก็ได้กล่าวออกมาว่า
” สหายหลีเจ้าว่าทำไมบรรยากาศรอบๆมันเย็นๆเเปลกๆบ้างไหม ”
หลีเหวินที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันหนเต็มไปด้วยความสงสัย
” เจ้าก็รู้สึกได้อย่างนั้นเหรอ ”
หลินยางที่ได้ยินดังดังนั้นก็ได้กล่าวออหมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยการครุ่นคิด
” ข้าว่ามันจะต้องมีอะไรออกมาอย่างเเน่นอน ”
หลีเหวินที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวถามกลับไปด้วยความสงสัย
” เเล้วทำไมเจ้าถึงคิดอย่าวนั้นละ”
หลินหยางที่ได้ยินคำถามนั้นของหลีเหวินก็ได้กล่าวตอบกลับไปพร้อมกับทำท่าทางว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริง
” เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าเเนวนี้อย่างนั้นเหรอ………………. บรรยากาศเเบบนี้ความลึกลับเเบบนี้ความหนาวเย็นเเบบนี้มหอกที่ลงหนาเเเบบี้มันเป็นไปตามเรื่องเล่าสยองขวัญเลยนะ “