ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 196 ได้รับชัยชนะ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 196 ได้รับชัยชนะ

ตอนที่ 196 ได้รับชัยชนะ

“พี่หย่ง ฉันว่ามันแปลก! ถ้าเหลียนซาอยากกลับมา เธอก็กลับมาเองสิ ทำไมถึงขอให้พี่ไปรับเธอ!” ชวีจิ้งอวิ๋นพูดอย่างกังวล

ฝ่ายบริหารของสถานีเก่าแต่ละคนก็เห็นด้วย พวกเขาทั้งหมดไม่เห็นด้วยที่ถานหย่งจะออกไปรับเหลียนซา แต่ถานหย่งไม่ได้เจอเหลียนซามานานแล้ว ดังนั้นจิตใจของเขาก็เลยกระวนกระวาย

“เตรียมรถ!”

ชวีจิ้งอวิ๋นกอดเอวรั้งเขาไว้

“พี่หย่ง! ตั้งสติหน่อย! นี่เป็นกลอุบาย! ฉันเชื่อ มันไม่ใช่เรื่องดี100%!”

ถานหย่งผลักเธอออกด้วยความรังเกียจ

“ชวีจิ้งอวิ๋นฉันอดทนกับเธอมานานแล้ว เธออิจฉาซาซาและไม่อยากให้ฉันไปรับเธอ! แม้ว่ามันจะเป็นกับดักจริง ๆ แต่ตอนนี้ซาซากำลังตกอยู่ในอันตราย ฉันจะไปช่วยเธอ ไปให้พ้น!”

ชวีจิ้งอวิ๋นเซล้มลงไปด้านข้าง และก่อนที่เธอจะลุกขึ้นทันเวลา ก็ตะโกนบอกทุกคน

“มัวทำอะไรกันอยู่ ไปหยุดเขา!”

ถานหย่งพูดอย่างเย็นชา “วันนี้ใครก็ตามที่ไปกับฉัน ในอนาคตจะมีโอกาสพัฒนาพลังวิเศษด้วยผลึกนิวเคลียสของฉัน!”

หินก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่นนับพัน

สิ่งล่อใจนั้นยิ่งใหญ่จนผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติเกือบทั้งหมดที่สถานีเก่ารีบออกไป

……

“คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมเดาว่าถานหย่งคงไม่มาที่นี่คนเดียว ต้องมีการสู้รบเกิดขึ้นแน่นอน ให้เหลียงเช่อพาคุณไปที่เนินเขาตรงนั้น” เหลยสิงหันกลับมาและพูดกับซูเถา

ซูเถาถามเขาว่า “พวกคุณแน่ใจใช่ไหม”

เหลยสิงแยกฟันเขี้ยว “ต้องทำอย่างนั้น ไม่งั้นผมคงทำเรื่องนี้ให้คุณแบบไม่วางใจ ผมเองก็กลัวจะขายหน้าเหมือนกัน ดังนั้นรีบไป ผมจะจับเป็นถานหย่งมาให้คุณแน่นอน”

ซูเถากังวลเล็กน้อยและให้เหลียงเช่ออยู่กับพวกเขา ส่วนเธอก็พาหลินฟางจือ เสวี่ยเตา สยงไท่และเหลียนซาขึ้นรถไปหลบอยู่ไหล่เขาด้านข้าง

จากตำแหน่งนี้ซูเถาไม่สามารถมองเห็นเหลยสิงและคนอื่น ๆ ได้

เธอต้องการที่จะขับรถไปด้านข้างเล็กน้อย แทนที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ อย่างน้อยก็ได้เห็นการต่อสู้

แต่ก่อนที่เธอจะได้ดำเนินการใด ๆ เหลยสิงก็ได้ส่งข้อความมา

‘อย่าขยับ คุณมองไม่เห็นเรา เมื่อถานหย่งและพวกมาทีหลัง พวกเขาก็จะมองไม่เห็นคุณเช่นกัน มันจะปลอดภัย ผมจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล’

ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้

สยงไท่พูดอย่างสั่นสะท้านในขณะนี้

“เถ้าแก่ซู ทำไมเราไม่ขับรถออกไปให้ไกลกว่านี้ เผื่อกัปตันเหลยและพวกพ่ายแพ้ ถานหย่งจะต้องส่งคนมาค้นละแวกนี้แน่นอน เผื่อว่าเราถูกจับได้…”

ซูเถาชำเลืองมองเขาและพูดอย่างหนักแน่น “ถ้าพ่ายแพ้ ฉันจะพาคุณไปฆ่าตัวตาย ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับได้”

เลือดทั่วร่างกายของสยงไท่เย็นลงทันทีตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนถึงศีรษะ

เขาพยายามหาพันธมิตรเพื่อช่วยตัวเอง แต่หลินฟางจือที่อยู่ข้าง ๆ บิดฝาขวดเพื่อส่งน้ำให้ซูเถาเหมือนปกติและไม่สนใจเขาเลย

เจ้าหมาดำแก่ขี้เกียจนั่นรู้แค่วิธีนอนกรนเท่านั้น

สิ่งที่เหลืออยู่คือแม่มดที่ถูกเขากักขังไว้…

สยงไท่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

เขาไม่ทันได้คิดอะไรมาก เสียงปืนก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา

ซูเถายืนขึ้นทันที เธอต้องการที่จะไปด้านหน้าเพื่อดู แต่ก็กลัวที่จะขัดขวางเหลยสิงและพวก เปลวไฟแห่งสงครามดำเนินต่อไปเกือบครึ่งชั่วโมง ซูเถาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย

เธอกลัวจริง ๆ ว่าเหลยสิงจะแสดงตนเป็นฮีโร่ต่อหน้าเธอ แต่เขาไม่มีความมั่นใจเต็มที่ในเรื่องนี้ หรือไม่ก็มีบางอย่างในสถานีเก่าที่พวกเขารับมือไม่ได้

สามารถมีอุบัติเหตุหรือเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เธอเลยต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

สีหน้าของสยงไท่ซีดเซียวลง

“ผมแค่จะบอกว่ากัปตันเหลยและพวกไม่มีโอกาสชนะ ถานหย่งเป็นใคร เขาครอบครองสถานีเก่ามากว่าสิบปีและมีคนเก่งมากมายอยู่ในมือ ถ้าเขาถูกจับเป็นได้ง่าย ๆ สถานีเก่าคงไม่อยู่มาถึงวันนี้”

ซูเถารู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล สีหน้าของเธอก็แย่ลงทันที หลังจากคิด เธอก็บีบหลังคอของเหลียนซา กดปากกระบอกปืนไปที่อีกฝ่ายแล้วถามว่า

“ถานหย่งมีจุดอ่อนอะไร ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะบีบบังคับให้เธอออกไปเพื่อบอกให้ถานหย่งหยุด แล้วค่อยฆ่าเธอซะ”

ในเวลานี้ เหลียนซารู้สึกว่าถานหย่งมีโอกาสชนะสูง และเธอมีโอกาสสูงที่จะได้รับการช่วยชีวิต ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถซ่อนความเกลียดชังในสายตาได้

เมื่อเห็นดวงตาของเธอสยงไท่ก็ตกใจ “จบแล้วเถ้าแก่ซู จบแล้ว คุณถูกเธอเกลียด!”

ซูเถาโยนเครื่องสื่อสารไปที่มือของเธอ ปล่อยมือเธอแล้วพูดว่า “พิมพ์ให้ฉันดู!”

ทันทีที่เหลียนซาปล่อยมือข้างหนึ่ง เธอก็จับใบหน้าของซูเถา ซูเถาหลบไม่ทัน ทำให้กรามของเธอมีรอยเลือดซึมเล็กน้อยจากเล็บของเหลียนซา

เมื่อเห็นเช่นนี้หลินฟางจือก็เตะเหลียนซาเข้าที่หน้า เตะเธอจนเซล้มลง พร้อมกับดึงผมของเธอแล้วกระแทกลงกับพื้นกรวด

ที่นี่มีกรวดมากมาย ใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์ของเหลียนซาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนในชั่วพริบตา

ซูเถาไม่ได้หยุดเขาและปล่อยให้สยงไท่จับเธอเป็นตัวประกัน ขณะที่เธอกำลังจะขับรถลงไป ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นสองครั้ง จากนั้นเสียงของเปลวไฟที่ต่อสู้ก็หยุดลงในทันใด

มันจบแล้ว!

ซูเถาไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนจะชนะ เธอจึงรีบอ้อมไปทางด้านหน้าของไหล่เขาและมองลงไป เห็นเพียงไฟที่ย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีดอกกุหลาบ

วินาทีต่อมา รถมอเตอร์ไซค์ไซเบอร์ที่ทรุดโทรมสามคันพุ่งออกมาจากเปลวเพลิง ก่อนที่ซูเถาจะมองเห็นได้ชัดเจน เสือดาวสีทองอีกตัวที่มีรูปร่างแข็งแรงก็ข้ามทะเลเพลิงมาพร้อมกับชายที่หมดสติอยู่ในปาก

ซูเถารีบขับรถลงไปพร้อมกับหลินฟางจือและคนอื่น ๆ และเมื่อพวกเขามาถึงด้านล่างของเนินเขา ก็เห็นกลุ่มของเป้าถูกระโดดลงจากรถ และกรีดร้องอย่างแปลกประหลาด พวกเขาตะโกนเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์การต่อสู้ พร้อมกับแสดงท่าทีแห่งชัยชนะ

หัวใจของซูเถาโล่งขึ้นมาก

ผมสั้นสีบลอนด์ของเหลยสิงถูกไฟไหม้ไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเขาที่อุ้มถานหย่งที่สลบอยู่ พลางขอคำชื่นชมจากซูเถา “สรรเสริญผม”

ซูเถาหัวเราะ “เยี่ยมมาก วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่”

จู่ ๆ เหลยสิงก็รู้สึกว่าการผจญภัยในวันนี้คุ้มค่า เขาโยนถานหย่งลงบนพื้นแล้วพูดว่า

“ที่เหลือก็เป็นหน้าที่คุณแล้ว ครั้งนี้พวกเขามีจำนวนคนมากเกินไป ดังนั้นพวกผมจึงฆ่าได้แค่สองสามคน และส่วนใหญ่ก็วิ่งหนีเตลิดไปในทะเลเพลิง”

หั่วเสอสาปแช่งและพูดอยู่ด้านข้าง

“ถานหย่งคนนี้บ้าไปแล้วจริง ๆ เขาพาคนมากมายมาที่นี่เพราะผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะเหลียงเช่อช่วยนำเชื้อเพลิงมาราดทั่วบริเวณนี้ล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นคราวนี้คงแย่”

เหลยสิงจ้องมองไปที่เขา

หั่วเสอหุบปากทันที

ทำเรื่องเสี่ยงครั้งใหญ่โดยไม่ให้เถ้าแก่ซูรู้

ซูเถามองดูพวกเขาทีละคนอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่และสบายดี เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังถามว่า

“พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ในฐานะกัปตันทีม เขาพูดเสียงดัง

“ทุกคนสบายดี แต่รถของเราน่าจะพังไปแล้ว”

ขณะที่เขาพูด เขาก็เตะด้านหน้าของรถเบา ๆ และชิ้นส่วนหลายชิ้นก็หลุดออกจากตัวรถและกลิ้งออกไป

ซูเถาพูดว่า “ฉันรับปากว่าฉันจะเปลี่ยนของใหม่ให้พวกคุณทั้งหมด! รีบเก็บของและกลับกันเถอะ เมื่อกลับไปถึงก็ไปหาหมอจงก่อนนะ

เหลยสิงเตะถานหย่งที่อยู่บนพื้นและพูดว่า

“คุณสามารถฆ่าเขาตอนนี้ได้เลย เพราะถ้าปล่อยเอาไว้ก็ไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้น”

ทันใดนั้นร่างหายของเหลียนซาก็กระตุกอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

ถานหย่งคือความหวังสุดท้ายของเธอ! เขาจะตายไม่ได้!

“หน้าคุณเป็นอะไรไป” เหลยสิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อสังเกตเห็นคราบเลือดบนกรามของซูเถา

สยงไท่ชี้ไปที่เหลียนซา “แม่มดคนนี้ทำเธอ!”

เหลยสิงส่งเสียง “หึ” เขายื่นมือไปที่หั่วเสอเพื่อขอปืน เขายกมือขึ้นและทรุดตัวลงข้างเหลียนซา ยังไม่ทันได้มีการตอบสนองอะไร ก็มีเลือดกระเซ็นไปทั่วบริเวณนั้น เธอเสียชีวิตคาที่

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท