ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์ – ตอนที่ 85-94

ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์

ตอนที่ 85 ชนวน【บทแรก】

การแข่งขันเกมอันดุเดือดจบลงอย่างไม่คาดคิด และใช้เวลาที่เหลือของวันในการพักผ่อนเยียวยาจิตใจ

 

 

 

ในขณะที่เดินชมเทศกาลด้วยความมีชีวิตชีวาเซนอสก็เอาเนื้อเสียบไม้ยัดเข้าปากอย่างมูมมาม

 

 

 

「พอมาคิดดูแล้วผู้ชนะของเราหายตัวไปไหนล่ะเนี่ย」(ชาวบ้าน A)

 

「คาร์มิลล่าซังบอกว่าเพราะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไปเลยรีบกลับบ้านค่ะ」

 

「ทีตอนทำล่ะไม่คิด……」

 

 

 

อย่างไรก็ตามมีผู้เข้ารักษาที่ศูนย์รักษาตามปกติก็มีโอกาสจะเห็นตัวได้ยากอยู่แล้ว ดังนั้นเลยมีไม่กี่คนที่เคยเห็นคาร์มิลล่า

 

ดูเหมือนว่าจะได้รางวัลเป็นสาเกคุณภาพสูงกลับบ้านไปดื่มอย่างชื่นใจ

 

 

 

「อาจารย์สนุกไหมคะ?」

 

「อ่า ขอบคุณมากเลยนะ」

 

 

 

พวกผู้นำเผ่าทั้งสามต่างเข้าหาเซนอสทีละคนและนั่งรอบๆเซนอส

 

โซเฟียและคนอื่นๆต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

 

 

「แต่ไม่คิดเลยนะว่าคาร์มิลล่าจะเป็นคนคว้าแชมป์」

 

「ริงก้า เธอน่ะแหละตัวดีดันสร้างกฏแปลกๆขึ้นมาซะได้」

 

「ช่วยไม่ได้นี่หน่ามันเป็นเกมที่วัดกันด้วยโชคเลยนะ พระเจ้าอาจจะบอกว่ายังไม่ถึงเวลาของพวกเราก็ได้」  

 

「แต่ลิลลี่สนุกกับมันมากเลยนะคะ」

 

 

 

มันเป็นเพียงจินตนาการของชั้นรึเปล่าที่มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นระหว่างทั้งสี่คน

 

 

 

「เฮ้อชั้นเองก็ดีใจที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี」

 

 

 

เทศกาลแรกที่จัดขึ้นในสลัม

 

เหล่าเจ้าของงาน โซเฟียและคนอื่นๆต่างโล่งใจและให้กำลังใจกัน

 

 

 

「ครั้งนี้เกี่ยวกับวงในของผู้เข้าร่วมเป็นหลัก แต่ปีหน้าฉันอยากจะจัดงานให้มันใหญ่ขึ้นกว่านี้อีกค่ะ」

 

「ริงก้าคิดว่าหากจัดงานใหญ่โตจะต้องมีคนเข้าร่วมเยอะแน่นอน」

 

「สักวันหนึ่งมันอาจกลายเป็นเทศกาลที่เป็นตัวแทนของสลัมของเราก็ได้」

 

「บางทีคนในเมืองอาจจะมาเที่ยวเล่นด้วยก็ได้นะคะ」

 

 

 

ลิลลี่พูดแบบนั้นทำให้บรรยากาศตึงเครียดทันที

 

 

 

「อะ ขอโทษค่ะ……」

 

 

 

ในประเทศที่ปกครองโดยชนชั้น ช่องว่างระหว่างชาวเมืองกับสลัมไม่ได้ลดหย่อนกันง่ายๆ

 

มีบางคนเช่นยูมินและเบ็คก้าที่แทบจะไม่เลือกปฏิบัติ แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนส่วนน้อย

 

จู่ๆโซเฟียก็หัวเราะและลูบหัวลิลลี่

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกนะคะ ลิลลี่ ฉันว่าสักวันหนึ่ง……」

 

 

 

「ริงก้านึกภาพไม่ออกเบย……」

 

「ทัศนคติแบบลิลลี่นี่หล่ะที่จะเปลี่ยนยุคสมัยที่เน่าเฟะนี่」  

 

 

 

ริงก้าและลีฟพูดต่อไป

 

 

 

ขณะที่กำลังคุยกันอย่างสบายๆ ซอนเด้น้องชายของโซเฟียก็ปรากฏตัวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

 

 

 

「พี่สาวอยู่ที่นี่เองเหรอ? มาทางนี้สักครู่ได้ไหมครับ?」

 

「……?」

 

 

 

โซเฟียทำท่าทีสงสัยและลุกขึ้นยืน

 

 

 

「ว่าไงคะ?」

 

「มีคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้นครับ」

 

「คนแปลกหน้า?」

 

「ใช่แล้วครับพวกมันกำลังบุกรุกงานเทศกาล」

 

 

 

โซเฟียหรี่ตาลงส่วนริงก้าและลีฟก็ยืนขึ้นเช่นกัน

 

 

 

「คุณเซนอส」

 

「อา ไปกันเถอะลิลลี่」

 

 

 

ลิลลี่และเซนอสก็ตัดสินใจติดตามทั้งสามไป

 

 

 

ขณะที่เดินไปตามถนนสายหลัก ก็มีเสียงดังบริเวณทางเข้าสถานที่จัดงาน

 

อีกด้านหนึ่ง ลิซาร์ดแมน มนุษย์หมาป่า และออร์คจำนวนสิบกว่าคน

 

 

 

ผู้ที่เป็นผู้นำคือชายร่างใหญ่กำยำและมีเขี้ยวแหลมคม ผิวกายมีสีเขียวและดูเหมือนจะเป็นเลือดผสมซับซ้อน

 

 

 

「เฮ้ย เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย มันคงจะลำบากถ้าผู้คนมาทำอะไรเองตามอำเภอใจปิดถนนสัญจรแบนี้」

 

 

 

ชายคนนั้นพูดแล้วมองมาที่ทุกคน

 

โซเฟียพุ่งไปข้างหน้าและจ้องมองอย่างเงียบๆ

 

 

 

「แกเป็นใคร?」

 

「หาาาาาาา งั้นแกก็คงเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้สินะ?」

 

「ก็ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอคะ?」

 

「นี่มันก็ดึกมากแล้ว สร้างความเดือดร้อนรำคาญจนข้านอนไม่หลับเลยว่ะ」

 

「ต้องขอโทษด้วยงานเทศกาลใกล้จะจบลงเร็วๆนี้แหละ เพราะงั้นใจเย็นด้วย」  

 

「แล้วพวกแผงลอยขายอาหารที่มันเกะกะขวางทางทำให้พวกข้าเดินไม่สะดวกนี่หล่ะ?」

 

「ถ้าอยากผ่านก็เชิญผ่านไปได้ ดิฉันจะไม่ขัดข้องอะไรค่ะ」

 

「เหอะ」

 

 

 

ชายคนนั้นหรี่ตาลงและทันใดนั้นก็ใช้ไม้กระบองในมือฟาดแผงลอยใกล้ๆ

 

แผงลอยที่ถูกตั้งอยู่ครึ่งหนึ่งปลิวว่อนเป็นส่วนๆด้วยแรงมหาศาล

 

เจ้าของร้านที่เป็นโคโบลด์ก็ร้อง「ฮี้」และหนีไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

 

「อย่างที่เห็นมันรกโว้ย มันขวางทางถ้าข้าจะเดินก็ต้องทำลายแผงลอยพวกนี้ให้หมด」

 

「เข้าใจแล้วค่ะ」  

 

 

 

โซเฟียไม่ตอบโต้แม้แต่น้อยและตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกอดอก

 

 

 

「ถ้างั้นแสดงว่ามาที่นี่เพื่อต้องการหาเรื่องสินะคะ」

 

 

 

「คุณเซนอส ผู้คนเหล่านั้น……?」

 

 

 

ลิลี่ที่อยู่ด้านหลังดึงแขนเสื้อเซนอสด้วยท่าทางประหม่า

 

 

 

「ก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกบางทีอาจจะーー」

 

 

 

เทศกาลนี้จัดขึ้นโดยกองกำลังหลักทั้งสามในกลุ่มสลัมได้แก่ ลิซาร์ดแมน มนุษย์หมาป่า และ ออร์ค

 

โดยปกติแล้วมันคงไม่ง่ายเลยที่เทศกาลจะเกิดขึ้นจากทั้งสามเผ่านี้

 

 

 

「หากมีอำนาจบากบั่นมาหาเรื่องถึงนี่ได้ล่ะก็――」

 

 

 

โซเฟียชิงพูดสิ่งที่เซนอสกำลังจะพูดก่อน

 

 

 

「พวกแกคงมาจากกิลด์ใต้ดินสินะ」

 

 

 

 

 

ตอนที่ 86 ชนวน【ครึ่งหลัง】

「กิลด์ใต้ดินเหรอคะ……」

 

 

 

ลิลลี่พึมพำขณะที่เธอมองดูพวกผู้ชายที่บุกเข้ามากลางงานเทศกาล

 

 

 

「กิลด์ใต้ดินยังงั้นเหรอ」

 

「อ่าเป็นกิลด์ผิดกฏหมายที่จะทำทุกอย่างเพื่อเงิน」

 

 

 

ลิลลี่กระแอมไอเมื่อได้ยินคำพูดของเซนอส

 

มันเป็นเศษสวะชั้นต่ำของอาณาจักรนี้และที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่รกร้างเพราะกิลด์ใต้ดิน

 

ภายในสลัมมีคนแฝงตัวอยู่ในความมืดภายในส่วนลึก

 

 

 

นี่คือกิลด์ใต้ดินที่【ไกด์】คนนั้นซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โกเลมด้วย

 

 

 

โซเฟียที่ยืนตรงหน้าชั้นเอาแขวนจับหอกและพูด

 

 

 

「เฮ้ย เฮ้ย กล้าดียังไงมาขโมยของถึงบนดินแบบนี้ไอ้พวกกิลด์ใต้ดินไม่มีที่ทำมาหากินแล้วรึไง?」

 

 

 

ชายร่างใหญ่ที่มีผิวสีเขียวยิ้ม

 

 

 

「ก็พวกเอ็งทำแบบนี้ข้าก็มีปัญหา งานมิตรภาพแบบนี้มันไม่ควรจะมีอยู่ด้วยซ้ำ」

 

 

 

「อาระ หรือว่าไม่พอใจที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญ?」

 

「หาาาาาาา?」

 

 

 

เมื่อโซเฟียพูดแบบนั้น ชายคนนั้นก็ขมวดคิ้ว

 

 

 

「ริงก้าคิดว่าเจ้าพวกนี้ก็แค่เด็กอมมือแหละน้า」

 

「ข้าเองก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้นด้วยสิ แต่ถ้าอยากจะมีเรื่องขนาดนั้นล่ะก็ ข้าจะร่วมด้วยก็ได้นะ」

 

 

 

ริงก้าและลีฟเข้าแถวข้างๆโซเฟีย

 

 

 

「ไอ้นี่มันต้องชดใช้ที่ทำที่นี่เละด้วยแหละนะ」

 

 

 

แผงลอยนั้นพังไปครึ่งหนึ่งเพราะชายคนนั้น

 

ไม้กระบองนั้นลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดยืดตรง

 

 

 

ชายคนนนั้นกำหมัดขณะมองไปที่แผงลอยที่ถล่มลงมาจนเกิดฝุ่น

 

 

 

「พวกข้ากิลด์ใต้ดินอาศัยอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวาย ลอบฆ่า ลักพาตัว ล้างแค้น ข่มขืน ยิ่งเมืองมีความวุ่นวายมากเท่าไร ก็ยิ่งทำกำไรเป็นกอบเป็นกำได้มากขึ้น แต่หากพวกแกอยู่อย่างสงบแบบนี้ ก็คงเป็นปัญหาที่พวกข้าไม่มีที่ทำมาหากินพอดี」

 

 

 

「เพราะที่นี่สงบเกินไปเลยมาก่อเหตุว่างั้นเหอะ」

 

 

 

โซเฟียกอดอกและถอนหายใจเข้าเล็กน้อย

 

 

 

「ไม่รู้หรอกนะว่าแกรู้สึกยังไง แต่สำหรับพวกฉันวิถีชีวิตที่ผ่อนคลายมันเหมาะกับการต้องมามีเรื่องตบตีกันมากกว่า เพราะงั้น――」

 

 

 

โซเฟียกล่าวหลังจากมองย้อนไปที่สถานที่จัดงานเทศกาลซึ่งมีโคมไฟเรียงรายอยู่ตามถนน

 

 

 

「การที่ฉันได้ใช้ชีวิตอันแสนสงบแบบนี้มันก็ไม่ได้น่าเบื่อซะทีเดียว」

 

「เฮอะ ก็แค่พวกเศษสวะละวะ」

 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นโซเฟียก็ลดแขนลง

 

 

 

「ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้กลับไปแบบสงบไม่ต้องมีเรื่องค่ะ」

 

「เห็นพวกข้าเป็นเด็กอมมือรึไงที่โดนบอกว่าสั่งให้กลับบ้านแล้วต้องกลับน่ะ」

 

「ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้นะคะ เห็นทีดิฉันคงต้องใช้กำลังบังคับเสียแล้ว」

 

 

 

ความตึงเครียดระหว่างสองคนเพิ่มมากขึ้น

 

 

 

「ข้าเองก็ไม่ใช่นักบุญหรือเจ้าชาย ดังนั้นข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจุดชนวนแห่งหายนะ」

 

「ริงก้าเองก็ไม่ได้สู้มาสักพักแล้ว ถือซะว่าเป็นการออกกำลังกายล่ะ」

 

「ดูน่าจะเหมาะกับการเป็นกระสอบทรายให้ข้าที่ไม่ได้ออกแรงเลย」

 

 

 

ริงก้าและลีฟบิดตัวไปมา

 

พวกกึ่งมนุษย์ด้านหลังล้วนต่างมีจิตสังหารที่จะฆ่าอีกฝ่าย

 

โซเฟียเหลือบมองที่เซนอส

 

 

 

「เจ้าพวกนี้มันบ่นเกี่ยวกับงานเทศกาลที่พวกเราเป็นคนจัดขึ้น ดังนั้นไม่อยากจะรบกวนอาจารย์สักเท่าไร ไม่จำเป็นต้องช่วยหรอกนะคะ」

 

「……เข้าใจแล้ว ลิลลี่หลบหลังชั้นไว้นะ」

 

「อะ ค่ะ」  

 

 

 

ทันทีที่เซนอสถอยออกไป ชายร่างใหญ่จากกิลด์ใต้ดินก็ออกคำสั่ง

 

 

 

「ก็มาสิเว้ย」

 

 

 

ชายร่างใหญ่กำยำประมาณ 20 ถึง 30 คน เข้าโจมตีพร้อมกัน

 

ลิซาร์ดแมนที่นำโดยโซเฟีย มนุษย์หมาป่าที่นำโดยริงก้า และลีฟที่เป็นออร์คยืนประจันแนวหน้า

 

 

 

เสียงคำรามและเสียงสะท้อนดังก้องไปทั่วบริเวณ

 

 

 

ตามที่คาดไว้พวกศัตรูเองก็ไม่ใช่ย่อยพยายามสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นมากที่สุด

 

 

 

 แต่ว่า――

 

 

 

「อย่ามาเกะกะจะได้ไหมคะ แล้วก็ไม่เป็นไรนะคะ」

 

「เฮ้อ จากมุมมองริงก้าแล้ว การเคลื่อนไหวพวกเธอดูแปลกๆนะ」

 

「เอ่อ พวกเธอสองคนนั่นแหละ การเคลื่อนไหวแบบนั้นมันอะไรอ้วนลงพุงหมดแล้วรึไง」

 

 

 

โซเฟียที่พุ่งไปมา ริงก้าที่พุ่งทะลุฝ่ากลุ่มศัตรูราวกับสายลม และลีฟที่สะบัดแขนด้วยแรงอันมหาศาลของเธอ

 

 

 

ทั้งสามที่ต่อสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในสลัมมานาน ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะถอยราวกับว่ากำลังสนุกอยู่

 

 การต่อสู้ดำเนินไประยะเวลาหนึ่ง――

 

 

 

「บ้าเอ้ย」

 

「อึดเหลือหลายนะเจ้าพวกนี้」

 

 

 

คนในกิลด์ใต้ดินต่างล้มลงไปทีละคนหายใจหอบ

 

โวเฟียมองลงไปที่พวกผู้ชายและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

 

 

 

「แค่นี้ยังไม่ได้อุ่นเครื่องเลยนะ การเอาพวกมาถึง 20 ถึง 30 คนทำอะไรบางอย่างกับพวกเราได้งั้นเหรอ? ถ้าไม่อยากตายก็กลับบ้านไปซะ」  

 

「……」

 

 

 

ชายร่างใหญ่ที่เป็นผู้นำกัดฟันแน่นและยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว

 

 

 

「……ฮะฮะฮะฮะ เก่งกว่าที่คิดนี่ว่ายัยพวกนี้ ส่วนไอ้พวกหน้าใหม่พวกนี้กลับกิลด์ไปโดนลงโทษแน่นอน แต่ถ้าข้ากลับไปโดยไม่สร้างผลงานเลยข้าเองก็จะโดนเช่นกัน」

 

 

 

ใบหน้าของคนที่คุกเข่าเต็มไปด้วยความกลัว

 

 

 

「จะยังไงก็แล้วแต่เกมมันจบลงแล้ว ไว้เจอกันสาวๆ」

 

 

 

หหลังจากนั้น ชายร่างใหญ่ก็หยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนไปทางโซเฟีย

 

เป็นหินเรืองแสงสีแดง ลอยอยู่ในอากาศ

 

 

 

「อึก【หินเวทย์ระเบิด】งั้นเหรอทุกคนรีบออกห่างเร็วเข้า!」

 

 

 

ลีฟที่เคยมีหินเวทย์ระเบิดอยู่ในท้องเคยเห็นก็จำมันได้และพูดออกมา

 

หินเวทย์นั้นมีเอฟเฟกต์มากมาย

 

 【หินเวทย์ระเบิด】เป็นหินเวทย์ระดับสูงธาตุไฟที่จะทำให้เกิดการระเบิด

 

 

 

「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เหตุผลที่พวกข้าต้องมาสู้กับพวกแกมันก็แน่อยู่แล้วล่อให้มาอยู่ที่เดียวกันเยอะๆแล้วก็ ตู้มไงล่ะ ไอ้พวกโง่」

 

 

 

ผู้ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดัง พวกกึ่งมนุษย์ต่างหันหน้าหนีด้วยความหวาดกลัว

 

ชายสวมเสื้อคลุมสีดำค่อยๆก้าวไปข้างหน้า

 

 

 

「ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่สิ」

 

 

 

เซนอสก้าวออกไปข้างหน้าขวา【หินเวทย์ระเบิด】ไว้ในมือขวา

 

 

 

「ทำบ้าอะไรฟะ?」

 

 

 

ต่อหน้าชายร่างใหญ่ทุกคนต่างจับจ้องไปที่การกระทำของเขา

 

เมื่อควันสีดำจางลงเซนอสก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้ามึนๆ

 

 

 

「หืม มีอะไรงั้นเหรอ? ตกใจอะไรกัน」

 

「ห๊าาาาาาาาาาาาาาาา」

 

 

 

เซนอสพูดอย่างใจเย็นขณะที่โซเฟียวิ่งเข้ามาหา

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกชั้นใช้เวทย์ป้องกันบล็อคการระเบิดเอาไว้ ดังนั้นมันเลยจำกัดพิกัดการระเบิดได้ แต่ว่าในฐานะฮีลเลอร์แล้ว ชั้นเองก็ไม่ยอมให้มีใครมาตายต่อหน้าต่อตาชั้นหรอกนะ」

 

「เฮ้ย แล้วทำไมแกถึงได้ไร้รอยขีดข่วน」

 

 

 

ชายร่างใหญ่แสดงท่าทีหงุดหงิดและขว้างหินเวทย์มาอีก

 

อย่างไรก็ตามเซนอสก็คว้ามันไว้ในมือและไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ

 

 

 

「อะไร ทำบ้าอะไรของแกฟะ」

 

「ก็เป็นแค่ฮีลเลอร์ที่มาใช้บั้นปลายชีวิตที่สลัม ดูเหมือนจะไม่มีระเบิดเกิดขึ้นสินะ งั้นขอคืนให้แล้วกันเฟ้ย」

 

 

 

เมื่อเซนอสแกล้งโยนหินเวทย์กลับไป พวกนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องเล็กน้อยแล้ววิ่งหนีไป

 

ขณะที่หันหลังกลับมาหาชั้น ชายร่างใหญ่ก็อ้าปากแล้วพูด

 

 

 

「……จำไว้ ฝากไว้ก่อนเถอะมันจะไม่จบแค่นี้แน่」

 

「ก็ดีที่ได้สร้างคอนเนคชั่นกับกิลด์ใต้ดิน แต่ว่าครั้งหน้าไม่ฟรีแบบนี้หรอกนะ」

 

 

 

เหล่าพวกผู้ชายจากกิลด์ใต้ดินตอบสนองต่อคำพูดของเซนอส และจ้องมองไปยังพวกโซเฟียหายตัวเข้าไปในถนน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 87 หลังงานเทศกาล

「ถ้าอย่างงั้นก็ขอบคุณสำหรับความพยายามอย่างหนักค่ะ คัมไป~」

 

 

 

หลังจากงานเทศกาลในสลัมจบลงไปอย่างงดงาม

 

โซเฟียที่พูดเช่นนั้นก็ยกแว่นตาของเธอขึ้นโพสต์ท่า

 

 

 

เป็นคำพูดที่จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ว่างานเทศกาลเป็นไปได้ด้วยดี

 

 

 

「เอ่อ ก็เข้าใจอยู่หรอก แต่ว่าทำไมต้องมาที่นี่ละเฟ้ย นี่มันบ้านชั้นนะ……?」

 

 

 

ณ ที่จัดงานเลี้ยงก็คือศูนย์รักษาของเซนอส

 

 

 

ทางด้านนอกหน้าต่างตอนนี้ปกคลุมไปด้วยความมืด

 

 

 

「ก็แบบว่านะคะ อาจารย์เป็นแรงผลักดันให้พวกเราจัดงานเทศกาลในครั้งนี้ จะฉลองโดยไม่มีอาจารย์ก็ยังไงอยู่ค่ะ」

 

「แล้วก็น้าา ริงก้าคิดว่าอยู่นี่แล้วสบายใจเหมือนอยู่บ้านเลยล่ะ」

 

「อืม ไม่ผิดแน่ที่นี่คือบ้านของพวกเรา」

 

 

 

「มันไม่ใช่บ้านพวกเธอสักหน่อยนะเฟ้ย?」

 

「แต่เดิมทีแล้วมันเป็นบ้านของข้ามิใช่รึ……?」

 

 

 

คาร์มิลล่าที่ออกจากงานมาก่อนหน้านี้ปรากฏตัวจากชั้นสอง

 

จากนั้นก็จ้องเซนอสตาเขม็ง

 

 

 

「อืม ไม่กลับบ้านช้าเกินไปเหรอน้อ」

 

「เอ่อ พอดีมีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย」

 

 

 

ขณะที่รับแก้วมาจากโซเฟียเซนอสก็ตอบคำถาม

 

 

 

ปัญหาคือมาจากกิลด์ใต้ดินที่บุกเข้างานเทศกาล

 

 

 

พวกที่แฝงตัวอยู่ในสลัม

 

เจ้าพวกนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ชอบให้ในสลัมเกิดความสงบขึ้น เพราะจะไม่มีงานทำ

 

 

 

ต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำความสะอาดผลพวงของการชุลมุน แต่ความเสียหายก็ไม่มาก

 

มีคนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่บ้างแต่เซนอสก็รักษาพวกเขาไปหมดแล้ว

 

 

 

「กลัวที่เจ้าพวกนั้นขว้างหินเวทย์ระเบิดเข้ามากะทันหันแบบนั้น กลัวว่ามันจะโดนลิลี่……」

 

 

 

ลิลี่ที่ถือถ้วยชาในมือทั้งสองข้างและพูดว่า

 

 

 

「ดิฉันเองก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าพวกเขาต้องการอะไร แต่ว่าก็ต้องดูท่าทีกันต่อไป」

 

 

 

โซเฟียที่พูดแบบนั้น ลิลี่ก็เงยหน้าขึ้น

 

 

 

「รอดูเหรอคะ?」

 

「บางทีถ้าอยากจะทำลายงานเทศกาลขนาดนั้น ก็ควรจะมาก่อเหตุแบบเงียบๆโดยไม่ปรากฏตัวนะ」

 

 

 

「อือ แต่ถ้าฝ่ายโน่นเล่นแบบนั้นริงก้าไม่ยั้งมือแน่นอน」  

 

「คราวนี้ก็แค่มาเตือนสินะ」

 

 

 

ลิงก้าและลีฟกล่าวต่อไป

 

 

 

「เตือน……」

 

「คุคุคุ……เข้าใจแล้วน้อ ดังนั้นก็ควรจะดำเนินการกับพวกกิลด์ใต้ดิน」

 

 

 

ลิลี่ตัวสั่นเมื่อเห็นคำพูดของคาร์มิลล่าที่บ่งบอกถึงลางร้าย

 

ทั้งสามคนเองก็ยักไหล่ขณะดื่มน้ำชา

 

 

 

「ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่กิลด์ใต้ดินไม่ใช่กิลด์ทั่วไป มันเป็นพวกชั่วช้าเลวทราม」

 

「ใช่เลย ริงก้าเองก็คิดว่าคงปล่อยเฉยไว้ไม่ได้ แต่ว่าของยังงี้มันต้องมีหน่วยงานมาดูแล」

 

「ดูเหมือนว่าจะมีหัวหน้ากิลด์และเจ้าหน้าที่บริหาร แต่ไม่ค่อยปรากฏตัวสักเท่าไร ดังนั้นสมาชิกส่วนใหญ่เลยไม่รู้จักหน้าคร่าตาของสมาชิกกิลด์ใต้ดิน」  

 

 

 

「อืม……」

 

 

 

ทั้งสามคนต่างจ้องหน้ามาที่เซนอสที่กำลังมองไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

「อืม ถ้าเจ้าผู้ชายคนนั้นเป็นศัตรูของอาจารย์ก็ไม่เท่าไรหรอกนะคะ」

 

「โอ้ นั่นสินะ ดูท่าทางงี่เง่า แบบนี้สบายหายห่วง」

 

「เฮ้อ โซเฟียกับริงก้านี่ก็พอๆกันเลยนะ」

 

「ไม่เลย เธอเองก็ด้วยนั่นแหละ」

 

「ไม่อยากมาโดนลีฟด่าว่าโง่หรอกนะ」

 

「ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วจะเอาไง」

 

 

 

「แล้วทำไมถึงดูมีความสุขที่โดนด่าล่ะเนี่ย……?」

 

 

 

ดูเหมือนจะรู้จักประเมินตนเองด้วยสินะลีฟ

 

โซเฟียยังคงพูดต่อ

 

 

 

「การก่อกวนเล็กน้อยแบบนี้เป็นเหมือนกับการประกาศสงครามกับฝั่งเรา และเราเองก็จะใช้มาตราการรับมือเต็มที่ค่ะ」

 

「อืม บังอาจมาขวางความสงบสุขของพวกเรา ดังนั้นริงก้าเองก็จะสั่งสอนนิดหน่อย แต่ถ้าฝั่งโน้นอยากเอาจริงเอาจังล่ะก็ ริงก้าจะเล่นด้วย」

 

「พวกเราไม่ควรเข้าไปยุ่งกับกิลด์ใต้ดิน ถ้าพวกเราไม่ต้องข้องเกี่ยว มันคงจะดีมากกว่านะ」  

 

 

 

「งั้นเหรอคะ…ไม่ได้สนใจเรื่องการเก็บกวาดพวกนั้น――」

 

 

 

ในคำพูดของเซนอสที่ตอบโซเฟีย เขาส่ายหัวเล็กน้อย

 

 

 

「บางทีอาจจะมีบางอย่างเคลื่อนไหวแล้ว」

 

 

 

 +++

 

 

 

เมืองหลวงของอาณาจักรฮาเซสมีศูนย์กลางอยู่ที่พระราชวังซึ่งเป็นเขตพิเศษที่ขุนนางอาศัยอยู่และมีการแบ่งบล็อกที่อยู่สำหรับประชาชนกับขุนนาง

 

เมืองสลัมตั้งอยู่ด้านนอกสุดโดยเฉพาะอยู่ในด้านตรงข้ามของประตูหลักของเมืองหลวง เรียกได้ว่าไม่อยู่ในตัวเมืองด้วยซ้ำ

 

 

 

ทุ่งภูเขาที่อยู่ด้านหลังเป็นดินแดนที่ไร้ซึ่งมนุษย์และในบางครั้งก็มีสัตว์อสูรเดินเข้ามาเช่นกัน

 

มีข่าวลือว่าศูนย์กลางจะออกมาจากพระราชวังจะมาทำหน้าที่ป้องกันแถวเทือกเขาไม่ให้สัตว์อสูรเข้าเมือง

 

 

 

โดยธรรมชาติแล้วมันเป็นเรื่องยากที่ศูนย์กลางจะมาดูแล แม้แต่ในเมืองสลัมเอง ยิ่งห่างจากใจกลางมากเท่าไรความปลอดภัยก็จะยิ่งแย่ลงและอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

 

 

 

พื้นที่เรียงรายเต็มไปด้วยค่ายทหารที่สั่นไหวไปกับสายลม

 

ในมุมหนึ่งของทางเดินใต้ดินที่ทอดยาวมีเสียงกรีดร้องของผู้ชายดังขึ้นจากด้านใน

 

 

 

「หนอยแน่พวกแกกกกกกกกกกก กับไอ้พวกลูกผสมพันธุ์นั้นพวกแกก็เอาชนะไม่ได้งั้นเรอะ」

 

 

 

คนจำนวนหนึ่งล้มลงต่อหน้าชายร่างใหญ่ผิวสีเขียว

 

 

 

「อาร่าอาร่า ทำอะไรกันเหรอคะ?」

 

 

 

เสียงผู้หญิงหวานๆดังมาจากด้านหลัง

 

ณ สภาพแวดล้อมอันมืดมิด แต่มีเรือนร่างอันน่าหลงใหลปรากฏตัวในความมืด

 

 

 

ชายร่างใหญ่เหยียดหลังตรงเล็กน้อย

 

 

 

「อืม ก็เป็นการอบรมสำหรับพวกเด็กใหม่ไง」

 

「นั่นหมายความว่าบุกงานเทศกาลล้มเหลวสินะคะ อย่าโยนความไม่ได้เรื่องไปลงที่ลูกน้องสิคะ」

 

「ไม่ ไม่ใช่เลย」

 

「อะไรนะกล้าหือกับดิฉันคนนี้งั้นเหรอ?」

 

「มะ ไม่」

 

「เป็นแค่แมลงแท้ๆลงไปนอนอยู่กับพื้นซะเถอะค่ะ」

 

「ว๊าาาาาาาาา……」

 

 

 

ร่างอันใหญ่โตของชายคนนั้นสูญเสียเรี่ยวแรงและคุกเข่าลงทันที

 

 

 

「ฉันกำลังถามว่าทำไมถึงได้ทำพลาดคะ」  

 

「เอิ่ม คือว่ามันมีคนมาขัดขวางพวกเรา เจ้านั่นสามารถหยุด【หินเวทย์ระเบิด】ได้ด้วยมือเปล่า……」

 

「อาระ มีผู้ชายแบบนั้นด้วยเหรอคะ」

 

 

 

เธอที่ได้ยินเรื่องราวเช่นนั้นก็เอานิ้วชี้ที่ขาวราวหิมะแตะไปที่ริมฝีปากสีแดงของเธอขณะพูดด้วยใบหน้าเคลิ้ม

 

 

 

「ถ้างั้น หมอนั่นคงน่ากินมากเลยสินะคะ?」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   ตอนที่ 88  วันวาน

「ดิฉันขอถามอีกครั้งนะคะว่าคนที่ขวางการโจมตีนั่นเป็นใคร?」

 

 

 

ณ ยามดึกของวันงานเทศกาล มีน้ำเสียงอันหวานช้อยของหญิงสาว ณ ทางเดินใต้ดินแห่งหนึ่ง

 

แม้จะอยู่ในพื้นที่แสงสลัว แต่กลับโชว์รูปลักษณ์อันแสนทรงเสน่ห์

 

 

 

「มันค่อนข้างจะมืดแล้ว เลยมองเห็นไม่ชัดนัก……..แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะสวมผ้าคลุมสีดำ……」  

 

 

 

ชายร่างใหญ่ผิวสีเขียวคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเธอและตอบด้วยความเคารพ

 

 

 

「ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกค่ะ ที่สำคัญคือหมอนั่นน่ะ ของดีรึเปล่า?」

 

「อะเอ่อ……..ก็ไม่แน่ใจ…..แต่เท่าที่ดูเหมือนจะเป็นมนุษย์」  

 

「เฮ้อ สวะนี่มันสวะจริงๆเรื่องแค่นี้ยังใช้ไม่ได้」

 

「ขออภัยด้วย」

 

 

 

จากนั้นเธอก็เงียบแล้วพูดต่อ

 

 

 

「แต่สุดท้ายแล้วก็มีบอสคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นประจำเมืองสลัมแล้วสินะคะ ฮุฮุฮุ」

 

「บอสงั้นเหรอ?」

 

「ก็คิดเอาเองสิคะ มันแปลกนะที่พวกครึ่งมนุษย์จะญาติดีกันได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ยังทำศึกชิงดินแดนกันเลือดตกยางออก แต่ความจริงที่ว่าสามารถหยุดพวกนั้นได้แสดงว่าต้องฝีมือไม่ใช่เล่นๆ」  

 

「โอ้วว เข้าใจแล้ว」

 

「อย่าบอกนะว่านี่แกลืมจุดประสงค์ไปแล้วว่าพวกเราโจมตีพวกมันเพื่ออะไร?」

 

「อะเอ่อ ใช่ครับ ผมก็คิดแบบนั้น」

 

 

 

ชายร่างใหญ่สรรเสริญและเงยหน้าขึ้น

 

 

 

「แล้วคิดจะทำอะไรกับบอสของพวกมันล่ะครับ?」

 

「ฉันบอกให้แกนอนราบอยู่กับพื้นไม่ใช่หรือไงย่ะ」

 

「อั่ก แต่ว่า」

 

 

 

ทันใดนั้นร่างของชายร่างใหญ่ก็ลงไปนอนราบกับพื้นอีกครั้ง

 

เธอคนนั้นมองลงมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชา

 

 

 

「ในช่วงเวลาของสงครามมนุษย์นั้นได้ครอบครองผืนป่าและดินแดนไร้ที่สิ้นสุด แต่ตอนนี้ชาวเมืองสลัมน่ะจะสามารถถูกบดขยี้เมื่อไรก็ได้」

 

「คะครับ……」

 

「เพราะแบบนั้นแหละฉันจะขึ้นไปเป็นผู้ปกครองเมืองสลัมแห่งนี้ และเมืองก็จะกลายเป็นของฉัน ถึงเวลาที่เราจะออกจากใต้ดิน」

 

 

 

ชายร่างใหญ่พยักหน้าขณะนอนคว่ำอยู่กับพื้น

 

 

 

「ปะเป็นความคิดที่สุดยอดเลยครับ」

 

 

 

ผู้หญิงคนนี้ดีดนิ้วราวกับทำอะไรบางอย่าง

 

ทันใดนั้นชายร่างใหญ่ก็สามารถลุกขึ้นยืนได้และพูดว่า

 

 

 

「แต่ว่าหมอนั่นดูธรรมดาทั่วไป ไม่น่าดูเป็นมนุษย์ที่จะสามารถปกครองพวกครึ่งสัตว์ได้เลย……」  

 

「อาร๊า อาร๊า เป็นผู้ชายด้วยสินะคะเนี่ย ดูควรค่าแก่การนำมาเป็นของเล่นจังเลยค่ะ」

 

 

 

ท่ามกลางความเข้าใจผิดเล็กน้อยเธอหัวเราะคิกคัก

 

ราวกับหลงใหลรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ชายร่างใหญ่ถามขณะที่แก้มแดงก่ำ

 

 

 

「ควรจะนำทหารไปกี่นายดีครับ」

 

「ไม่ต้องมากมายอะไรหรอก ขอแค่ฉันรู้ที่อยู่ของหมอนั่น ฉันก็น่าจะจัดการได้ไม่ยาก」

 

「เข้าใจแล้วครับ คุณหนูลิซ(リズ)」

 

 

 

เมื่อชายร่างใหญ่สรรเสริญ ผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆหลับตาลง

 

 

 

 +++

 

 

 

「คุณเซนอส ไม่เป็นไรนะคะ?」

 

 

 

ณ ศูนย์รักษาในวันรุ่งขึ้น

 

ในตอนท้ายของการทำงานช่วงเช้าลิลลี่พูดกับชั้น

 

 

 

「มีอะไรเหรอลิลลี่?」

 

「เอ่อก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีก็แค่งงระหว่างตรวจร่างกายนิดหน่อย」

 

「งั้นเหรอ」

 

 

 

เซนอสเกาแก้มและเอนหลังบนเก้าอี้เพื่อยืดเส้นยืดสาย

 

 

 

「อืม ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อคืนชั้นฝันถึงช่วงเวลาที่ชั้นใช้เวลาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เคยอยู่เมื่อนานมาแล้วน่ะ」

 

「คุณเซนอสหมายถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในสลัมเหรอคะ?」

 

 

 

ลิลลี่ถามขณะเติมน้ำร้อนลงในหม้อ

 

กลิ่นหอมของใบชาที่อ่อนหวานลอยอยู่ในอากาศ

 

 

 

「เป็นฝันแบบไหนงั้นเหรอคะ?」

 

「อืม………ถ้าจำไม่ผิดพวกเราได้กินขนมปังแข็งที่มีเกลือโรยอยู่เล็กน้อย พวกเรานั้นได้รับสารอาหารน้อยมากจนต้องเก็บเห็ดที่ขึ้นบนเสากินประทังชีวิต……」

 

「อืม ค่อนข้างแย่เลยนะคะ……」

 

 

 

ตอนนี้มันคือวันวาน

 

 

 

อากาศที่มืดและเหม็นอับชื้น

 

พื้นเย็นๆและแห้งอยู่เสมอ

 

 

 

สิ่งที่สะท้อนในแววตาคือการทะเลาะกันของผู้ใหญ่ และมีใครบางคนร้องไห้

 

สิ่งที่ชั้นเห็นในตอนนั้นมันคือภูมิทัศน์สีเทา

 

 

 

「เอ่อ แบบว่าสุดยอดไปเลยนะคะที่ทนมาได้」

 

「อืม พอมาคิดดูแล้วมันก็โครตจะแย่เลยล่ะ」

 

 

 

โดยปกติสภาพแวดล้อมเช่นนั้น เด็กๆจะคอยช่วยเหลือกันเอง แต่ผู้ใหญ่ก็ชอบกีดกันกับการที่เด็กอาศัยอยู่เป็นกลุ่ม

 

 

 

「เพราะแบบนั้นพวกเราถึงได้แบ่งออกเป็นกลุ่มสองสามคน และหากใครทำผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน」

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่เป็นคนรายงานความล้มเหลวของคนอื่นจะได้รางวัลเป็นของหวาน

 

ดังนั้นจึงเกิดความระแวงสงสัยในตัวเด็กๆทุกคนและเกิดบรรยากาศน่าอึดอัด

 

 

 

「คุณเซนอส พยายามได้ดีมากเลยค่ะ สำหรับตอนนี้นั้น……」

 

 

 

สำหรับท่าทางอันแสนประหลาดใจของลิลลี่ เซนอสยักไหล่เล็กน้อย

 

 

 

「แต่ว่ามันก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในเวลานั้นเท่านั้น และ――」

 

 

 

ชั้นหยุดพูดชั่วขณะ

 

 

 

「บางทีชั้นอาจจะโชคดีอยู่บ้างก็ได้」

 

「ลิลลี่ไม่คิดแบบนั้นเลยค่ะ……!」

 

「ไม่หรอก เมื่อมีเด็กในกลุ่มโตพอบรรลุนิติภาวะจะกลายเป็นแขนขารับใช้พวกผู้ใหญ่ และพวกเขาก็ใช้เด็กที่อายุน้อยกว่าในการทำงาน」

 

 

 

ราวกับเป็นการแก้แค้นที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ส่วนใหญ่พวกที่ได้กลายเป็นหัวหน้าก็มักจะใช้เบี้ยล่างอย่างทารุณ

 

 

 

「หัวหน้าทีมเป็นคนใจดีที่ปกปิดความผิดพลาดของชั้นและด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ในทีมจึงไม่ได้เลวร้าย」

 

 

 

สมาชิกในทีมจึงกลายเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน

 

แน่นอนว่าตามปกติก็แสร้งทำเป็นเข้ากันไม่ได้ต่อหน้าพวกผู้ใหญ่

 

 

 

เซนอสที่ทำงานขโมยของคนตายนั้นมักจะถูกทุบตีเพราะไม่ได้ทำตามที่สั่ง ถึงกระนั้นก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่หัวหน้าทีมออกรับแทนทั้งหมด และถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้น อาจจะเกิดเหตุแย่กว่านี้

 

 

 

「อืม หัวหน้าทีมของคุณเซนอสเป็นคนแบบไหนเหรอคะ?」

 

「เธอเป็นคนไว้ผมยาวๆ ยิ้มอ่อนๆอยู่เสมอและเป็นพี่สาวที่แสนใจดี」

 

「พี่สาว……เหรอคะ……」

 

 

 

ลิลลี่ถึงกับหยุดมือที่ถือถ้วยชา

 

 

 

「เอิ่ม…….พี่สาวงั้นเหรอคะ……ป่านนี้โตมาคงสวยน่าดูเลยสินะคะ แน่นอนว่าลิลลี่เองโตไปก็จะสวยเหมือนกัน」

 

「พูดบ้าอะไรน่ะ ตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอไงกัน?」

 

「คุคุคุ…..เข้าใจแล้วดูเหมือนจะชอบสาวเรียบร้อยและรักสะอาดสินะ」

 

「สาวเรียบร้อยและรักสะอาดเหรอ… นี่มันอะไรกันฟ่ะ แล้วเธอนี่ก็ชอบโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้อยู่เรื่อย」

 

 

 

คาร์มิลล่าโผล่มาจากมุมบนชั้นสอง

 

 

 

「แล้วถ้าข้าไม่มาที่นี่ ข้าจะต้องไปไหนน้อ」

 

「เออ…ก็นั่นดิ」

 

「ถ้างั้นก็หมายความว่าเธอคนนั้นคือรักแรกของเจ้าสินะ」

 

「เอ๋จริงงั้นเหรอคะ คุณเซนอส!」

 

「ยัยนี่พล่ามเรื่องไร้สาระอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วหะ……?」

 

 

 

ตอนนั้นชั้นยุ่งกับการเอาตัวรอดมากกว่าเรื่องรักใคร่แบบนั้นหรอก

 

แต่ว่านะหากมานึกถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารอยยิ้มที่เธอมีให้มันเติมพลังใจได้แค่ไหน

 

 

 

เซนอสพยักหน้าและมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

「พี่สาวลิซ…..ตอนนี้พี่ไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะ」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 89 ลางสังหรณ์

ณ กลางดึกของเมืองสลัม

 

มีลิซาร์ดแมนยืนอยู่คนเดียวในเขตชานเมือง

 

 

 

ในช่วงเทศกาลหลังจากเหตุการณ์โจมตีก็ได้กำชับเหล่าลิซาร์ดแมนให้ตรวจตราเป็นกลุ่มๆ แต่ตอนนี้เขาออกมาจากกลุ่มเพราะปวดปัสสาวะ

 

เมื่อกำลังจะกลับไปที่กลุ่มก็โดนเรียกจากด้านหลัง

 

 

 

「นี่คุณพี่ชาย」

 

 

 

เมื่อหันกลับไปก็เจอผู้หญิงคนนึง

 

 

 

ดวงตาของเธองอนยาวและผมสีม่วงที่พริ้วไหวไปตามสายลม

กลิ่นอันแสนเซ็กซี่เย้ายวนจิตใจนั่นส่งออกมาจากร่างของเธอ

 

 

 

「เธอเป็นใคร」

 

「ถ้าไม่ว่าอะไรพวกเรามาทำอะไรสนุกๆกันสักครู่ดีไหมคะ?」

 

「หาาาา? ชั้นกำลังทำงานอยู่ ไม่มีเวลาว่างมาเล่นหรอกนะ……」

 

 

 

กลิ่นหอมหวานชวนหลงใหลทำให้เขาเริ่มหมดสติ

 

ก่อนที่จะรู้ตัวเธอคนนั้นก็เข้าใกล้เขามากขึ้น

 

 

 

ในขณะที่ดวงตาของเขาถูกดึงดูดไปที่รอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของเธอจากนั้นก็มีรอยเลือดออกมาจากปลายเล็บของเธอ

 

 

 

「ทำบ้าอะไรของเธอฟะ」  

 

 

 

ฝ่ามือของเธอที่กดลงไปที่บริเวณคอของเขาเกิดเลือดซึมเล็กน้อย

 

จากนั้นหญิงคนนั้นก็ชี้นิ้วลงที่พื้นพร้อมกับพูดว่า

 

 

 

「นอนราบกับพื้นซะ ไอ้สวะ」

 

「อึก……」

 

 

 

จู่ๆตัวเขาก็ลงไปนอนราบกับพื้นอย่างขัดขืนไม่ได้

 

 

 

「เธอทำอะไรลงไป……」

 

 

 

ผู้หญิงคนนี้จ้องมองตัวเขาที่นอนราบกับพื้น

 

 

 

「เท่านี้ แกก็ไม่สามารถต่อต้านฉันได้แล้ว」

 

「ว่าไงนะ」

 

「ฮะฮะ ฉันเองก็เบื่อที่จะหมกตัวอยู่ใต้ดินแล้ว ตอนนี้ฉันเองก็อยากจะมาสูดอากาศบนดินบ้าง」

 

「ว่าไงนะ?」

 

 

 

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและเริ่มถามคำถาม

 

 

 

「หัวหน้าของพวกแกเป็นใคร?」

 

「……」

 

 

 

เขาพยายามปิดปากให้มิดชิด แต่ก็ไม่ได้ผล

 

 

 

「อะ……ของลูกพี่โซเฟีย……」

 

「หมายถึงยัยหัวหน้าเผ่าลิซาร์ดแมนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็รู้แค่นิดหน่อย แล้วถ้าจำไม่ผิดมีชายชุดดำคนหนึ่งที่คอยควบคุมเผ่าพันธุ์ต่างๆใช่ไหม」

 

「ชั้นไม่รู้……」

 

「อืมมมมมมม……」

 

 

 

ปลายนิ้วของเธอยกคางของเขาขึ้น

 

จ้องมองชายคนนั้นด้วยดวงตาอันทรงเสน่ห์

 

 

 

「พูดออกมาสิคะ」

 

「……เซ……」

 

 

 

จากนั้นเขาก็เป็นลมหมดสติไป

 

 

 

「เฮ้อ ไม่ได้เรื่อง! ก็บอกแล้วว่าอย่าพยายามขัดขืนคำสั่งของดิฉัน ถ้าไม่อยากพูดก็เตรียมใจตายซะเถอะ」

 

 

 

เธอยืนขึ้นช้าๆและสะบัดผมของเธอจากนั้นก็พ่นลมหายใจลงบนมือเธอเล็กน้อย

 

ชายร่างใหญ่ผิวสีเขียวโผล่ออกมาจากมุมมืด

 

 

 

「……จะบอกว่าที่แห่งนี้ถูกปกครองไปด้วยความกลัวงั้นเหรอ?」

 

 

 

ชายคนนั้นกรีดร้องไปทั่ว

 

 

 

「เฮ้อ เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะเนี่ย ไม่คิดแบบนั้นเหรอไกล์ออน(ガイオン)?」

 

「ฮ่ะ ถ้าไม่งั้นพวกนี้ไม่กล้าถึงขนาดฝ่าฝืนคำสั่งของท่านลิซหรอกครับ….บางทีคงเป็นบุคคลอันตราย」  

 

 

 

ชายร่างใหญ่ชื่อไกล์ออนพูดด้วยสีหน้าเฉยชา แล้วชี้ไปที่ลิซาร์ดแมนที่นอนบนพื้น

 

 

 

「ว่าแต่ทำอะไรลงไปกันครับเนี่ย? คิดจะทรมานให้หมอนี่คายความลับออกมาให้ได้เลยงั้นเหรอครับ?」

 

「อืม….ไม่ต้องยุ่งหรอกน่า ถ้ามีคนหายตัวไปในเมืองที่ตัวเองปกครองพวกนั้นก็คงจะต้องออกตามหาแน่นอน และยังเร็วเกินไปที่เราจะเปิดสงครามเต็มรูปแบบ แน่ใจว่าหมอนี่เดี๋ยวหมดสติก็ลืมทุกอย่างไปเอง」

 

「แน่ใจเหรอครับ?」

 

「มีพวกครึ่งสัตว์มากมายที่ยากจะเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว พวกนั้นจำนวนเยอะจะตาย ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเล่นตัวหัวหน้าแล้วใช้เป็นหุ่นเชิดของฉันมากกว่าท」  

 

「เข้าใจแล้ว สมแล้วที่เป็นท่านลิซ」

 

 

 

ในคำสรรเสริญของไกล์ออนลิซยิ้มเล็กน้อย

 

 

 

「ดิฉันแน่ใจว่าเผ่าพันธุ์อื่นกำลังลาดตระเวนอยู่แน่ๆ ดังนั้นบางทีพวกเราก็ควรจะไปล่าพวกมนุษย์หมาป่ากับพวกออร์คกันดีกว่า」

 

 

 

แต่ว่า――

 

 

 

「……เกิดอะไรขึ้น」

 

 

 

ลิซมองต่ำใส่พวกลิซาร์ดแมน ออรค์ มนุษย์หมาป่าที่โดนเธอล่า แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยชื่อหัวหน้าเลย

 

 

ไกล์ออนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเองก็ไม่อยากจะเชื่อ

 

 

 

「พวกเขาทั้งสามคนสลบไปก่อนจะได้พูดชื่องั้นเหรอเนี่ย」

 

「มันต้องน่ากลัวขนาดไหนถึงกับไม่กล้าเอ่ยชื่อถึงขนาดขัดขืนคำสั่งของดิฉันคนนี้」

 

「การปกครองด้วยความกลัวมันควรจะเป็นสิทธิ์ของพวกเรา แต่มีไอ้พวกแบบนี้อยู่บนพื้นดินด้วยงั้นเหรอ」

 

 

 

ไกล์ออนพูดด้วยน้ำเสียงที่ระแวงเล็กน้อย

 

 

 

「แต่พอจะรู้แล้วล่ะคุณหนูลิซ เกี่ยวกับตัวหัวหน้าพวกมัน」  

 

「งั้นเหรอก็พูดเลยสิ」

 

「เท่าที่ผมสังเกตดูอยู่ พวกเขาพูดคำขึ้นต้นว่า “เซ” และก็เป็นลมไป」

 

「ใช่แล้วค่ะ」

 

「ดังนั้นผมแน่ใจว่าชื่อผู้บงการเจ้าพวกนี้จะต้องมีคำว่า “เซ” อยู่ในชื่อ!」  

 

「หาาา? เรื่องแค่นี้คิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอคะ? นี่จะสมองทึบไปไหนคะเนี่ย เอางี้ดีกว่าค่ะในเมืองสลัมมีคนที่ชื่อนำหน้าด้วยคำว่า “เซ”กี่คน?」

 

「เอ่อ คุณหนูอย่าจ้องผมตาเขม่นแบบนั้นเลย」

 

 

 

ลิซถอนหายใจและเดินไปช้าๆ

 

 

 

「คราวหน้าเห็นทีต้องเอาคนที่มีไหวพริบดีกว่านี้แล้วค่ะ」

 

「งะงั้นเหรอครับ」

 

「เอาล่ะพวกเราจะกลับไปที่ใต้ดินกันก่อน」

 

「เอ๋ ไม่คิดจะหาตัวผู้บงการต่อเหรอ?」

 

「อย่าลืมสิคะ นี่มันก็ใกล้จะเช้าแล้ว จะโดดแดนเผาเอานะคะ ถ้าผิวฉันคล้ำความงามของฉันต้องลดลงแน่ๆเลยค่ะ」

 

「อะครับ」

 

「นอกจากนี้เตรียมการเสร็จแล้ว」

 

「เตรียมการเหรอครับ……?」

 

 

 

แม้ว่าไกล์ออนจะประหม่า แต่ลิซก็สยายผมเธอไปตามสายลม

 

 

 

「ดิฉันจะปกครองเมืองนี้และจับผู้บัญชาการเมืองนี้ให้มาเป็นหมาน้อยของฉันค่ะ ไม่มีใครจะต่อต้านฉันได้อีกแล้ว」

 

 

 

ลิซเอานิ้วเข้าปากพร้อมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

 

ภายใต้เลือดของซัคคิวบัสนี้――

 

 

 

 +++

 

 

 

「อึก……!」

 

 

 

ภายใต้ท้องฟ้ายามรุ่งอรุณที่กลางคืนและกลางวันมาบรรจบกัน

 

คาร์มืลล่าที่อยู่บนชั้นสอง ณ ศูนย์รักษา

 

 

 

「ลางสังหรณ์ของข้ามัน……」

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ

 

จากนั้นก็เจอเซนอสที่นอนกรน เธอจ้องมองใบหน้าของเขาและพูดด้วยความตื่นเต้น

 

「คุคุคุ…ก็ไม่รู้ว่าอะไรละเน้อ แต่ข้าคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจกำลังจะเกิดขึ้น」

ตอนที่ 90  ผู้ครองดินแดน【บทแรก】

 

「แล้วนายรู้ที่อยู่ของผู้ครองดินแดนในเมืองสลัมตอนนี้ไหมไกล์ออน?」

 

 

 

ลิซนั่งบนโซฟาหนังสีดำที่มุมหนึ่งของห้องใต้ดิน เธอถามคำถามกับลูกน้องของเธอ

 

 

 

「เอ่อ คือว่า……」

 

 

 

ด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย ไกล์ออนพยักหน้า

 

 

 

「อย่าทำตัวงุ่มง่ามฉันไม่ชอบพวกไม่ได้เรื่อง」

 

「เอ่ออย่าเกลียดผมเลยนะครับ」

 

「แล้วได้ทำตามที่สั่งไหม?」

 

「ครับ」

 

 

 

ไกล์ออนส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

 

「ทำตามที่บอกเรียบร้อย หลังจากที่ออร์คตัวนั้นฟื้นก็ให้ลูกน้องสะกดรอยตามไป」

 

「ก็นะ ถ้ามันฟื้นขึ้นมาก็คงจะรีบกลับไปทันทีเลยถูกไหมเพื่อรายงานให้หัวหน้าของมันทราบ แล้วพอจะรู้ไหม?」

 

「เอ่อ ตรงส่วนนี้ข้อมูลยังไม่แน่นอนครับ」

 

「ตอนที่ได้สัมผัสกับเลือดของฉัน ความทรงจำก็เลือนลางไปสินะ?」

 

「ถ้างั้นพวกเราไปตรงที่ซ่อนของออร์คดีไหมครับ」

 

 

 

ว่ากันว่าออร์คอาศัยอยู่บริเวณเหมือง

 

 

 

「อ่า ดูเหมือนพวกออร์คจะขุดเพื่อเอาหินเวทย์ไปขายเลี้ยงชีพนะ」

 

「เอ่อ พอดีผมเข้าไปข้างในไม่ได้เลยต้องซ่อนตัวด้านนอก」

 

「ระหว่างนั้นก็คงมีการป่าวประกาศข่าวให้ทราบโดยทั่วกันแล้วว่าลูกน้องตัวเองถูกทำร้าย」

 

「อะครับ ผมเองก็รอข้างนอกเป็นเวลานานและมองไปที่ที่กบดานของพวกมันแต่จำนวนก็ไม่มาก」

 

「เรื่องนั้นฉันไม่สนใจ」

 

「อะครับขออภัยด้วย」

 

 

 

ลิซหรี่ตาลงและถอนหายใจ

 

 

 

「พวกลิซาร์ดแมนกับมนุษย์หมาป่าเองก็คงจะได้รับข่าวเดียวกันสินะ?」

 

「ครับ คุณหนูลิซ」

 

「ดูเหมือนทั้งสามเผ่าที่เคยขัดแย้งกันตอนนี้สุมหัวกันและทำการแชร์เรื่องราวกัน」

 

「เป็นเช่นที่ว่าเลยครับ」

 

「ดูยังไงมันก็แปลกนะคะ」

 

「ครับ」

 

「นั่นหมายถึงว่ามีผู้ครองดินแดนคนใหม่ถือกำเนิดสินะ」

 

 

 

ลิซพูดพลางนั่งไขว่ห้าง

 

 

 

「เพื่อให้แน่ใจฉันก็เลยจัดการทั้งสามเผ่าให้เป็นเป้าหมาย ฉะนั้นพวกมันคงรายงานแก่หัวหน้าพวกมัน」

 

「ใช่แล้วล่ะครับ」

 

「แต่ก็มีเพียงแค่คนเดียวที่จะเป็นผู้นำพวกนั้น ต้องแข็งแกร่งขนาดไหนที่ปกครองด้วยความหวาดกลัวเช่นนี้」

 

「ถ้างั้น เราควรจะตามเผ่าที่ใช้หัวคิดน้อยอย่างออร์คตามหัวหน้าเผ่า ลีฟ นั่นไปยังที่อยู่ของผู้ครองดินแดนดีไหมครับ」

 

 

 

ไกล์ออนนำเสนอไอเดียว

 

 

 

「一แสดงว่านายเคยเห็นหน้าพวกเขาใช่ไหม?」

 

「ครับ เป็นผู้หญิงร่างใหญ่ที่ต่อสู้กับผมในงานเทศกาล」

 

「เฮ้อค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ อย่างน้อยก็ยังมีสมองแยกแยะว่าใครคือผู้นำเผ่า」

 

「อะฮะฮะ ขอบคุณครับ」

 

「ไม่ได้ชมสักหน่อยนะคะ」

 

 

 

ลิซลุกขึ้นยืน

 

 

 

「แล้วตามเป้าหมายสำเร็จไหม?」

 

「เอ่อ นางค่อนข้างจะหัวทึบ เลยให้ลูกน้องไล่ตามไปจำนวนหนึ่ง……」

 

「ฉันถามว่านายติดตามจนทราบที่อยู่ของผู้ครองดินแดนแล้วหรือยัง」

 

「อืม ผมคิดว่ามัน……」

 

 

 

ลิซจ้องไกล์ออนด้วยแววตาเย็นชา

 

 

 

「ดิฉันเคยบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่ชอบคนไม่ได้เรื่อง」

 

「ขอโทษครับ ก็เจอแล้ว แต่ว่า……」

 

 

 

ขณะที่ขมวดคิ้วด้วยความเครียดไกล์ออนก็ตอบ

 

 

 

「มันแค่รู้สึกว่าไม่เหมือนที่อยู่ของผู้ครองดินแดนเท่านั้นเองครับ……」

 

 

 

 +++

 

 

 

「นี่น่ะเหรอที่กบดาน……?」

 

 

 

ตอบพลบค่ำของวัน

 

 

 

ลิซที่มีไกล์ออนนำทางบ่นพึมพำด้วยความมึนงง

 

 

 

สถานที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่ถูกโรคระบาด

 

เป็นเมืองร้างที่ตั้งอยู่ระหว่างทางไปเมืองสลัม

 

 

 

「แน่ใจนะคะ?」

 

「เอ่อผมก็คิดว่ามันแปลกๆ……?」

 

 

 

ลิซซ่อนตัวอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

 

หน้าต่างที่ดังเอี๊ยดอ๊าดไปตามสายลมและผนังด้านนอกก็จืดจางอย่างสมบูรณ์

 

 

 

ไกล์ออนจ้องมองไปยังอาคารที่เหมือนจะถล่มได้ทุกเมื่อ พูดอย่างกังวล

 

 

 

「แต่ว่าผมเห็นว่าลีฟเข้ามาที่นี่ไม่ผิดแน่ นี่ผมเข้าใจผิดเหรอ」

 

「แย่มาก……」

 

「แย่เหรอครับ?」

 

「ไกล์ออน นายคิดยังไงถ้าที่ซ่อนของผู้ครองดินแดนสภาพเป็นแบบนี้?」

 

「เอ่อ…ถ้าจะให้พูดก็คือมันไม่น่าจะใช่ ทั้งสภาพที่แย่ และเรื่องความปลอดภัย……」

 

「นั่นสินะ」

 

 

 

ลิซจ้องมองไปที่บ้านร้างหลังหนึ่ง

 

 

 

「แต่ดูสิ หมอนั่นมาซ่อนตัวในเมืองร้างแบบนี้ รู้ไหมว่าทำไม?」

 

「เพราะไม่มีเงินเหรอครับ?」

 

「นี่นายงี่เง่าหรือเปล่า?ลองคิดดูสิผู้ปกครองในเงามืด」(ล้อซิดแหละ)

 

「ฮะ ผู้ปกครองในเงามืด……」

 

 

 

ข้างไกล์ออนซึ่งส่งเสียงด้วยความสงสัย ลิซกัดเล็บหัวแม่มือของเธอ

 

 

 

「นี่มันอาจจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ตึงมือกว่าที่คิด แถมความอาฆาตพยาบาทก็มีมากมายนับไม่ถ้วนในบ้านหลังนั้น」

 

 

 

 +++

 

 

 

「คุณเซนอส ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมชาให้ค่ะ」

 

「อ่า ขอบใจนะลิลลี่」

 

 

 

ณ  ศูนย์รักษาที่ลิซและไกล์ออนกำลังเฝ้าดูอยู่ เซนอสและลิลลี่นั่งอยู่รอบโต๊ะด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย

 

 

 

ช่วงเวลาแห่งความสุขหลังเลิกงาน

 

ลิลลี่เป่าชาที่ร้อน

 

 

 

「ว่าแต่คุณลีฟเธอพูดถึงอะไรงั้นเหรอคะ?」

 

「อ่า ได้ยินมาว่าชายคนหนึ่งที่สั่งให้ไปลาดตระเวนจะล้มพับเป็นลมไป โซเฟียกับริงก้าเองก็พูดแบบเดียวกันเด๊ะ」

 

「เกิดเรื่องผิดปกติงั้นเหรอคะ?」

 

「อืมนั่นสินะ ทุกคนกล่าวตอนช่วงกลางวันและก็มาทานข้าวที่บ้านเราเฉยเลยล่ะ เห็นที่นี่เป็นคาเฟ่รึไง」

 

 

 

เซนอสยกถ้วยชาขึ้นและมองไปรอบๆ

 

 

 

「เห้ย ! ยัยคาร์มิลล่า ปกติเวลาน้ำชาเธอจะชอบโผล่หัวมาไม่ใช่รึไง」

 

「พอดีข้ามีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดอะไรสักอย่างขึ้น ก็เลยขอหมกตัวอยู่ข้างบนละน้อ」

 

「อย่าบอกนะว่าวางแผนงี่เง่าอะไรอยู่น่ะ……」

 

 

 

เซนอสเงยหน้าขึ้นขณะจิบชา

 

 

 

「อืม? รสชาติต่างไปจากทุกทีนะ」

 

「ค่ะ พอดีว่าซื้อใบชามาใหม่ ถูกปากรึเปล่าค่ะ」

 

「อืม ก็ใช้ได้เลยล่ะ ช่วยให้สดชื่น แถมดื่มง่ายดีด้วย」

 

「เอฮิฮิ ยัตต้า」

 

 

 

ภายในคฤหาสน์ของผู้ครองดินแดนยังคงมีแต่ความสุข

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 91  ผู้ครองดินแดน【บทท้าย】

 

「จะทำอะไรน่ะคุณหนูลิซ」

 

 

 

ชายร่างใหญ่จ้องมองไปที่ศูนย์รักษาของเซนอสจากระยะไกล

 

 

 

「ก็เห็นๆกันอยู่บ้านศัตรูก็อยู่ตรงหน้าแล้ว?」

 

 

 

ขณะนั้นลิซก็จ้องมองอย่างเย็นชา

 

 

 

「เอาจริงงั้นเหรอ ยังจะถามอีกเหรอ?」

 

「เศษขยะที่รวมกันเป็นบ้านนี่ไม่เรียกบ้านหรอกนะ ถล่มซะก็สิ้นเรื่องสินะครับ」

 

「สมองน่ะมีก็ใช้บ้างนะ? ชายคนหนึ่งปกครองเมืองสลัมจากเงามืด ไอ้บ้านแบบนี้มันต้องเป็นการบลัฟแน่ๆ น่าจะมีฐานทัพอยู่ใต้ดินเหมือนพวกเรานี่ล่ะ」

 

「เอ๋ งั้นเหรอครับ……」

 

「และ――」

 

 

 

ลิซกอดอกหลวมๆ

 

 

 

「จุดประสงค์ของฉันไม่ได้มาเพื่อฆ่า」

 

「ไม่ใช่งั้นเหรอครับ?」

 

「ฉันว่าฉันพูดไปหลายครั้งแล้วนะ สมองมีไว้กั้นหูอย่างเดียวรึไง?」

 

「ขอโทษครับ」

 

 

 

ลิซถอนหายใจและพูด

 

 

 

「หากผู้ครองดินแดนจบชีวิตลง เผ่าพันธุ์ที่รวมมาจนตอนนี้ต้องแตกแยกแน่นอน และมันดีกว่าถ้าเราเป็นคนคุมตัวหมากที่ชื่อ “ผู้ครองดินแดน” เหมือนหมาที่เลี้ยงให้เชื่อง」  

 

「เพราะงั้นเราจะแพ้ไม่ได้สินะครับ」

 

「มันไม่เกี่ยวกับเรื่องแพ้ชนะแต่มันต้องใช้เวลา และมันจะยิ่งลำบากหากมีองค์กรใต้ดินอื่นๆหวังจะทำแบบเดียวกัน」

 

「นั่นสินะครับ」

 

「แผนของฉันก็คือการจูงจมูกชายคนนี้และทำให้เขากลายเป็นของเล่นของฉัน และฉันก็จะกลายเป็นผู้ครองดินแดนนี้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือแผนล่ะ」

 

「งั้นเหรอครับ」

 

 

 

ลิซจ้องไปยังที่ซ่อนตัวยามพลบค่ำ

 

 

 

「ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการทำตัวให้แนบเนียนที่สุด」

 

「แล้วทำไมไม่เข้าไปหาแบบปกติล่ะครับ」

 

「อาจจะมีองครักษ์ที่แข็งแกร่งคอยปกป้องอยู่ก็ได้และอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าหาผู้ครองดินแดน」

 

 

 

ถ้าคนน้อยก็ยังพอไปวัดไปวา แต่หากจำนวนมันเยอะล่ะ

 

 

 

「แล้วจะทำยังไงดีครับ?」

 

「อืม……」

 

 

 

ลิซกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทันใดนั้นประตูหน้าบ้านก็เปิดออก

 

 

 

「คุณหนูลิซมีคนกำลังออกมาครับ」

 

「อาจจะเป็นพวกยามก็ได้ซ่อนตัวเร็ว」

 

 

 

ขณะที่ซ่อนตัวอยู่หลังอาคารและเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กมีผมบลอนด์มันเป็นหางแกะขณะฮัมเพลงพร้อมกับกวาดลานหน้าบ้าน

 

 鼻歌を歌いながら、手に持ったほうきで館の前を掃いている。

 

 

 

「เอ๊ะ นั่นน่ะเหรอครับองครักษ์สุดแกร่ง……?」

 

「……」

 

 

 

ลิซเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด

 

 

 

「ไอ้โง่ ดูยังไงก็แค่คนดูแลบ้านชัดๆ」

 

「เอ่อ นั่นสิครับ」

 

「ฉันกำลังคิดว่า หากตัวผู้ครองดินแดนโดนตัดหัวอาจจะยกทรัพย์สินมีค่าให้กับผู้ดูแลบ้านอย่างเธอคนนี้ก็เป็นไปได้」

 

「โอ้ เข้าใจแล้วครับ ดูเหมือนจะฉลาดน่าดูเลย」

 

「นอกจากนี้เธอเป็นเอลฟ์ และฉันเธอดันเป็นพวกหายากในบรรดาเอลฟ์ด้วยนี่สิ」

 

「เอ๋ งั้นก็เป็นลูกครึ่งเหรอ……」

 

「ดูเหมือนว่างานนี้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่อยากจนเกินไป」

 

 

 

ลิซวางนิ้วชี้ไว้ที่ริมฝีปากและไกล์ออนที่กำลังเช็ดเหงื่อ

 

 

 

「……อืม? คุณหนูลิซมีคนกำลังมองเราจากหน้าต่าง」

 

「……หะ」

 

「เอ่อ พอดีผมเองก็ไม่เห็น แต่สัมผัสได้ครับ」

 

「แล้วนายสังเกตเห็นอะไรบ้าง」

 

「เอ่อดูเหมือนจะเป็นหญิงสาว หน้าซีดเหมือนคนตาย กวักมือเรียกให้มาที่บ้านนั่น อึก มันเป็นกับดักครับ」

 

「……」

 

 

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งลิซก็พูดด้วยความงุนงง

 

 

 

「มีหญิงสาวที่ถูกจองจำกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเรางั้นเหรอ」

 

「งั้นเหรอครับ」

 

「โอเคถ้างั้นก็ลุยกันเถอะ」

 

「เอาจริงเหรอครับ……?」

 

「พอมาคิดดูแล้ว ฉันไม่ค่อยชอบผู้ชาย “สับราง”เป็นว่าเล่นหรอกนะมีผู้หญิงเข้าออกตามตรอกซอกประตูเยอะแยะไปหมด คิดแล้วจัดการทิ้งดีกว่า」

 

「เห็นด้วยครับ」

 

「ถ้างั้นก็เล่นละครแบบง่ายๆ แค่แสร้งทำป่วยล้มลงนอนข้างถนน ถ้าเจ้านั่นรู้ก็ว่าฉันเป็นผู้หญิงก็คงจะอุ้มไปแบบไม่รอช้าแน่นอนล่ะ」

 

「ถูกต้องเลยครับคุณหนูลิซ」

 

 

 

สิ่งที่ต้องทำก็คือใช้โอกาสที่จะเปลี่ยนใครก็ได้มาเป็นหุ่นเชิดแทนก็พอ

 

ลิซยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับเอานิ้วชี้เข้าไปในปากของเธอ

 

 

 

「อะฮะฮะฮะ………..ฉันน่ะอดใจรอไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันจะดูดมันไปจนเหลือแต่กระดูกเลยคอยดูผู้ครองเมืองสลัม」

 

 

 

 +++

 

 

 

 一ในทางกลับกันชั้นสองของศูนย์รักษา――

 

 

 

「อุหวาาา อันตรายแท้คั่ก」

 

 

 

คาร์มิลล่าพึมพำกับตัวเองที่ซ่อนอยู่หลังม่าน

 

 

 

ฉันสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ของตัวเองมากขึ้นเลยออกไปมองนอกหน้าต่าง ก็เห็นใครบางคนซ่อนตัวอยู่อาคารตรงข้าม

 

มองเห็นไม่ชัดนัก แต่คิดว่าเป็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งกับชายร่างใหญ่

 

ฉันเองก็คิดว่ามันน่าสนใจ แต่ดูเหมือนฝั่งโน้นจะระวังตัวแจฉันก็เลยกวักมือเรียก

 

ไม่มีทางที่จะลดการป้องกันแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหนีเหมือนกัน

 

 

 

คาร์มิลล่าเหลือบมองไปที่หน้าต่างและยิ้มที่มุมปากของเธอ

 

 

 

「คุคุคุ……ข้าจะตั้งตารอเลยล่ะ ข้าเองก็จะดูดพลังชีวิตพวกเจ้าให้เหลือแต่กระดูกเลยผู้มาเยือนอันน่าสงสาร」

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 92  ปฏิบัติการแทรกซึมของคุณหนูลิซ【บทแรก】

 

ช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น

 

 

 

ข้างถนนไม่ไกลจากคลินิกมีหญิงสาวคนหนึ่งผมสีม่วงมันวาวกำลังจ้องมองอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของคลินิก

(ป.ล.ขอเปลี่ยนจากศูนย์รักษาเป็นคลินิกเพื่อความง่ายในการแปล)

 

ผมสีม่วงเป็นประกายของเธอแผ่สยายไปทั่วทั้วพื้น

 

 

 

ลิซเป็นคุณหนูผู้คุมโลกใต้ดินและต้องการเข้ามาควบคุมสลัมแห่งนี้

 

 

 

 ――ตอนนี้เธอมาที่นี่เพื่อจะจับผู้ปกครองเขตนี้ให้มาขึ้นตรงใต้อำนาจของเธอ

 

 

 

ลิซที่นอนคว่ำอยู่ก็หัวเราะอยู่ภายในใจ

 

 

 

นี่แหละกลยุทธ์

 

ผู้ปกครองแดนสลัมแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกชอบเต๊าะสาวเอามากๆเนื่องจากมีสาวเข้าออกบ้านไม่เว้นวัน แถมยังมีการกักขังหญิงสาวไว้บนชั้นบนด้วย

 

หากฉันแกล้งทำเป็นป่วยล้มนอนอยู่ข้างถนน ลูกน้องของเจ้านั่นจะต้องเข้ามาหาเป็นแน่และจะนำพาไปหาศัตรูโดยอัตโนมัติ

 

 

 

หากเข้าไปหาแบบตรงๆก็จะเกิดความระแวง แต่เพื่อไม่ให้กระต่ายตื่นตูมก็เลยต้องลอบเข้าด้วยกลยุทธ์อันแสนเพอร์เฟ็คนี่

 

พอเข้าหาเจ้านั่นได้ก็แค่ใช้เสน่ห์จากการที่ฉันเป็นซัคคิวบัสเข้าจัดการซะ

 

 

 

เมื่อวานไม่ได้เริ่มลงมือในทันทีเพราะคิดว่าหญิงสาวที่อยู่ชั้นบนของบ้านนั่นอาจจะเป็นกับดักก็ได้

 

เป็นไปได้ว่ายัยนั่นอาจจะเป็นลูกน้องแล้วแอบไปรายงานให้หัวหน้าฝ่ายนั้น เธอจึงไม่เริ่มเคลื่อนไหวทันที

 

 

 

ฉันตัดสินใจที่จะเคลื่อนไหวในวันถัดไป

 

 

 

 ――เอาล่ะ มาหาฉันเร็วเข้าสิ

 

 

 

ฉันไม่ค่อยชอบโดนแดดเผาสักเท่าไร แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปฏิบัติการตอนกลางวัน  

 

ฉันล่ะเบื่อหน่ายแสงแดดและกลิ่นของดินในช่วงกลางวัน แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยการครองสลัมก็คงยาก

 

ผู้หญิงทุกคนล้วนมีมารยาเป็นของตัวเองทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะหยิบมันออกมาใช้ยังไง

 

 

 

หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าหลายก้าวเข้ามา

 

 

 

「นี่ มีผู้หญิงคนหนึ่งล้มพับอยู่」

 

「เอ่อ ไม่เป็นไรนะ」

 

 

 

ดวงตาสีอ่อนนั่น มนุษย์หมาป่าสินะ

 

 

 

「นี่เอายังไงดีพาไปหาอาจารย์ดีไหม?」

 

「อ่าดูเหมือนจะยังมีลมหายใจอยู่นะ」

 

 

 

ขณะที่ลิซถูกอุ้มเธอก็แอบยิ้มอยู่ในใจ

 

อาจารย์ที่ว่าน่าจะหมายถึงผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้

 

ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายที่เหลี่ยมจัดจนขนาดมีลูกน้องเรียกว่าอาจารย์

 

 

 

ฉันจะแกล้งทำเป็นหมดสติแล้วให้พวกนั้นพาเข้าไปหาหัวหน้าของมัน

 

 

 

 ถ้างั้นก็ทำมาเป็นแกล้งหมดสติกันดีกว่าขณะที่คิดเช่นนั้น――

 

 

 

「ช้าประเดี๋ยวก่อนนนนนนนนนน」

 

 

 

มีเสียงแหลมสูงดังออกมา

 

 

 

มีผู้หญิงคนหนึ่งผมสีเทาเดินออกมา

 

 

 

「เอ่อ หัวหน้า」

 

「มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?」

 

 

 

ฝ่ายชายตอบกลับอย่างสงสัย

 

 

 

 ――หัวหน้ามนุษย์หมาป่างั้นเหรอ

 

 

 

ลิซซึ่งถูกชายมนุษย์หมาป่าอุ้มแอบมองด้วยดวงตาสลัวๆ

 

ฝ่ายหัวหน้าเผ่ามนุษย์หมาป่า มันตรงกับรูปลักษณ์ที่ได้ยินมาเป๊ะ

 

ริงก้าพูดกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

 

 

「ริงก้าถามว่าจะทำอะไรกับยัยนั่นกันแน่」

 

「เอ่อ พอดีผมเห็นเธอนอนล้มพับอยู่ก็เลยจะพาไปหาอาจารย์ มีอะไรงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「ริงก้าไม่อนุญาต」

 

 

 

หน้าอกของเธอสั่นสะท้าน

 

 

 

 ――อะไรกันรู้ตัวแล้วงั้นเหรอ?  

 

 

 

ดูเหมือนลูกน้องของเธอคนนั้นมองหน้าด้วยความคลุมเครือ

 

ขณะที่ดูสถานการณ์ไม่ให้มันวุ่นวายพวกมนุษย์หมาป่าก็มองหน้ากัน

 

 

 

「ทำไมกันล่ะครับหัวหน้า?」

 

「ทำไมน่ะเหรอ ดูหน้ายัยนั่นสิ」

 

 

 

 ตึก ตึก ตึก

 

หัวใจฉันเต้นรัวขึ้น

 

มนุษย์หมาป่าเริ่มเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอ

 

 

 

 ――ชิบแล้ว แบบนี้…….ได้โปรดอย่าความแตกเถอะ

 

 

 

นี่ฉันดูถูกพวกหนึ่งในสามเสาหลักของเมืองสลัมแห่งนี้เกินไปเหรอ

 

เมื่อหลับตาลง ลิซก็มีเหงื่อไหลบนหน้าผากของเธอ ริงก้าจ้องมองและพูดต่อ

 

 

 

「แม้ว่าจะไม่เด่นกว่าริงก้า แต่หน้าตาสวยใช้ได้เลยนะ」

 

 

 

 ――ว่าไงนะ?

 

 

 

จากนั้นลูกน้องของเธอก็เข้ามามองหน้าฉัน

 

 

 

「เอ่อ นั่นสินะครับ」

 

「เป็นอะไรไปงั้นเหรอครับ?」

 

「เอ่อนี่พวกแกไม่เข้าใจงั้นเหรอ」

 

 

 

ริงก้าพูดด้วยความหงุดหงิด

 

 

 

「ถ้าช่วยยัยนี่ขึ้นมาก็จะมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็นน่ะสิ」

 

 

 

 ――ค่าาาา?

 

 

 

เหล่าผู้ชายที่อุ้มลิซอยู่ก็ส่ายหัวเห็นด้วย

 

 

 

「อ๋อแบบนี้เองสินะครับ」

 

「หมายความว่าไง」

 

「ก็ตามที่พูดนั่นแหละ ปล่อยเธอนอนตรงนั้นไปซะ」

 

「ดะเดี๋ยวก่อนสิ!」

 

 

 

「หาาาาาาาา?」

 

 

 

 ――อะ เวรล่ะ。

 

 

 

เพราะตรรกะอันแปลกประหลาดทำให้ฉันเผลอพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

 

「นี่ เมื่อกี้เธอพูดรึเปล่า?」

 

「ไม่น่าใช่มั้ง……」

 

「ดูสินิ่งสนิทเลย」

 

 

 

ลิซหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง ในขณะที่พวกมนุษย์หมาป่ามองเธออย่างสงสัย

 

อย่าให้พวกนั้นจับได้ต้องแกล้งตายล่ะจังหวะนี้

 

ถ้าเพื่อเป้าหมายแล้ว ต้องลุยเท่านั้น

 

 

 

หลังจากสังเกตชั่วครู่หนึ่งริงก้าก็ยักไหล่พร้อมแสดงสีหน้าขยะแขยง

 

 

 

「……ให้ตายสิ ช่วยไม่ได้ละน้า อยากจะทิ้งก็จริงแต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อาจจะเกิดโรคติดต่อได้ ถ้าทำแบบนั้นอาจารย์เซนอสจะโกรธแหงๆ เพราะงั้นพาเข้าไป……」

 

 

 

พึมพำเช่นนั้นริงก้าก็สั่งลูกน้องให้อุ้มเข้าไป

 

 

 

 ――อะเยี่ยม ดูเหมือนจะผ่านด่านแรกไปได้

 

 

 

ลิซที่เหงื่อออก ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ก็สงสัยอยู่หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนการแทรกซึมของฉันจะประสบความสำเร็จ

 

 

 

 ――ถ้างั้นก็……。

 

 

 

ชื่อเซนอส นั่นคือชายที่ปกครองที่นี่งั้นเหรอ

 

เหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง แต่ฟังไปก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนักหรอก

 

 

 

มนุษย์หมาป่าเดินผ่านอาคารต่างๆของเมืองที่ล่มสล่ามจนกระทั่งมาถึงหน้าที่พัก

 

 

 

 

 

「อาจารย์เซนอส ริงก้าพาคนใกล้ตายมาล่ะ」

 

 

 

ริงก้าพูดเช่นนั้นและเคาะประตู

 

ทางเข้าของประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆด้วยเสียงลั่นของไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด

 

 

 

ทันทีที่ผู้ชายมนุษย์หมาป่าอุ้มผ่านธรณีประตูลิซรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความกลัว มันเป็นความกลัวเพราะตัวตนที่เหนือกว่าเธอ

 

 

 

 ――หึหึ….น่าตื่นเต้นเสียจริง ไม่ว่าจะเป็นใคร ตราบเท่าที่แกเป็นผู้ชาย ก็เสร็จฉันแน่ๆล่ะ。

 

 

 

ไม่ว่าเป้าหมายจะเก่งสักแค่ไหนถ้าได้เล่นกีฬาในร่มกับฉันรับรองเลยล่ะ

 

เพื่อการนั้นแล้ว ฉันจะต้องปกครองที่นี่

 

 

 

ลิซผู้เป็นผู้ปกครองกิลด์ใต้ดิน ตัดสินใจแล้วหายตัวเข้าไปด้านหลังของประตูราวกับกำลังถูกดูดเข้าไปในบ้านผีสิง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 93  ปฏิบัติการแทรกซึมของคุณหนูลิซ【บทกลาง】

 ――นี่นะเหรอคฤหาสน์ของผู้ปกครอง……。

 

 

 

ลิซที่แกล้งตายพยายามแทรกซึมเข้าไปในที่ซ่อนในขณะที่ถูกมนุษย์หมาป่าอุ้มตัวเอาไว้

 

 

 

แสร้งทำเหมือนตายขณะที่มองไปรอบๆด้วยดวงตาสลัวๆ

 

 

 

ด้านในนั้นดูเรียบง่ายและไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรูหรา

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะมียามเฝ้าประตูกันหนาแน่น แต่ไม่มีเลยสักกะคนเดียว

 

 

 

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น อาจมีประตูที่นำไปสู่โลกใต้ดินของเจ้านั่นก็ได้ และต้องมีศัตรูจำนวนมากล้อมเอาไว้

 

 

 

เพราะแบบนั้นเลยจะต้องระวังไว้ให้ดี

 

 

 

「อาระริงก้าซัง ยินดีต้อนรับค่ะ」

 

 

 

เป็นเอลฟ์สาวที่โผล่มาจากด้านหลัง

 

ดูเหมือนจะเป็นคนที่คอยทำความสะอาดหน้าอาคารเมื่อคืนนี้

 

มีสาวๆคอยดูแลอยู่ตลอดเลยนะหมอนี่

 

 

 

ไม่มีคนคุ้มกันแสดงให้เห็นบริเวณรอบๆนี้ มีแต่คนที่ดูท่าจะเป็นมิตรออกมาต้อนรับ

 

ดูท่าฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายที่ระวังตัวอย่างมาก

 

 

 

ลิซสังเกตเห็นได้ว่าเอลฟ์คนนั้นกำลังจ้องมาที่เธอ

 

 

 

「เอ่อคือว่า ริงก้าซัง เธอเป็นใครเหรอคะ?」

 

「อ่า พอดีเห็นยัยนี่สลบอยู่กลางถนน กลัวว่าถ้าตายกลางถนนจะปล่อยโรคระบาดได้ เลยพามาหาอาจารย์ อาจารย์อยู่ไหม?」

 

「เอ่อถ้าคุณเซนอสล่ะก็อยู่ตรวจบ้านคนไข้ค่ะ」  

 

「อะ แต๊งกิ้ว」

 

 

 

 ――หะอยู่ในบ้าน……?

 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลิซก็ขมวดคิ้ว

 

“ตรวจบ้านคนไข้” รหัสลับอะไรงั้นเหรอ

 

ขณะที่สงสัยอยู่นั่นเองริงก้าก็พูดด้วยท่าทางกลุ้มๆ

 

 

 

「แล้วกลับมาตอนไหนเหรอ?」

 

「เขาบอกว่าอาจจะกลับมาช้าหน่อยเนื่องจากระยะทางมันค่อนข้างจะไกลค่ะ」

 

「ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ งั้นเอายัยนี่ไปทิ้งดีไหม」

 

 

 

 ――เดี๋ยว แล้วทำไมทำแบบนั้นละเห้ย!

 

 

 

คำพูดของริงก้าแทบจะทำฉันเป็นบ้าไปเลย

 

เอลฟ์สาวตัวน้อยบอกด้วยความกรุณา

 

 

 

「เอ่อ ริงก้าซังให้เธอไปนอนพักที่เตียงก็ได้นะคะ」

 

「……เอางั้นเหรอ เฮ้อ」

 

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างริงก้าพูดด้วยท่าทางเหนื่อยใจ ลิซนอนหงายอยู่บนเตียงใกล้หน้าประตูทางเข้า

 

 

 

「เดี๋ยวฉันจะคอยดูอาการเธอเองค่ะ เมื่อคุณเซนอสกลับมาจะให้ทำการวินิจฉัยอาการทันที」

 

「อืม ฝากด้วยนะลิลี่」  

 

 

 

ริงก้าพูดพร้อมถอนหายใจและเดินออกไปพร้อมกับคนของเธอ

 

ความเงียบงันมาเยือนทั่วทั้งพื้นที่

 

ลิซหลับตาลงและนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

 

 

 

 ――ในที่สุดก็จะถูกพาไปหาเจ้านั่นแล้ว

 

 

 

 แต่――

 

 

 

อะไรกัน ไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวใดๆเลย

 

 

 

 ――เกิดบ้าอะไรขึ้น……?

 

 

 

พยายามลืมตาขึ้นเล็กน้อย

 

 

 

 ――อ๊ะ ว๊ายยยยยย……!

 

 

 

ลิซที่เกือบจะพูดอีกครั้ง ถึงกลับกลืนคำพูดลงไปในลำคอแทบจะทันที

 

 

 

เอลฟ์สาวตัวน้อยจ้องลงมองที่เธออย่างไม่ลดละ

 

ดวงตาสีบลอนด์อันแสนงดงามของเธอเป็นประกายพร้อมกับพูดพึมพำเล็กน้อย

 

 

 

「อืม…..สาวสวยอีกแล้วเหรอคะเนี่ย……」

 

 

 

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

 

 

 

 ――หะ อะไร จะเกิดอะไรขึ้น……?

 

 

 

ความหนาวเย็นแปลกๆไหลลงมายันกระดูกสันหลังของเธอ ร่างกายเอลฟ์สาวตัวน้อยนั้นปล่อยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

 

ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ทาสคอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ความกดดันนี่ไม่ใช่เล่นๆแล้ว

 

 

 

 ――ไม่มีทางที่เธอคนนี้จะเป็นผู้ติดตามของเจ้านั่น….ตัวหมากที่แข็งแกร่งที่สุด…?

 

 

 

「อืมมม……ขนตาฉันเองก็……」

 

 

 

 ――……เอ๊ะ?

 

 

 

「ผิวเองก็ขาวเนียน……」

 

 

 

 ――อะเร๊ะ……?

 

 

 

「แถมไฟหน้ายังใหญ่……」

 

 

 

 ――เดี๋ยวก่อนนะคะ……?

 

 

 

「ขาเองก็เรียวยาว……」  

 

 

 

เอลฟ์สาวตัวน้อยกำลังจ้องมองราวกับวินิจฉัยร่างกายของเธอ

 

 

 

 ――ยะยะยะยาไบ……。

 

 

 

 เมื่อลิซคิดว่าคงกลายเป็นเนื้อสับ――เอลฟ์สาวคนนั้นก็ยักไหล่

 

 

 

「เฮ้อ…รอบๆตัวของคุณเซนอสจะมีแต่สาวสวยระดับนางงามแบบนี้เดินไปทั่วไม่ได้นะคะ แบบนี้ลิลลี่มีปัญหาค่ะ」

 

 

 

เธอพูดอะไรแปลกๆออกมา

 

 

 

อะไรกัน เธอพูดบ้าอะไรกันแน่เนี่ย?

 

 

 

ลิซพยายามอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้า จนได้ข้อสรุป

 

 

 

 ――หืมมมม! เป็นการตัดสินที่ว่าจะส่งตัวไปหาผู้ปกครองดินแดนหรือไม่งั้นเหรอ?

 

 

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่พยายามพาไปห้องใต้ดินและมีเตียงอยู่ตรงทางเข้าสินะ

 

เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดกรองถึงจะเข้าไปได้นี่เอง!

 

 

 

บางทีเธอคนนี้อาจจะมีหน้าที่คูณสองคือคนรับใช้และผู้ตรวจสอบ

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอประเมินหน้าตาของฉันอย่างใกล้ชิด

 

 

 

 ――เอาเลย เชิญชมร่างกายที่แสนงดงามของดิฉันให้เต็มที่และพาฉันเข้าไปเสียที

 

 

 

เมื่อเธอแสดงความมั่นใจ ลิลลี่ก็พูดด้วยท่าทางสับสน

 

 

 

「อ่าา ไม่ได้นะ เธอก็แค่คนป่วยเท่านั้นเองไม่ใช่คนที่จะมาเกาะแกะกับคุณเซนอสสักหน่อย ถ้ามีคนจะทำอะไรคุณเซนอส ลิลลี่จะปกป้องเองงงงงง……!」

 

 

 

เธอพูดแบบนั้นพร้อมกับวิ่งไปที่ตู้

 

หากจ้องมองเล็กน้อยดูเหมือนเธอจะหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวเล็กๆที่ทำด้วยมือและสวมมัน

 

 

 

ลิลลี่มองไปรอบๆยืนบนเก้าอี้ด้วยท่าทางภูมิใจ

 

 

 

「ฟุฟุฟุ….ดิฉันมีนามว่าลิลลี่เป็นหมอเถื่อนฝึกหัด ฉันจะรักษาอาการเจ็บป่วยให้หายไปในทันที……!」(หมอแห่งความมืดแปลตรงๆก็หมอเถื่อนแหละเนอะ เพราะไม่มีใบประกอบวิชาชีพ)

 

 

 

 ――อะไรกัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันเริ่มรู้สึกได้ถึงอันตราย……

 

 

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับดิฉันในอนาคต

 

ลิซหลับตาลงพร้อมกับเหงื่อเต็มหน้าผาก

 

   

บางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่อาการหลอนไปเองของดิฉันก็ได้ แต่ดิฉันคิดว่าได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอยู่ทางด้านบน

ตอนที่ 94  ปฏิบัติการแทรกซึมของคุณหนูลิซ【บทท้าย】

――เอ่อ….จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปคะเนี่ย……?

 

 

 

ลิซลืมตาขึ้นด้วยความวิตกกังวลเล็กน้อย

 

เธอถูกพาเข้าไปในคฤหาสน์ของผู้ปกครองดินแดนในฐานะคนป่วย และยังถูกจับให้นอนอยู่บนเตียงหน้าทางเข้า

 

 

 

ไม่มีวี่แววของยามที่คอยรักษาความปลอดภัย มีเพียงเอลฟ์สาวตัวน้อยที่ท่าทางดูน่าหวาดหวั่น

 

 

 

ตัวเธอที่เป็นทั้งคนรับใช้และผู้ตรวจสอบได้ทำการประเมินฉันอย่างใกล้ชิด แต่เธอก็ไม่ได้บอกผลที่แน่ชัดและเดินจากไป

 

 

 

จากนั้นเธอก็ไปสวมเสื้อคลุมสีดำตัวเล็กๆ

 

 

 

「เอาล่ะนะคุณพี่สาวแสนสวย อาการเป็นยังไงขอน้องสาวคนนี้ดูหน่อยสิ? ลองบอกลิลลี่ผู้นี้ผู้เป็นหมอเถื่อนฝึกหัดมาสิ!」

 

 

 

เธอพูดออกมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

 

 

 

ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะถามฉันที่แกล้งหมดสติอยู่ ฉันควรตอบไปดีไหม

 

ไม่สิ ถ้าทำแบบนั้นก็โดนรู้แต่แรกว่าแกล้งป่วยจริงไหม

 

มันอาจจะเป็นการสอบสวนเบื้องต้นดังนั้นจึงตัดสินใจหลับตาต่อไปอีกหน่อย

 

 

 

ได้ยินน้ำเสียงอันเศร้าหมองของเอลฟ์สาวใกล้ๆ

 

 

 

「ไม่มีทางหรอกใช่ไหมคะที่จะแค่พูดคุยแล้วจะรักษาพี่สาวคนนี้หาย」

 

 

 

คราวนี้เธอจับไหล่ของฉัน

 

ลิซตัดสินใจหลับตาลงครู่หนึ่ง

 

 

 

「อืม……เอาล่ะนะคะ……【วินิจฉัย】!」

 

 

 

จากนั้นเธอก็ร่ายเวทย์

 

มันเป็นเวทย์ที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็ไม่มีวี่แววเปิดใช้งานอะไรเลยสักนิด

 

 

 

「เฮ้อ มันคงไม่ง่ายเหมือนที่คุณเซนอสทำสินะคะ เวทย์รักษานี่มันยากกว่าที่คิดอีกนะคะเนี่ย……」

 

 

 

เฮ้อ เธอถอนหายใจราวกับหมดอารมณ์

 

 

 

「อืม…สุดท้ายฉันก็แค่เด็กฝึกงานควรทำตามที่คุณเซนอสสอนมา」

 

 

 

เธอพึมพำก่อนโน้มตัวเข้ามาใกล้ลิซ

 

 

 

 ――หมอนั่นสอนอะไรเธอ……?  

 

 

 

คิดจะทำอะไร

 

เมื่อดวงตาสลัวๆได้เห็นใบหน้าสวยๆใกล้ๆ มันยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

 

 

 ――ใกล้เกินไปแล้วววววววววว……。

 

 

 

ริมฝีปากของพวกเราแทบจะสัมผัสกันแล้ว

 

 

 

 ――เดี๋ยวก่อนนะแม่สาวน้อย ดิฉันไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น จุ๊บ จุ๊บ……! นี่แกสอนบ้าอะไรกับเด็กสาวตัวน้อยกัน――  

 

 

 

ลิซพยายามกลั้นเอาไว้ จากนั้นเธอก็ดึงตัวออกและมองมา

 

 

 

「อืม ยังหายใจตามปกติอยู่」

 

 

 

พูดเช่นนั้นเธอก็เอามือทาบบนหน้าผากของฉัน

 

   

 

 ――อ๊าาาาาาา……!

 

 

 

อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ

 

 

 

「อืม ดูเหมือนจะไม่มีไข้」

 

 

 

คราวนี้เธอจับข้อมือของฉัน

 

 

 

 ――เดี๋ยว……!

 

 

 

「ชีพจรปกติดี คุณเซนอสบอกเอาไว้ว่าถ้าลมหายใจและการไหลเวียนเลือดเป็นปกติแสดงว่าเธอคนนั้นยังไม่ตายเร็วๆนี้แน่ๆ」  

 

 

 

อะไรนะ นี่ฉันถูกคลำไปทั่วทั้งตัวแล้วอธิบายแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจทั้งนั้นเลย

 

 

 

 ――หรือว่านี่คือทักษะการคัดกรองที่ทำงั้นเหรอ นี่มันออกมาแย่รึเปล่านะ……!

 

 

 

หลังจากตรวจสอบลักษณะร่างกายโดยรวมแล้วเธอก็จ้องมองร่างกายของฉัน

 

เธอจ้องมองละเอียดทุกซอกทุกมุมราวกับคัดกรองให้ถี่ถ้วน

 

ดูเหมือนว่าหากมีอาการผิดปกติตรงไหน

 

ไม่น่าจะผ่านเข้าไปหาผู้ปกครองของที่นี่ได้

 

 

 

 ――เฮ้อ หนักใจชะมัด……。

 

 

 

หากเจอเจ้านั่นก็คงจัดการเสร็จในรวดเดียวอยู่หรอก แต่ถ้าต้องมาผ่านการตรวจบ้าบออะไรนี่มันโหดหินเกินไปแล้ว

 

ถ้ามีพวกยามผู้ชายก็พอจะใช้เป็นหมากที่ใช้แล้วทิ้งได้อยู่หรอก แต่ดันเป็นผู้หญิงพลังของซัคคิวบัสไม่มีผล

 

 

 

 ――หมอนั่นมัวไปทำอะไรที่ไหนอยู่มาเร็วๆสิ

 

 

 

ลิลลี่กอดอกและพึมพำ

 

 

 

「อืม แต่ถ้ายังไม่ตื่น อาจจะมีอาการผิดปกติกับสมอง ถ้างั้นก็ต้องทำแบบนี้」

 

 

 

 มือเล็กๆของเธอจับเปลือกตาของฉันให้ลืมขึ้นและ――    

 

 

 

「【ไลท์】」

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก」

 

「เอ๋?」

 

 

 

เปลือกตาของฉันที่ถูกเปิดออกและโดนแสงสว่างซัดเข้าที่ดวงตามันช่างจ้าจนฉันเผลอกรีดร้องออกไป

 

 

 

「เอ๊ะได้ผลงั้นเหรอ?」

 

「ตาฉ้านนนนนนนนนนนนนนนน……」

 

「เอ๊ะไม่ใช่ว่าหมดสติหรอกเหรอ? ลิลลี่เข้าใจผิดเหรอ? หนูก็ว่าทำตามหลักสูตรที่เรียนมา……」  

 

 

 

จากนั้นเอลฟ์สาวตัวน้อยก็มองหน้าฉัน

 

ฉันเดาว่าถ้าฉันแกล้งหมดสติอีกฝ่ายจะลดการป้องกันตัวลง แต่อย่างใดตอนนี้ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย

 

ลิซแสร้งทำเป็นหลับอย่างสิ้นหวัง ลิซกรีดร้องอยู่ภายในใจ

 

 

 

 ――ตามที่ได้เรียนมา เรียนอะไรของเธอมากันยะ ไอ้หมอนั่นมันอยู่ไหนนนนนนนนนน……!

 

 

 

 +++

 

 

 

「……หืม?」

 

 

 

เมื่อไปเยี่ยมตามบ้านผู้ป่วยเซนอสก็เงยหน้าขึ้น

 

 

 

「เป็นอะไรไปเหรอครับ ท่าน?」

 

 

 

ผู้ป่วยสูงอายุที่อยู่บนเตียงถามแบบนั้น

 

 

 

「เอ่อบางทีผมคงหูฟาดไปเองแหละครับเหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง……」

 

「เอ่อไม่ใช่ว่าช่วงนี้โหมงานหนักเกินไปจนไม่ได้พักรึเปล่าท่าน? ต้องขอโทษด้วยที่ให้มาไกลเช่นนี้」

 

「ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณเองก็อาการแย่มาก ผมไม่สามารถให้คุณไปหาผมที่คลินิกได้หรอกครับ」

 

 

 

เกิดอะไรขึ้นที่คลินิกรึเปล่านะ

 

เซนอสจ้องมองดวงอาทิตย์ทางหน้าต่าง และเริ่มเตรียมตัวสำหรับการกลับบ้าน

 

 

 

ป.ล. สำหรับมังกรจะลงสลับกันสัปดาห์กับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการลงตอนนี้เริ่มไม่แน่นอนเพราะเริ่มเข้าวัยทำงานแล้วครับ

เลิกเล่นเกมเสียส่วนใหญ่ละ

 

สนับสนุนค่าชานมได้ที่ : 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/ทรูวอลเล็ต

ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์

ฮีลเลอร์สุดเมพโดนไล่ออกจากตี้ (สุดกาก) ผันตัวมาเป็น ดาร์กฮีลเอร์

Status: Ongoing
แกไม่ได้ทำอะไรเลยเมื่อเร็วๆ พวกเราไม่ต้องการแกแล้ว」 วันหนึ่งเซนอส โดนหัวหน้าปาร์ตี้แอสตรอนบอกแบบนั้น เซนอสที่เป็นฮีลเลอร์จากบ้านนอกและไม่มีใบอนุญาติอย่างเป็นทางการ ถึงกระนั้นก็ฝึกหนักอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนปาร์ตี้ที่มาดูแลชั้น    ด้วยเหตุนี้ หากเพื่อนได้รับบาดแผลเล็กน้อยก็รักษาให้ในทันที และใช้เวทย์ป้องกัน ใช้ฟื้นฟูอัตโนมัติ และเสริมพลังกาย ที่มันใช้ได้ยากและว่ากันว่าปาร์ตี้ของเซนอสนี่เป็นอมตะกันเลยทีเดียว   อย่างไรก็ตาม พวกนั้นก็เข้าใจผิดว่าปาร์ตี้ของตนเองเก่งขึ้นและไม่จำเป็นต้องพึ่งเซนอสอีกแล้วและใช้เซนอสเป็นคนแบกสัมภาระ และเริ่มคิดว่าเซนอสเป็นตัวถ่วง หลังจากโดนไล่ออกจากปาร์ตี้ เซนอสได้ช่วยชีวิตทาสเอลฟ์สาวที่ได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญ 「ดิฉัน ยังมีชีวิตอยู่เหรอคะ……? ฉันคิดว่าฉันตายแล้วซะอีก」 「ฮะฮะฮะ รอยขีดข่วนแค่นี้จิ๊บจ๊อยน่า」 「……สุดยอดไปเลยค่ะ」 หลังจากช่วยเอลฟ์สาวแล้ว เซนอสเองก็ตัดสินใจเปิดศูนย์รักษาแห่งความมืดที่มุมมถนน เนื่องจากเขาไม่มีใบอนุญาติ การรักษาจึงเป็นแบบปากต่อปาก แต่ข่าวลือของดาร์กฮีลเลอร์นั่นแพร่กระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศที่ช่วยเหลือผู้อ่อนแอและทำเงินได้เป็นจำนวนมาก จนในที่สุดก็ดังไปถึงพระราชวัง ในทางกลับกันอดีตปาร์ตี้ของเซนอสก็บาดเจ็บกันหนักมากเพราะเสียฮีลเลอร์สุดเมพไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงถูกบอกให้พากลับมาตอนนี้ แต่ว่าได้เงินมากมายขนาดนี้ ใครจะกลับฟะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท