รอบด้านเฟยหลงได้เปลี่ยนไปกลายเป็นห้องโถงที่มีรูปปั้นมนุษย์ตั้งอยู่เต็มไปหมดโดยมีตรงกลางเว้นว่างเปรียบเสมือนทางเดิน
เฟยหลงได้จ้องมองรูปปั้นเหล่านั้นด้วยท่าทางราบเรียบก่อนที่เฟยหลงจะได้ยินเสียงของจิตวิญญาณหอคอยขั้นบันไดดังขึ้นมา
” บดทดสอบพิเศษ ”
” สำหรับผู้ที่ทำคะเเนนได้ดีในการทดสอบสามครั้งก่อนนั้นจะสามารถเข้าสู่บดทดสอบนี้ได้”
” บดทดสอบนี้นั้นตัวผู้เข้ารับการทดสอบสามารถเลือกรูปปั้นเหล่านี้เพื่อเข้ารับการทดสอบโดยเเต่ละรูปปั้นนั้นจะมีรูปแบบการทดสอบเเตกต่างกัน ”
” นี่เป็นรางวัลพิเศษเเละส่วนรางวัลของการทดสอบก่อนหน้านี้นั้นจะถูกมอบให้เมื่อการทดสอบนี้จบลงไม่ว่าผู้เข้ารับการทดสอบจะทำบททดสอบนี้สำเร็จหรือล้มเหลว ”
” เริ่มการทดสอบต่อไปได้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็มองดูรูปปั้นมนุษย์เหล่านั้นด้วยท่าทางราบเรียบราวกับมันเป็นเพียงรูปปั้นธรรมดา
ทั้งที่ความจริงเเล้วนั้นเเรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมานั้นสามารถกดทับผู้คนในขอบเขตหลอมรวมส่วนใหญ่ได้
เฟยหลงที่เห็นอย่างนั้นจึงกล่าวออกมาว่า
” ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ระดับต่ำสุดของหอคอยขั้นบันได……………… ข้าก็ว่ามันแปลกๆตั้งเเต่การทดสอบมันมีความยากขนาดนี้เหล่าผู้บ่มเพาะที่ไม่ความสามารถสามารถผ่านมันได้ง่ายดายนัก ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวออกมาจบนั้นก็ได้เดินออกไปเรื่อยเปื่อยร่วกับกำลังออมาเดินเล่นซึ่งถ้าผ่านๆเเล้วนั้นเฟยหลงอาจจะเหมือนกำลังเดินไปมาโดยไร้ทิศทางที่เเน่นอน
เเต่ถ้าจิตวิญญาณของหอคอยได้กล่าวออกมาละก็คงจะเป็นเส้นทางที่เฟยหลงมุ่งไปนั้นคือที่ๆมีรูปปั้นที่ไม่มีเเรงกดดันอะไรแผ่ออกมาเลยเเม้เเต่น้อย
ราวกับมันคือรูปปั้ยธรรมดาเท่านั้นเเต่เเน่นอนว่าในที่เเห่งนี้ไม่มีรูปปั้นธรรมมดาเหล่านั้นอย่างเเน่นอนซึ่งหมายความว่ารูปปั้นนั้นขอบเขตพลังคงจะสูงยิ่งกว่ารูปปั้นก่อนๆนั้นอย่างเทียบไม่ติด
เฟยหลงได้หยุดอยู่ตรงหน้ารูปปั้นหนึ่งที่ไม่ได้แผ่แรงกดดันอะไรออกมาเลยเเม้เเต่น้อยสภาพของนูปปั้นมนุษย์ตรงหน้าเฟยหลงนั้นเหมือนกับชายชราใส่ชุดที่มีตัวอักษรสลักไว้บนชุดของชายชราคนนั้นด้วยพลังบางอย่าง
ตัวอักษรเหล่านั้นไม่ได้แผ่เเรงกดกันอะไรออกมาเลยเเม้เเต่น้อยซึ่งคนที่เห็นก็เลือกที่จะเดินผ่านมันไปอย่างเฉยเมยก็ว่าได้
” รูปปั้นเหล่านั้นเทียบกับรูปปั้นนี้ไม่ได้เลยเเม้เเต่น้อย ”
เฟยหลงได้ใช้พลังปราณวาดอักษรโบราณคล้ายคลึงที่อยู่บนตัวรูปปั้นค่อยๆส่องเเสงออกมาจนเชื่อมต่อกันกลายเป็นค่ายกลสีทองได้เปิดออก
เเล้วตอนนั้นเองที่เเรงกดดันมหาศาลได้ระเบิดออกมาจากรูปปั้นนั้นอย่างล้นหลามราวกับทะเลสาบเเห่งหนึ่ง
เฟยหลงได้เปิดใช้ทักษะสี่สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั้งสองรูปแบบเพื่อต้านทานเเรงกดดันเหล่านั้นที่กำลังกดทับลงมา
จนตอนนั้งเองที่เเรงกดดันค่อยๆจางหายไปรูปปั้นชายชราที่กำลังยืนอยู่นั้นคอ่ยๆมีเเสงสว่างเกิดขึ้นก่อนที่จะมีร่างที่เหมือนกับชายชราที่กำลังมีชีวิตอยู่มาปรากฏตรงหน้าตัวเฟยหลงเอง
เเต่เเน่นอนว่าร่างของชายชราคนนี้นั้นเป็นเพียงเเค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณเท่านั้น
” ดูเหมือนว่ามีใครบางคนตาถึงเหมือนกัน ”
ชายชรามองเฟยหลงโดยใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเเละความอยากรู้อยากเห็น
” ขอบเขตหลอมรวมขั้นต่ำเองหรือเเต่สามารถเห็นถึงค่ายกลนี้ที่ข้าตั้งใจสร้างเอาไว้ไม่ให้สมบูรณ์ ”
ตัวเฟยหลงนั้นไม่ได้กล่าวตอบไปแต่อย่างใดซึ่งชายชราที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” เจ้าหนูเจ้าทำอะไรอยู่เหรอทำไมไม่ตอบคำถามข้าละ…………. หรือจะตกใจจนสติหลุดลอยไปไหนเเล้ว ”
ตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้กล่าวออกมาว่า
” โอ้……… ขออภัยท่านผู้อาวุโสด้วยข้าเพียงเเค่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นท่านอย่าได้สนใจเลย