อือ เป็นความผิดของนาง หน้าตานางเหมือนคนอายุสามสิบ
โจวกุ้ยหลานสูดหายใจลึก ไม่คิดจะพูดอะไรกับหญิงสาวมากไปกว่านี้แล้ว จึงถามนางไปว่า “เจ้าหาพี่ชายข้ามีเรื่องอะไรงั้นหรือ ?”
ทีนี้เข้าใจหรือยัง ?
โจวต้าไห่เพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ นางอายุยังน้อยกว่าโจวต้าไห่ และแน่นอน ที่สำคัญที่สุด คือรีบถามว่ามีเรื่องอะไร เพราะตอนนี้นางต้องไปส่งข้าวแล้ว
หญิงสาวคนนั้นตกตะลึง “เจ้ายังอ่อนกว่าโจวต้าไห่อีกงั้นหรือ ? ข้านึกว่าเจ้าจะเป็นพี่ใหญ่ของโจวต้าไห่เสียอีก !”
ไม่โกรธสิ ไม่โกรธ นางไม่โกรธเลยสักนิด…..ซะที่ไหนเล่า ! นางโกรธจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว !
“ท่านนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านไม่ได้แต่งงาน ข้าเกรงว่าจะเผลอคิดว่าท่านเป็นพี่ใหญ่ซะแล้ว” โจวกุ้ยหลานแสร้งตอบอย่างยิ้มแย้ม
ไม่ว่าจะมองตัวเองยังไงก็ขาวกว่านาง ผิวพรรณก็ดีกว่า แก้มไม่แดงเป็นเด็กดอยหรือไง ? ทำไมนางถึงเอาแต่เรียกว่าพี่ใหญ่อยู่ได้ ?
เมื่อได้ยินว่าแต่งงาน หญิงสาวคนนั้นก็เกิดความเขินอาย แก้มแดงเป็นเด็กดอย ๆ ทั้งสองข้างยิ่งแดงมากขึ้น
“ข้าเพิ่งจะสิบเจ็ด จะเรียกว่าข้าเป็นพี่ใหญ่ได้ยังไงเล่า ?” แม้นางจะรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ก็ยังตอบกลับมาประโยคหนึ่ง
ฮึ ที่แท้นางก็อายุสิบเจ็ดนี่เอง !
โจวกุ้ยหลานรีบตอบกลับ “อือ ข้าเพิ่งจะสิบแปด ไม่คิดว่าจะแก่กว่าเจ้าแค่ปีเดียว”
ได้ยินหรือเปล่า ข้าเพิ่งจะสิบแปด ! แต่ความคิดคือยี่สิบห้าแล้ว ร่างกายนี้เพิ่งจะสิบแปดเท่านั้น !
โจวกุ้ยหลานกู่ร้องในใจ ใบหน้ายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มปลอม ๆ
หญิงคนนั้นได้แต่มองโจวกุ้ยหลานอีกด้วยความตกตะลึง จากนั้นเหลือบไปมองเจ้าก้อนน้อย ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อ
แววตานี้หมายถึงอะไร ? หมายความว่าไง ? เจ้าก้อนน้อยนี่เพิ่งจะสามขวบ แววตาไม่อยากจะเชื่อของนางมันหมายถึงอะไรกัน ?
“นั่น……นั่นน่ะ น้องสาว เจ้าจะพาข้าไปหาพี่ชายเจ้าได้หรือไม่ ?” หญิงคนนั้นรู้สึกว่าถ้าพูดอะไรออกไปอีกจะทำให้คนอื่นขุ่นข้องใจเอา จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
เมื่อครู่เพิ่งจะเรียกนางว่าพี่ใหญ่ ตอนนี้กลับมาเรียกน้องสาว ?
หากนางไม่ได้คิดผิด ตนเองน่าจะแก่กว่าผู้หญิงคนนี้หนึ่งปี !
โจวกุ้ยหลานยังคงแสร้งยิ้มออกไป “เจ้าเรียกข้าว่าโจวกุ้ยหลานก็พอแล้ว พี่ชายข้าน่ะ ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ด้านนอก เจ้ามาหาพี่ชายข้ามีอะไรงั้นหรือ ?”
ทันทีที่ได้ยินว่าโจวต้าไห่ไม่อยู่ ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่งร้อนรน นางยื่นมือออกไปจับโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานหลบมือที่ยื่นเข้ามาออกด้านข้าง
เมื่อคว้าจับโจวกุ้ยหลานไว้ไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นก็ยอมแพ้ รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “ข้าคือภรรยาในอนาคตของพี่ชายเจ้า ต้องการมาพบเขา เขาทำงานอยู่ที่ไหนน่ะ พาข้าไปหาเขาได้หรือเปล่า ?”
ภรรยาในอนาคต ?!
พี่ชายนางไปได้ภรรยามาจากด้านนอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
มีคนมาจีบอย่างนี้ นี่เหล่าไท่ไท่ยังกลัวว่าโจวต้าไห่จะหาภรรยาไม่ได้อีกงั้นหรือ ?
โจวกุ้ยหลานคิดวนอยู่หลายตลบ พูดออกมาโดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาว่า “นี่มันอะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินพี่ชายข้าบอกว่าได้ภรรยาอยู่ด้านนอกนี่นา ช่วงนี้ได้ดูตัวกับแม่นางของตระกูลหลิวมา แต่ตระกูลหลิวก็ไม่ได้ตอบกลับมา”
“ข้าก็คือหลิวเซียง! เป็นภรรยาในอนาคตของพี่ชายเจ้า รีบพาข้าไปหาพี่ชายเจ้าเถอะ !” หญิงสาวคนนั้นยิ่งร้อนรน คิดจะยื่นมือออกไปคว้าเสื้อผ้าของโจวกุ้ยหลานอีกครั้ง
โจวกุ้ยหลานเอี้ยวตัวหลบอีกครั้ง ในใจได้แต่ตกตะลึง
ไม่คิดว่าเมื่อวานที่ชุ่ยฮวามาที่บ้านบอกว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้ว วันนี้หญิงสาวจะมาหาถึงที่บ้านซะได้ ?
โจวกุ้ยหลานไม่มีอะไรจะพูด หญิงคนนี้มาถึงนี่แล้ว นางทำได้แต่ให้นางเข้าไปพบหน้าพี่ชายสักหน่อยเท่านั้น….
แม้ว่าหลิวเซียงคนนี้จะพูดจาไม่ค่อยเป็น แววตาก็ไม่ค่อยดีนัก……
โจวกุ้ยหลานพาเจ้าก้อนน้อยและหลิวเซียงไป จนมาถึงสถานที่ที่สวีฉางหลินและโจวต้าไห่เผาถ่าน
“ต้าไห่ !”
หลิวเซียงได้เห็นโจวต้าไห่ก็ตะโกนออกไป รีบก้าวผ่านโจวกุ้นหลานไปทันที พุ่งตรงไปหาโจวต้าไห่ที่อยู่ทางด้านนั้น
โจวกุ้ยหลานหยุดชะงัก ก่อนจะรีบพาเจ้าก้อนน้อยเดินต่อไปข้างหน้าทันที
เมื่อได้ยินเสียง โจวต้าไห่ก็หันมา เมื่อเห็นว่าเป็นหลิวเซียงที่กำลังวิ่งเข้ามา เขาตกใจพูดออกไปว่า “เจ้ามาได้ยังไงเนี่ย ?”
“ข้ามาหาเจ้าน่ะสิ !” เพียงไม่กี่ก้าวหลิวเซียงก็มาหยุดข้าง ๆ เขา แหงนหน้ามองโจวต้าไห่ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความเขินอาย
สวีฉางหลินที่กำลังทำงานอยู่เงยหน้าขึ้น มองผ่านหลิวเซียงไป ก็มองเห็นภรรยาของตนเองที่กำลังยกตะกร้าพร้อมกับเจ้าก้อนน้อยเดินมาทางนี้ เขารีบวางของในมือลง รีบเดินไปหาภรรยาของเขา
เมื่อมาหยุดตรงหน้าโจวกุ้ยหลาน ก็ยื่นมือออกไปรับตะกร้าในมือของโจวกุ้ยหลานไว้
“เหนื่อยแล้วหรือ ?”
“เปล่าหรอก” โจวกุ้ยหลานตอบกลับไป ขณะที่มองไปยังหลิวเซียงอีกครั้งก็สบถออกมา
สวีฉางหลินได้ยินว่าน้ำเสียงของภรรยามีบางอย่างแปลก ๆ จากสายตาของโจวกุ้ยหลานมองไป ทำให้เห็นหลิวเซียงที่อยู่ทางด้านนั้น จึงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “นางรังแกเจ้างั้นหรือ ?”
“เปล่า นางแค่พูดไม่ค่อยเป็นน่ะ” โจวกุ้ยหลานตอบ ช่วยปัดเศษดินบนเสื้อผ้าของสวีฉางหลิน
สวีฉางหลินที่กำลังดีใจที่ภรรยาของตนคอยดูแลเอาใจใส่ เขาถูกดึงกังเกงอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะก้มหน้าลง และเห็นเจ้าก้อนน้อยที่กำลังอ้าแขนสองข้างมาที่ตน
“พ่อ อุ้ม”
“เดินไปเองสิ !”
สวีฉางหลินตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ มีความสุขกับความเอาใจใส่ของภรรยาตนต่อ
คำพูดนี้ดังเข้าไปในหูของเจ้าก้อนน้อย นั่นถือว่าแย่มาก
พ่อไม่ชอบเขาแล้ว ตอนนี้ไม่คิดจะอุ้มเขาอีกแล้ว
โจวกุ้ยหลานเหลือบมองไปเห็นท่าทีของเจ้าก้อนน้อยโดยไม่ตั้งใจ เห็นแววตาที่หม่นมัวของเขา ในใจก็เกิดความปวดร้าว รีบดึงเสื้อของสวีฉางหลินและพูดว่า “อุ้มเสี่ยวเทียนขึ้นมา”
ทำไมต้องอุ้มเด็กคนนี้ด้วย ? ที่เขาต้องอุ้มคือภรรยาของเขาต่างหาก
สวีฉางหลินไม่พอใจ แต่พอเหลือบไปมองภรรยาน้อยของตน เขาก็ได้แต่ย่อลงไปอย่างไม่ยินยอม ยื่นมือออกไปอุ้มเจ้าก้อนน้อยมาไว้ในอ้อมแขน
เมื่อถูกพ่อของตัวเองอุ้มขึ้น เจ้าก้อนน้อยก็ดีใจไม่น้อย แววตาเต็มทอประกายแวววาว
โจวกุ้ยหลานจะเอาตะกร้าในมือของสวีฉางหลินไป แต่ทว่าสวีฉางหลินกลับไม่ยอมให้ โจวกุ้ยหลานไม่มีทางเลือก จึงต้องปล่อยเขาไป
สามคนพ่อแม่ลูกเดินไปข้างหน้า เสียงพูดคุยจากฝั่งนั้นก็ค่อย ๆ ดังขึ้น
หลิวเซียงกำลังพูดคุยกำลังโจวต้าไห่ “พ่อข้าเพื่อที่จะเอาที่ดินผืนนี้ไว้ ได้ให้ข้าแต่งงานกับคนโง่เขลา ข้าไม่ยอมรับ จึงหนีออกมาตามหาเจ้า ต้าไห่ เจ้าแต่งงานกับข้าเถอะ !”
โจวต้าไห่เกิดความประหม่า พูดออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก ให้ข้าไปส่งเจ้ากลับไปเถอะ”
หลิวเซียงมาหาเขาอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง หากเรื่องนี้แพร่ออกไปเกรงว่าชื่อเสียงคงไม่เหลือแน่ รีบใช้เวลาที่ยังไม่มีใครรู้ส่งนางกลับบ้านไปดีกว่า
ใครจะรู้ว่าน้ำตาแห่งทุกข์ของหลิวเซียงจะไหลหยดลงมาดัง“แปะ” “เจ้าแค่ไม่ชอบข้าใช่ไหม ? ข้ารู้ดีว่าข้าไม่สวย อายุก็เยอะ เจ้าก็แค่ไม่ชอบข้าแล้ว เจ้าคิดจะแต่งงานกับหญิงสาวอายุสิบห้าสิบหก เจ้าทิ้งคนแก่อย่างข้าแล้ว !”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย เจ้าคิดเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ได้ยังไง ?” โจวต้าไห่รีบตอบกลับไป
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงไม่อยากแต่งงานกับข้า จะส่งข้ากลับไป งั้นข้าขอตายดีกว่า ! ข้ารักเจ้า ข้าอยากแต่งงานกับเจ้า ไอ่โง่นั่นข้าไม่อยากแต่งงานด้วย ต่อให้ตายก็ไม่แต่ง !”
หลิวเซียงพูดพลางหันไปพุ่งเข้าใส่ต้นไม้ต้นหนึ่ง โจวต้าไห่ที่อยู่ข้าง ๆ ตกใจรีบคว้านางไว้ กลัวว่านางจะทำเรื่องโง่ ๆ เข้า
“โอ้ย เจ้าเป็นอะไรกัน คิดจะตายก็ตายหรือไง ?” โจวต้าไห่รีบห้ามนางไว้
หลิวเซียงรีบเงยหน้าขึ้น มองโจวต้าไห่ “งั้นเจ้าจะทิ้งข้ารึเปล่า ?”