ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 162 โชคดีที่ได้ทำงานกับเถ้าแก่

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 162 โชคดีที่ได้ทำงานกับเถ้าแก่

ตอนที่ 162 โชคดีที่ได้ทำงานกับเถ้าแก่

ในตอนเย็น ซูเถาพาหลินฟางจือไปทานอาหารเย็นที่ห้องของคุณย่าเฉิน

หลังจากทั้งสองกินอิ่มและช่วยคุณย่าล้างจานจนเสร็จจึงกลับออกมา และเมื่อลงมาจากอาคาร 3 ก็เจอกับกานหงอวี้

“เถ้าแก่ซู บัตรผ่านประตูถึงอิเล็กทรอนิกส์พร้อมแล้ว ผมจะสอนวิธีใช้ให้คุณ มันง่ายมากและสามารถทำได้ในสิบนาที” กานหงอวี้เอ่ยกระตือรือร้น

ซูเถายื่นเครื่องสื่อสารให้เขาและพูดว่า

“คุณทุ่มเทเกินไปแล้ว นี่มันก็ดึกแล้วนะคะ”

“ไม่เป็นไร ผมชอบที่จะทำสิ่งนี้อยู่แล้ว เถ้าแก่ซูสามารถคลิกที่ ‘การควบคุมการเข้าถึง’ คุณจะเห็นหน้าการดำเนินการหลังจากเข้าสู่…” กานหงอวี้เต็มไปด้วยความสุข

หลังจากที่ซูเถาได้ยิน ก็รู้สึกว่ามันก็ง่ายและสะดวกมาก

ด้วยวิธีนี้ ผู้เช่าของอาคารหมายเลข 1 จะสามารถเข้าสู่ได้แค่อาคารหมายเลข 1 เท่านั้น และถ้าจะเข้าอาคารอื่น ก็จำเป็นต้องให้ผู้เช่าของอาคารนั้น ๆ เป็นผู้เปิดให้

ในอาคารสำนักงาน ก็มีเพียงพนักงานของเถาหยางเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้ตามต้องการ ถ้าคนนอกต้องการเข้าไปด้านใน ก็ต้องเป็นพนักงานในอาคารเป็นคนเปิดให้และพาเข้าไป

แบบนี้ก็จะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

วันรุ่งขึ้น ซูเถาได้มอบบัตรผ่านประตูอิเล็กทรอนิกส์ให้กับจวงหว่าน

“ช่วงนี้ พี่ขอให้ผู้เช่ามาหาพี่ทีละคนเพื่อรับบัตรผ่านประตูอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีผู้เช่าหรือพนักงานใหม่ พี่ก็ออกให้ได้เลยในวันที่ลงทะเบียน”

เมื่อจวงหว่านเรียนรู้กับมันแล้ว เธอก็พยักหน้าแล้วพูดว่า

“ได้ กานหงอวี้มีพรสวรรค์จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เขาทำงานกับเราในฐานะฟรีแลนซ์เท่านั้น”

ซูเถายิ้มและพูดว่า “ตราบใดที่เขาอาศัยอยู่ในเถาหยาง ก็ไม่น่าเสียดายหรอกค่ะ”

จวงหว่านคิดเช่นนั้น เธอจึงมองไปทางอื่น และแสดงรายชื่อผู้เช่าใหม่ให้เธอดู

“ฉันให้สิทธิ์การเข้าพักห้องเดี่ยวกับป้าทำความสะอาดของเราก่อน มีทั้งหมด 4 คน และอีก 5 คนจะเป็นพนักงานขายของเราที่จะจ้างในต้นเดือนหน้า ส่วนที่เหลือก็ปล่อยเช่าให้คนนอกหมดแล้ว เดี๋ยวพวกเราเข้าไปคุยข้างในกัน…”

ซูเถาพยักหน้า “ได้ค่ะ ดีเลย ๆ”

“มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับที่ห้องเช่าราคาถูก เซิ่งอวี๋หลันถามฉันว่ามีห้องพักแบบหนึ่งห้องนอนหรือสองห้องนอนที่มีราคาต่ำไหม เธอต้องการลงทะเบียนแทนครอบครัวของเธอ”

ซูเถาถามว่า “ยังไม่มีเลยค่ะ พี่ลองถามว่าครอบครัวของพวกเขาสามารถมีงบประมาณค่าเช่าได้เท่าไรในแต่ละเดือน แล้วฉันจะดูว่าฉันจะทำได้ไหม”

จวงหว่านกล่าวว่า “ฉันถามแล้ว ครอบครัวของพวกเขาสี่คนมีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 30,000 เหลียนปัง รายได้ต่อเดือนที่สามารถใช้จ่ายในการเช่าบ้านได้เพียง 20,000 เหลียนปัง”

ซูเถาคำนวณในใจแล้วพูดว่า “น่าจะได้อยู่ค่ะ เดี๋ยวฉันจะลองดูนะ”

การกำหนดค่าเช่าขั้นต่ำขึ้นอยู่กับการตกแต่งทั้งหมด มันจะขึ้นตามของระบบค่าเช่าห้อง 1 ห้องนอนรายไตรมาสน่าจะลดลงเหลือ 45,000 ถึง 50,000

ครอบครัวของเซิ่งอวี๋หลันน่าจะสามารถจ่ายค่าเช่าเฉลี่ย 15,000 ถึง 20,000 เหลียนปังต่อเดือนได้

จวงหว่านกล่าวอย่างมีความสุข

“เยี่ยมมาก ฉันได้ยินจากจื่อเยว่ว่าที่ที่ครอบครัวของพวกเขาอาศัยอยู่มีคนไม่ดีปะปนอยู่ ทุกครั้งที่เธอกลับมาจากชั้นเรียนก็มักจะเป็นกังวล ถ้าเธอสามารถมาอาศัยอยู่ที่เถาหยาง เธอก็จะได้มาสอนหนังสือให้ฟางจือและลูก ๆ ของฉันได้อย่างสะดวก”

ซูเถากล่าวว่า “ฉันได้ยินมาว่าเฉินหยางไม่ค่อยตั้งใจเรียน ปกติเขาทำอะไรคะ”

พูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้จวงหว่านปวดหัว

“ไปเที่ยวกับเหลยสิงทุกวัน… เขาเพิ่งหัดขับรถเมื่อไม่นานนี้ และเพิ่งหัดยิงปืนอีกด้วย แต่เขาไม่ยอมเรียนหนังสือ ฉันควบคุมเขาไม่ได้แล้ว ยังดีที่ลูกสาวเป็นเด็กที่เชื่อฟัง เฉินซี อวี๋หลัน แล้วก็คุณ ถ้าในอนาคตแต่งงาน ต้องมีลูกสาวนะ ถ้ามีลูกชายก็คงจะดื้อรั้นไม่เชื่อฟังแบบนี้”

ซูเถาโบกมือ “พี่พูดเรื่องนี้เร็วเกินไปแล้ว ฉันยังไม่สนใจหรอกค่ะ แล้วพี่ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันขอตัวไปทำการก่อสร้างก่อน ต้นเดือนหน้าพนักงานใหม่จะมา อาคารสำนักงานไม่พอแน่ คราวนี้จะตั้งใจสร้างให้ใหญ่ทีเดียวเลย”

จวงหว่านตั้งตารอ “โชคดีจังที่ได้ทำงานกับเถ้าแก่ สู้ ๆ นะ!”

ซูเถาตอบรับในลำคอ และเริ่มการก่อสร้างใช้เวลาห้าหรือหกชั่วโมง

เธอเพิ่มขนาดของอาคารเถาหลี่เดิมเป็นสองเท่า ครอบคลุมพื้นที่ 600 ตารางเมตร

ตามแบบการออกแบบที่ผู้อาวุโสเหม่ยมอบให้ ทางเข้าชั้น 1 คือส่วนต้อนรับหรือล็อบบี้ ในอนาคตจะมีการรับสมัครพนักงานต้อนรับสาวสวยสองคน

กระจกบานใหญ่ติดไว้ที่ผนังด้านหลังล็อบบี้ ทำให้ห้องโถงทั้งหมดดูกว้างขวางขึ้น

ล็อบบี้ยังปูด้วยพื้นหินอ่อนซึ่งมีความแวววาว

ผู้อาวุโสเหม่ยพูดถูก เมื่อมีแผนกต้อนรับ ก็ดูดีมีระดับมากยิ่งขึ้น

ทางด้านขวาของแผนกต้อนรับส่วนหน้าเป็นห้องน้ำสาธารณะชายและหญิง

ด้านซ้ายเป็นประตูและลิฟต์

และในส่วนนี้จะเป็นประตูที่มีไว้สำหรับควบคุมการเข้าออกเพื่อเข้าสู่พื้นที่สำนักงานภายใน

หลังจากเข้าประตูแล้วก็สามารถขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่สูงขึ้นไป หรือเลี้ยวขวาเข้าสู่พื้นที่สำนักงานส่วนแรก

มีโต๊ะทำงานอยู่สิบสี่ที่ในพื้นที่สำนักงาน และทุก ๆ สี่โต๊ะทำงานจะถูกจัดเรียงเป็นรูปกากบาท โดยมีฉากกั้นกระจกฝ้าอยู่ตรงกลาง ซึ่งไม่เพียงสื่อสารได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่งด้วย

โดยมีครัวเปิดเข้ามุมชิดผนังอยู่ถัดเข้าไป มีตู้กดน้ำ เคาน์เตอร์ และอ่างล้างจาน

เมื่อเข้าไปด้านในอีกนิด ประตูข้างห้องน้ำชาคือห้องทำงานส่วนตัวของผู้อาวุโสเหม่ย

เมื่อพิจารณาถึงความไม่สะดวกของเขา ซูเถาจึงสร้างห้องน้ำในห้องทำงานของเขาด้วย

หลังจากสร้างชั้นแรกแล้ว ซูเถาก็หมดแรงลงไปมาก เนื่องจากมีรายละเอียดมากมาย เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ฟ้าก็เกือบจะมืดแล้ว เธอเลยพักงานตรงนี้ไว้ก่อนแล้วกลับไปกินข้าว

ทันทีที่เขาเข้าไปในประตู เธอเห็นหลินฟางจือกำลังกินบิสกิตที่พ่อครัวฉินมอบให้

ซูเถาตกใจ “นายกินกล่องนั้นหมดแล้วเหรอ นายกำลังกินกล่องของฉันสินะ”

หลินฟางจือหยุดเคี้ยวทันที และเกิดความรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

“ผม ผมคิดว่าพี่ไม่กิน…”

ซูเถาโบกมือ “ช่างมันเถอะ นายกินเลย แต่เหลือไว้ให้ฉันครึ่งหนึ่งนะ”

หลินฟางจือเอียงกล่องเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่า “เหลือไม่ถึงครึ่ง…”

ซูเถา “…นายชดใช้ให้ฉันกล่องหนึ่งเลยนะ”

หลินฟางจือพยักหน้าทันที “พรุ่งนี้ผมไปหาลุงฉิน”

จากนั้นเขาก็กินบิสกิตที่เหลือ และนั่งลงบนโซฟากับเสวี่ยเตา

ซูเถาเปิดเครื่องสื่อสารเพื่อหาเฮยจือหม่า จากนั้นบอกหลินฟางจือ

“ไปเรียกเฮยโต้วที่อยู่ชั้นล่างของอาคารหมายเลข 1”

หลินฟางจือลุกขึ้นทันที และวิ่งลงไปข้างล่างและพาเฮยจือหม่ากลับมา

เฮยจือหม่าเม้มปากใส่เขาราวกับสาปแช่งและไม่ยอมกลับบ้าน

ซูเถาปิดประตูอย่างไม่ค่อยพอใจ

คืนนี้นอนหลับแล้ว

ในเวลาแปดโมงเช้า ซูเถาปล่อยเฮยจือหม่าออกไปตามปกติ ทันทีที่เปิดประตู เธอเห็นหญิงทำความสะอาดเดินไปมาหน้าห้องของเธอ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอให้เธอออกไป

ซูเถาจำเธอได้ หลังจากที่ชีอวิ๋นหลันย้ายตำแหน่งไป เธอก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าคนงานทำความสะอาดคนปัจจุบัน เธอแก่ที่สุดในบรรดาป้าทำความสะอาดทั้งหมด ในวัย 50 ปี

แต่ชีอวิ๋นหลันกล่าวว่าเธอจริงจังกับงานมาก ไม่ทำงานล่าช้า และน่าเชื่อถือมาก

“ว่าไงคะป้าคัง”

เมื่อเห็นว่าเธอเปิดประตู ป้าคังรีบพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย

“ถะ…เถ้าแก่ซู ไม่มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ แต่ฉันเพิ่งได้ยินจากผู้จัดการจวงเมื่อวานนี้ว่าฉันสามารถอาศัยอยู่ในห้องเช่าราคาถูกของเราได้ ฉันมีความสุขมาก นอนไม่หลับทั้งคืน ฉันไม่มีอะไรจะให้ ฉันก็เลยอยากจะมาช่วยคุณทำความสะอาด เพื่อเป็นการตอบแทน”

“ฉัน…ฉันจะไม่รบกวนเวลางาน แต่ฉันจะมาช่วยคุณทำความสะอาดหลังเลิกงาน ฉัน…”

ซูเถารีบพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรเลย ป้าทำงานหนักมาก ฉันไม่มีอะไรให้ทำความสะอาดหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

ป้าคังยังคงกระวนกระวายเล็กน้อย “ทำไมคุณถึงขอบคุณฉัน! ฉันอยากจะขอบคุณคุณจริง ๆ ฉันนอนข้างนอกมาสองสัปดาห์แล้ว ฉันหาที่อยู่อาศัยไม่ได้ ผู้คนเห็นว่าฉันแก่และตัวคนเดียว เลยไม่ยอมให้ฉันเช่าบ้าน..”

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท