หลังจากกนั้นไม่นานการต่อสู้ได้จบลงอย่างรวดเร็วเพราะเเม้ว่าเฟยหลงจะมีระดับพลังเพียงเเคค่ขอบเขตหลอมรวมขั้นต่ำ
เเต่ด้วยทักษะต่างๆเเละความบริสุทธิ์ความเเข็งแกร่งขอพลัลกลับเหนือยิ่งกว่าขอบเขตเดรยวกันอย่างมากทำให้การสังหารสัตว์อสูรหมาป่าขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางถือได้ว่าไม่อยากเย็น
” ดูเหมือนว่าเเม้กระทั่งสัตว์อสูรขั้นกลางก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีของข้าได้นานมากนัก…………. ถเาเป็นผู้บ่มเพาะธรรมดาละก็”
ที่เฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนี้เพราะว่าสัตว์อสูรนั้นล้วนมีร่างกายเเละพละกำลังที่เเข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะมนุษย์ในขอบเขตพลังเดียวกัน
ถ้าให้ผู่บ่มเพาะขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางธรรมดาของเผ่ามนุษย์นั้นมาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่อยู่ขอบเขตหลมอรวมขั้นกลาง
เกรงว่าคงต้องใช้กำลังคนเป็นจำนวนหนึ่งในการสังหารเหล่าสัตว์อสูรพวกนี้ได้
หลังจากที่เฟยหลงได้สังหารสัตว์อสูรหมาป่าขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางทั้งสิบตัวได้จึงมีเสียงเดิมดังขึ้นมาอีดว่า
” ยินดีด้วยท่านผ่านการทดสอบชั้นเเรก ”
” เชิญมุ่งหน้าต่อต่อไปจนถึงจุดที่สูงที่สุดส่วนของรางวัลจะคิดตามที่เจ้าก้าวเดินไปได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ”
เฟยหลงกล่าวจบก็ได้กลับมายังขั้นบันไดเหล่านั้นเเละตัวเขายังยืนอยู่ขั้นบันไดที่สิบเอ็ดเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งเป็นหลักฐานว่าเฟยหลงได้ผ่านการทดสอบของขั้นบันไดที่สิบเป็นที่เรียบร้อยเเล้วอย่างเเน่นอน
เฟยหลงได้เดินขึ้นไปยังบันไดขั้นต่อไปเรื่อยๆ
ขั้นบันไดที่สิบสอง
ขั้นบันไดที่สิบสาม
ขั้นบันไดที่สิบสี่
………………….
เฟยหลงได้เดินต่อไปเเละเริ่มรู้สึกว่าขั้นบันไดเหล่านี้นั้นเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่เริ่มกดทับลงทำให้ผู้บ่มเพาะที่ยืนอยู่บนเส้นทาง
เเม้จะไม่มากพอที่จะหยุดเฟยหลงเเต่มันก็สร้างความลำบากให้กับเฟยหลงได้เล็กน้อย
” ดูเหมือนว่าค่ายกลเเรงโน้มถ่วงจะยังคงเป็นหนึ่งในการทดสอบความสามารถอย่างหนึ่ง…….. ซึ่งสำหรับความคิดเห็นของข้าเเล้วมันค่อนข้างดีเลยทีเดียว ”
เมื่อเฟยหลงก้าวขึ้นมาสู้ขั้นบันไดที่หนึ่งร้อยเเล้วตัวเฟยหลงก็ได้ถูกทำให้ปรากฏตัวอยู่ในสถานที่เเห่งหนึ่ง
รอบด้านเต็มไปด้วยป่าไม้ที่สูงเเละหนาทึบเป็นอย่างมากเเล้วตอนนั้นเองที่เสียงของจิตวิญญาณเเห่งหอคอยขั้นบันได้ได้กล่าวขึ้น
” ผู้รับการทดสอบอยู่ขอบเขตหลอมรวมขั้นกลางสัตว์อสูรที่ต้องพบคือสัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมตระกูลนก ”
” เริ่มการทดสอบที่สองได้ ”
” ผู้เข้าทดสอบต้องสังหารสัตว์อสูรทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้ ”
” ขอบเขตพลังของผู้เข้าทดสอบคือขอบเขตหลอมรวมขั้นต่ำสัตว์อสูรจะถูกปรับให้อยู่ในขอบเขตหลอมรวมขั้นสูงซึ่งมากกว่าตัวผู้เข้าทดสอบ ”
” เเละหากผู้ทดสอบผ่านก็จะได้ก้าวเดินไปยังขั้นบันไดต่อไปที่อยู่สูงมากกว่านี้หากล้มเหลวจะถูกส่งกลับออกไปเเล้วไม่สามารถเข้ามารับการทดสอบได้อีก ”
เมื่อเสิ้นสุดเสียงนี้เเล้วนั้นก็ได้ปรากฏฝูงสัตว์อสูรปรเภทนกจำนวนหนึ่งที่รูปร่างคล้ายกับเหยี่ยวทั่วทั้งตัวเป็นสีดำทมิฬกำลังโจมตีพุ่งเข้าโจมตีเฟยหลงด้วยความรวดเร็ว
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้เห็นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะยากขึ้นมากกว่าเดิมเพราะต้องสู้กับสัตว์อสูรบินได้ถ้าเทียบเเล้วย่อมมีความยากมากกว่าเเละยิ่งขอบเขตที่สูงกว่าสัตว์อสูรหมาป่าถึงหนึ่งขั้นย่อย ”
เเต่เมื่อเฟยหลงกล่าวถึงตรงนี้เหยี่ยววายุทมิฬได้เริ่มปล่อยพลังปราณสร้างเป็นพายุทมิฬเข้ากว้างล้างทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นดิน ”
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้มีปีกเพลิงสีครามขึ้นบนเเผ่นหลังตัวเฟยหลงได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเเม้ความเร็วจะด้อยกว่าสัตว์อสูรเหยี่ยววายุทมิฬเล็กน้อย
ทำให้เฟยหลงตกเป็นรองสัตว์อสูรเหล่านี้
เพราะว่ารูปแบบมังกรเพลิงตั้งเเต่เเรกเเล้วนั้นคือเปลวเพลิงที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจนึก
” ถ้าเป็นอย่างนี้คงต้อง……… ใช้สิ่งนั้นสินะ