บทที่ 67 : ข้ำอยำกได้น้องสำว
“พี่ไป๋หยาน …”
หลานเสี่ยวหยุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไป๋หยาน จ้องมองสุนัขจิ้งจอก
ในอ้อมแขนของผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาว.
สายตาของนางที่มองมานั้น ทาเอาไป๋เสี่ยวเฉินตัวสั่น เขารีบ
ซุกอกมารดาของตนงุด ๆ
“ข้าจะหาสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นให้เจ้าในภายหลัง ตัวนี้ไม่ได้”
ไป๋หยานไม่ยอมมอบบุตรชายของตนให้ผู้ใดเป็นแน่ เช่นนั้น
นางจึงรีบบอกปัดความคิดของหลานเสี่ยวหยุนในทันที
“ก็ได้…”
แววตาของหลานเสี่ยวหยุนเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางมอง
ไป๋เสี่ยวเฉินที่ซุกอกไป๋หยานอย่างไม่เต็มใจ “ทว่าจิ้งจอกที่พี่
จะหาให้ข้าต้องงดงามเช่นนี้นะ”
งามเหมือนลูกของนางกระนั้นเหรอ ?
ไป๋หยาน ไม่อยากเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก นางจึงเปลี่ยน
หัวข้อสนทนา “ไว้เมื่อถึงเวลานั้น เราค่อยพูดกัน หยุนเอ๋อ
เจ้าโยนไป๋จื่อไว้ที่หน้าประตู จากนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ”
“พี่ไป๋หยาน พี่ไม่เข้าไปพบน้องชายแล้วหรือ ?” หลานเสี่ยว
หยุนประหลาดใจกับสิ่งที่นางได้ยิน
พี่ไป๋หยานกาลังเป็นห่วงน้องชายอยู่มิใช่หรือ ? ทว่าเหตุใดจู่
ๆ พี่ถึงคิดจะกลับ ทั้งที่มาถึงหน้าประตูแล้วแท้ ๆ ?
“เขาปลอดภัยดี”
ไป๋หยานยกยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายแลดูน่าอันตราย
นับจากนี้ไป หอบุปผาจะคอยปกป้องไป๋เซียว จะไม่มีอันตราย
ใด ๆ แผ้วพานเขาได้อีก
เช่นนั้นนางย่อมสามารถทาภารกิจของนางได้อย่างสบายใจ !
“เสี่ยวมี่ เจ้าพาเฉินเอ๋อกลับบ้านที”
ทันทีที่ไป๋หยานกล่าวจบ อุ้งเท้าเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินก็เกาะ
แขนเสื้อของนางแน่น เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองนาง พร้อมกับ
น้าตาเอ่อคลอหน่วย
นั่นทาให้หัวใจของนางอ่อนยวบลงทันที นางถอนหายใจอย่าง
หมดหนทาง ทาได้เพียงกล่าวว่า “เสี่ยวมี่ เจ้ากลับไปก่อน
แล้วพรุ่งนี้ข้าค่อยพาเฉินเอ๋อกลับบ้าน”
“เมี้ยว…”
เสี่ยวมี่ร้องคราง เขามองมารดาและบุตรชายอีกครั้ง ก่อนจะ
หันหลังกลับ วิ่งควบออกไปอย่างว่องไวท่ามกลางราตรี เพียง
ไม่ช้าร่างของเขาก็หายลับไปบนท้องถนนที่ทอดยาว…
“ไป กลับบ้านกันเถอะ” ไป๋หยานกอดร่างเล็ก ๆ ไว้ในอ้อม
แขน จากนั้นก็เดินนาหน้ามุ่งสู่บ้านสกุลหลาน
ครั้นนางกลับถึงบ้านสกุลหลาน หลานหยูผู้เป็นลุงก็ยังไม่
กลับมา ตอนนั้นนางขอให้หลานหยูออกจากบ้านสกุลหลาน
เพื่อไปสอบถามเรื่องของไป๋เซียว และเพื่อให้มั่นใจว่าเขา
ปลอดภัยดี นางจึงสั่งให้เสี่ยวมี่ติดตามไป๋เซียวอีกทางด้วย
ดูจากสถานการณ์แล้ว หลานหยูคงจะไม่กลับมาในเร็ว ๆ นี้
เป็นแน่ …
เดิมทีหลานเสี่ยวหยุนอยากจะตามไป๋หยานเข้าไปในห้องด้วย
แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ทว่าเพียง
ขอแค่ได้เล่นกับสุนัขจิ้งจอกนั่นก็ยังดี
อย่างไรก็ตาม ไป๋หยานเองก็ต้องการรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น นาง
จึงรีบปิดประตู กระทั่งกระแทกจมูกของน้องสาว
หลานเสี่ยวหยุนลูบจมูกตัวเองป้อย ๆ ท่าทีของนางเศร้า
สร้อย หากแต่เมื่อหวนคิดถึงคาสัญญาของไป๋หยาน นางก็
สบายใจขึ้น
“อย่างน้อยพี่ไป๋หยานก็ให้สัญญาแล้วว่าจะหาสุนัขจิ้งจอกมา
ให้ข้าเลือกในภายหลัง เช่นนั้นข้าก็ไม่ควรเร่งรัดนางในเวลานี้
”
คิดได้เช่นนี้ นางก็มองประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะเดินจากไป
อย่างอารมณ์ดี
*****
หลังจากรอฟังเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ไกลห่างออกไป กระทั่ง
ชัดเจนว่าเสียงนั้นลับหายไปอย่างแน่นอนแล้ว ไป๋หยานก็ถอน
หายใจออกมาด้วยความโล่งอก นางหันกลับมามองจิ้งจอกตัว
น้อยที่นอนอยู่บนโต๊ะ
ภายใต้แสงไฟที่ไหววูบวาบ ร่างน้อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไป เพียงชั่ว
พริบตา เด็กชายน่ารักราวกับตุ๊กตาพลันปรากฏขึ้นต่อหน้า
นาง
“เฉินเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับน้าของเจ้า” หัวใจของไป๋หยานเต็ม
ไปด้วยความกังวลเมื่อเอ่ยปากถาม
“หม่ามี้ หญิงชั่วผู้นั้นน่ารังเกียจมาก !” แก้มเล็ก ๆ ของไป๋
เสี่ยวเฉินเป็นสีชมพูเมื่อกล่าวต่อว่า “ท่านน้าป่วย นางไม่ยอม
เรียกหมอมาตรวจดูอาการเขา ทั้งยังกักขังเขาไว้อีก หนาซ้า
ข้ายังได้ยินพวกนางกล่าววาจาดูถูกเหยียดหยามหม่ามี้กับ
ท่านน้าด้วย !”
“แล้วไงต่อ ?”
“หม่ามี้ มารดาของหญิงชั่วผู้นั้นบอกให้นางมีบุตรกับชายสัก
คน หม่ามี้ท่านมีน้องอีกสักคนให้ข้าจะได้หรือไม่ ? ข้าอยาก
ได้น้องสาวมาเป็นเพื่อนเล่นข้า” นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินเป็น
ประกายสดใส ขณะจ้องไป๋หยานตาไม่กระพริบ
ไป๋หยานกระแอมไอ ก่อนจะตอบกลับอย่างกระอักกระอ่วน
“เจ้ายังไม่มีบิดาเลย แล้วแม่จะมีน้องสาวให้เจ้าได้อย่างไร ?”
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 67
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์
นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้
ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย
มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก
ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก
แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…
จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”